รถยนต์พลังงานไฟฟ้า BMW

แบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้าทำหน้าที่เก็บพลังงาน และมอเตอร์ไฟฟ้าจะแปลงพลังงานนี้เป็นการเคลื่อนที่ และส่งกำลังที่ได้ไปยังล้อโดยตรง โดยไม่ต้องทดรอบด้วยเกียร์เหมือนรถทั่วไป ดังนั้นเพียงแค่เหยียบคันเร่ง คุณจะรู้สึกได้ถึงอัตราเร่งเต็มกำลังในทันที รถยนