BMW i5 eDrive40 M Sport: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม)[1]: 18.9 - 15.9; ระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม)[2]: 497 - 582
ไม่ต้องกังวลกับการหาจุดชาร์จ: ง่ายและสะดวกทุกที่ทุกเวลา รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดกำลังกลายมาเป็นรูปแบบใหม่ของการเดินทาง ซึ่งให้ทั้งความสะดวกและประหยัด วันนี้ คุณสามารถขับรถของคุณได้ทุกวันหรือแม้แต่เดินทางไกลได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จอีกต่อไป ด้วยตัวเลือกที่ยืดหยุ่นสำหรับการชาร์จและนวัตกรรมใหม่ของเทคโนโลยีระบบชาร์จ ชาร์จได้รวดเร็วระหว่างทาง หรือชาร์จสะดวกง่ายๆ ที่บ้าน เลือกระบบชาร์จที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ
ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายๆ
จุดชาร์จมากกว่า 200 จุดเพื่อคุณโดยเฉพาะ
ไม่ว่าคุณจะเดินทางไกลหรือขับรถไปทำธุระในเมือง ชาร์จกับผู้ให้บริการสถานีชาร์จในพื้นที่โดยใช้ BMW Charging ได้ทุกที่ทั่วประเทศไทย เพื่อให้คุณใช้งานรถยนต์ได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่วันแรกที่ได้เป็นเจ้าของ และเครือข่ายสถานีชาร์จของเรายังคงครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ BMW Charging ช่วยให้การใช้บริการชาร์จที่สถานีชาร์จของเราสะดวกและง่ายยิ่งขึ้น
Plug & Charge ชาร์จแล้วเดินทางได้ทันที
มากกว่าแค่เทคโนโลยีระบบชาร์จ BMW Plug & Charge อนาคตของระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ระบบนี้ Plug & Charge จะตรวจหาและยืนยันรถยนต์ของคุณโดยอัตโนมัติทันทีที่เสียบปลั๊กเข้ากับสถานีชาร์จ นอกจากนี้ ระบบยังรองรับสัญญาบริการชาร์จหลายสัญญา คุณจึงสามารถเลือกใช้สัญญาบริการจากผู้ให้บริการรายต่างๆ ที่บันทึกไว้ได้ ไม่ว่าจะชาร์จในนามรถยนต์ส่วนตัวหรือในนามบริษัท ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ
ระยะเวลาชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่สถานีชาร์จกำลังสูงเป็นวิธีชาร์จที่รวดเร็วที่สุด เนื่องจากสถานีชาร์จประเภทนี้มีกำลังการชาร์จสูง จึงทำให้ชาร์จได้ในระยะเวลารวดเร็วมาก ตัวอย่างเช่น BMW i5 eDrive40 M Sport ใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาทีเพื่อให้ได้ระยะขับขี่เพิ่มอีก 156 - 196 กิโลเมตร[4] ในกรณีที่ใช้ BMW Wallbox หรือ BMW Flexible Fast Charger คุณจะสามารถชาร์จ BMW i5 eDrive40 M Sport จนเต็มได้อย่างสะดวกที่บ้านในเวลาเพียง 8:30 / 4:15 ชั่วโมง[3]
การเปรียบเทียบระยะเวลาชาร์จ
BMW i5 eDrive40 M Sport: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม)[1]: 18.9 - 15.9; ระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม)[2]: 497 - 582
BMW i5 M60 xDrive: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม)[1]: 20.6 - 18.2; ระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม)[2]: 455 - 516
BMW i7 xDrive60 M Sport: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม)[1]: 19.6 - 18.4; ระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม)[2]: 590 - 625
BMW iX3 M Sport (Inspiring): อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม)[1]: 19.5 - 18.5; ระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม)[2]: 460
BMW iX xDrive50 Sport: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม)[1]: {techdata.electricConsumption}; ระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม)[2]: {techdata.electricRangeWltpCombined}
BMW iX2 xDrive30 M Sport: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม)[1]: 17.7 - 16.3; ระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม)[2]: 417 - 449
ระบบวางแผนเส้นทางของ BMW ช่วยให้คุณสามารถค้นหาสถานีชาร์จสาธารณะได้
แค่ขึ้นไปนั่งบนรถแล้วเลือกจุดหมายปลายทางเหมือนกับทุกครั้ง จากนั้นปล่อยให้ระบบนำทางจัดการให้โดยอัตโนมัติ การเลือกเส้นทางที่มีสถานีชาร์จระหว่างทางจะช่วยให้คุณเดินทางถึงที่หมายอย่างรวดเร็วและสบายใจ ระบบจะแสดงเส้นทางที่ใช้เวลาน้อยที่สุดทันที รวมถึงจุดชาร์จที่เหมาะสมที่สุดตลอดเส้นทาง
ทุกการเดินทางออกแบบตามความต้องการของคุณ
เลือกกิจกรรมที่อยากทำระหว่างรอรถยนต์ชาร์จไฟ
เลือกได้ว่าจุดชาร์จไหนที่เหมาะกับความต้องการของคุณ จะจิบกาแฟสบายๆ หรือชมวิว หรือช้อปปิ้ง เรามีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับสถานีชาร์จแต่ละแห่ง
ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ
ไม่พลาดทุกความต้องการ
ถ้าความต้องการของคุณเปลี่ยนไประหว่างเดินทาง คุณสามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางได้อย่างรวดเร็วและสะดวกตลอดเวลา จากนั้นระบบนำทางจะคำนวณเส้นทางใหม่ให้คุณ เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าของคุณชาร์จจนพร้อมสำหรับออกเดินทางต่อแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของคุณ เพลิดเพลินกับความสะดวกสบายเหล่านี้ได้ทันทีเมื่อติดตั้งแอพ My BMW[5] แอพจะตรวจสอบตารางคิวของสถานีชาร์จอย่างต่อเนื่องว่าว่างหรือไม่
เลือกดูเส้นทางที่มีสถานีชาร์จระหว่างทางได้จากแอพ My BMW แม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นเจ้าของรถยนต์ BMW ก็ตาม
ทดลองใช้ด้วยตัวเอง แล้วคุณจะพบกับความง่ายและสะดวกของการเลือกเส้นทางที่มีสถานีชาร์จระหว่างทาง เวอร์ชั่นทดลองใช้ของแอพจะช่วยให้คุณได้ลองสัมผัสกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของแอพ My BMW[5] แม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นเจ้าของรถยนต์ BMW แค่ดาวน์โหลดแอพและล็อกอิน ก็ทดลองใช้ได้ทันที
ปัญหาและวิธีแก้ไข
ทำความรู้จักกับเครือข่ายสถานีชาร์จของเราที่ครอบคลุมมากขึ้นเรื่อยๆ
วิธีชาร์จไฟที่จุดให้บริการสาธารณะ
1. ดาวน์โหลดแอปชาร์จ: ลงทะเบียนเพื่อดูสถานีชาร์จที่มีให้บริการ
2. เตรียมรถ BMW ของคุณ: ตั้งค่าฟังก์ชันการชาร์จที่หน้าจอรถยนต์ เลือกกระแสไฟฟ้าในการชาร์จ (16A ถึง 32A) ตามขีดจำกัดของรุ่นรถของคุณเพื่อให้การชาร์จเร็วขึ้น
3. เชื่อมต่อที่ชาร์จ: นำสายชาร์จที่อยู่บริเวณตู้มาเสียบที่ตัวรถ โดยรถไฟฟ้าของ BMW รองรับการชาร์จ 2 รูปแบบ คือ AC และ DC (รองรับแค่รถยนต์ไฟฟ้า)
4. ใช้แอปเพื่อยืนยันการชำระเงิน (เริ่มต้นที่ 45 บาทต่อชั่วโมง) และเริ่มการชาร์จ
5. ตรวจสอบความคืบหน้าการชาร์จ: ไฟสีน้ำเงินกระพริบแสดงว่ากำลังชาร์จ คุณสามารถดูสถานะแบตเตอรี่ได้บนหน้าจอ BMW หรือแอป My BMW
6. เมื่อเสร็จสิ้นการชาร์จ ปลดล็อก BMW ของคุณเพื่อถอดที่ชาร์จออก; เพื่อป้องกันการถอดออกโดยไม่ได้รับอนุญาต
*เช็คกำลังไฟฟ้าสูงสุดได้จากหน้าจอรถยนต์ที่ Setting > Charging Plan > ตัวเลือกของกำลังไฟฟ้าที่รถรับได้
**บริษัทอีโวลท์เทคโนโลยีเป็นผู้รับผิดชอบการเก็บค่าบริการ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยสนับสนุนพื้นที่และอำนวยความสะดวกในการจอดรถเท่านั้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้บริการ กรุณาติดต่อ Evolt คอลเซ็นเตอร์ที่ 02-114-7343 หรือ www.evolt.co.th
จุดชาร์จเพิ่มเติมกับ BMW Exclusive Parking
วันนี้บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า BMW ทุกท่าน ให้ได้สัมผัสกับความสุขและความสบายยิ่งกว่าเดิม สำหรับบริการจอดรถที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ พร้อมให้บริการจุดชาร์จแบบ AC 7 หรือ AC 22 กิโลวัตต์ ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้ง 8 แห่งใจกลางเมือง
สามารถเข้ารับบริการ BMW Exclusive Parking ทั้ง 8 จุดได้ที่:
- เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น B1 เสา U26
- U29 อาคารจอดรถ 3,000 คัน (ช่องชาร์จ 5 ช่อง)
- ไอคอน สยาม ชั้น UG เสา E3 - E6 (ช่องชาร์จ 2 ช่อง)
- เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 1 เสา E 13-19 (ช่องชาร์จ 6 ช่อง)
- เซ็นทรัล อีสวิลล์ ชั้น G โซน EV Charger (ช่องชาร์จ 6 ช่อง)
- เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ชั้น LG เสา K 21-23 (ช่องชาร์จ 6 ช่อง)
- เอ็มสเฟียร์ ชั้น B1 เสา 19-20 (ช่องชาร์จ 4 ช่อง)
- เมกา บางนา อาคารจอดรถอิเกีย ชั้น 1 โซน D1 (ช่องชาร์จ 3 ช่อง)
- วัน แบงค็อก จุดรับส่ง ชั้น G (ช่องชาร์จ 5 ช่อง)
จุดชาร์จระกับพรีเมียมทั่วประเทศ
จากความร่วมมือของพันธมิตรทั่วประเทศไทย ลูกค้าสามารถใช้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าบีเอ็มดับเบิลยู เพื่อชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถปลั๊กอินไฮบริดในที่สาธารณะได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะในโรงแรมหรูและศูนย์การค้าระดับไฮเอนด์ โดยคาดว่าเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านี้จะเพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยีขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าซึ่งยังคงก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยังได้ร่วมมือกับ Evolt Technology เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะให้กับลูกค้าของเรา โดยเฉพาะสิทธิพิเศษสําหรับรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEVs) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) ที่ได้ซื้อจากตัวแทนจําหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยลูกค้าสามารถยืนยันความเป็นเจ้าของรถด้วยการระบุหมายเลขประจําตัวรถ (VIN) เมื่อลงทะเบียนกับ EVolt และพร้อมรับสิทธิประโยชน์ดังต่อไปนี้
*ส่วนลดพิเศษ: เจ้าของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BEV จะได้รับส่วนลด 20% เมื่อเติมเงินในแอปพลิเคชัน EVolt
เจ้าของรถยนต์ BMW พลังงานไฟฟ้ารับส่วนลด 20%
ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่เป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (BEV) จะได้รับส่วนลดถึง 20% เมื่อเติมเงินสำหรับเครดิตการชาร์จผ่านแอปพลิเคชั่น Evolt โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Evolt -
- กรอกข้อมูลส่วนบุคคล, ยี่ห้อรถ และหมายเลขประจำยานพาหนะ (VIN)
- สามารถใช้สิทธิพิเศษดังกล่าวได้ทันทีกับหมายเลขประจำยานพาหนะที่ลงทะเบียนไว้
- BMW Contact Center: 1397
- BMW Line: @bmwthailand
- Evolt Call Center: 02-114-7343
- Evolt Website: https://evolt.co.th/register-bmw-campaign/
จุดให้บริการสาธารณะของ Evolt station
คำถามที่พบบ่อย
ทุกเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า
ความสิ้นเปลืองพลังงานและการปล่อย CO2
BMW i5 eDrive40 M Sport: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม)[1]: 18.9 - 15.9; ระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม)[2]: 497 - 582
BMW i5 M60 xDrive: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม)[1]: 20.6 - 18.2; ระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม)[2]: 455 - 516
BMW i7 xDrive60 M Sport: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม)[1]: 19.6 - 18.4; ระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม)[2]: 590 - 625
BMW iX3 M Sport (Inspiring): อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม)[1]: 19.5 - 18.5; ระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม)[2]: 460
BMW iX xDrive50 Sport: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม)[1]: {techdata.electricConsumption}; ระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม)[2]: {techdata.electricRangeWltpCombined}
BMW iX2 xDrive30 M Sport: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม)[1]: 17.7 - 16.3; ระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม)[2]: 417 - 449
[1] ข้อมูลอย่างเป็นทางการของอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง การปล่อย CO2 อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า และระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าเป็นค่าที่คำนวณโดยใช้กระบวนการวัดตามที่กำหนดและเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ (EC) 715/2007 ฉบับที่เกี่ยวข้อง ในกรณีวัดระยะทางการขับขี่ ข้อมูลที่ระบุตาม WLTP มีการนำอุปกรณ์เสริมมาพิจารณาด้วย (ในกรณีนี้คืออุปกรณ์เสริมเฉพาะที่มีในตลาดประเทศเยอรมนี) สำหรับรถยนต์ที่เพิ่งได้รับการรับรองประเภทตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2021 เป็นต้นไป ข้อมูลอย่างเป็นทางการจะระบุตาม WLTP เท่านั้น นอกจากนี้ ใบรับรองมาตรฐานจะไม่ระบุค่า NEDC ณ วันที่ 1 มกราคม 2023 ตามระเบียบข้อบังคับ EU Regulation 2022/195 ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการวัดค่า NEDC และ WLTP ได้ที่ www.bmw.de/wltp
ตัวเลขอย่างเป็นทางการของอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง การปล่อย CO2 อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า และระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าเป็นค่าที่คำนวณตาม Eco sticker ของประเทศไทย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.car.go.th/
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและค่าการปล่อย CO2 อย่างเป็นทางการของรถยนต์โดยสารส่วนบุคคลรุ่นใหม่แต่ละรุ่นได้จากเอกสาร "คำแนะนำเกี่ยวกับอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง การปล่อย CO2 และอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับรถยนต์โดยสารส่วนบุคคลรุ่นใหม่" ซึ่งสามารถขอได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ณ สถานที่จำหน่ายทุกแห่ง หรือขอได้จาก Deutsche Automobil Treuhand GmbH (DAT), Hellmuth-Hirth-Str. 1, 73760 Ostfildern-Scharnhausen, Germany รวมถึงสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ https://www.dat.de/co2/
[2] ระยะขับขี่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยต่อไปนี้: ลักษณะการขับขี่เฉพาะบุคคล ลักษณะของเส้นทาง อุณหภูมิภายนอก การใช้งานระบบทำความร้อน/ระบบปรับอากาศในขณะขับขี่และก่อนออกเดินทาง
[3] ประสิทธิภาพการชาร์จขึ้นอยู่กับสถานะการชาร์จ อุณหภูมิแวดล้อม รูปแบบการขับขี่ส่วนบุคคล และการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสริม ช่วงระยะการขับขี่ที่แสดงอ้างอิงจากสถานการณ์ที่ดีที่สุดตาม WLTP เวลาในการชาร์จใช้กับอุณหภูมิแวดล้อม 23 องศาเซลเซียสหลังจากการขับขี่ที่ผ่านมา และอาจแตกต่างกันตามลักษณะการใช้งาน
[4] ระยะขับขี่ในหน่วย กม หลังจากการชาร์จกำลังไฟสูง (HPC) เป็นเวลา 10 นาที คำนวณตามเกณฑ์ DIN70080 ในรอบการทดสอบ WLTP โดยขึ้นอยู่กับอุปกรณ์รถยนต์ ลักษระการขับขี่ของแต่ละบุคคล อุณหภูมิแวดล้อม สถานะของการชาร์จ และการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ภายในรถยนต์
[5] แอพ My BMW รองรับการใช้งานร่วมกับรถยนต์ BMW ทุกรุ่นตั้งแต่รุ่นปี 2014 เป็นต้นมา โดยรถยนต์จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ ConnectedDrive Services ติดตั้งอยู่และผู้ใช้ต้องมีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับ ความพร้อมใช้งานและฟังก์ชั่นของแอพ My BMW จะแตกต่างกันออกไปสำหรับแต่ละประเทศ
[6] ข้อเสนอเฉพาะในบางประเทศสำหรับรถยนต์ใหม่ที่ซื้อจากสาขาและตัวแทนจำหน่าย BMW ในยุโรปที่อยู่ในเครือข่าย BMW Charging
มีข้อควรระวังอะไรเมื่อจะชาร์จไฟ
- ตรวจสอบสภาพทั่วไปของอุปกรณ์การชาร์จ (ช่องเสียบที่รถยนต์, สายชาร์จ, สถานีชาร์จ, ช่องจ่ายไฟ) ความเสียหายของอุปกรณ์การชาร์จ เช่น หน้าสัมผัสสกปรก, หลวม, สึกหรอ อาจทำให้เกิดอุณหภูมิสูงเกินกำหนดที่บริเวณดังกล่าวซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้
- หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่ในบริเวณใกล้กับสาร, วัตถุไวไฟ รวมถึงไม่ชาร์จแบตเตอรี่ระหว่างเติมน้ำมันเชื้อเพลิง
- ในกรณีที่ใช้สายชาร์จที่มีให้ในรถยนต์ ให้ต่อสายชาร์จโดยตรงกับปลั๊กไฟบ้านเท่านั้น ไม่แนะนำให้ต่อสายชาร์จผ่านปลั๊กพ่วงหรือต่อผ่านอแดปเตอร์ใดๆ
- หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่ในสภาวะแวดล้อมเปียกชื้น เช่นชาร์จกลางแจ้งขณะฝนตก หรือ ขณะล้างรถยนต์
- การตั้งระดับกระแสไฟชาร์จที่สูงเกินไปอาจทำให้ระบบจ่ายไฟของที่พักอาศัย หรือจุดจ่ายไฟนั้นๆเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นในกรณีที่ชาร์จไฟจากจุดจ่ายไฟที่ไม่มั่นใจในโครงสร้างการจ่ายไฟของระบบนั้น แนะนำให้ตั้งระดับกระแสไฟชาร์จให้ต่ำที่สุด
- รถยนต์ไฟฟ้าหรือ รถปลั๊กอินไฮบริท ควรได้รับการชาร์จสม่ำเสมอเพื่อรักษาอายุของแบตเตอรี่ โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้รถยนต์ในระยะทางสั่นๆเป็นประจำ หรือ รถยนต์ไม่ได้ถูกใช้งานมากกว่า 1 เดือน
- ไม่แนะนำให้จอดรถยนต์ไฟฟ้าหรือ รถปลั๊กอินไฮบริท ทิ้งไว้นานกว่า 3เดือนที่ระดับแบตเตอรี่ต่ำกว่าประมาณ 50% ในกรณีที่จำเป็นต้องจอดรถยนต์ไว้เป็นระยะเวลานานแนะนำให้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มทั้งก่อนและหลังจากนำรถยนต์กลับมาใช้อีกครั้ง
- ตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัย
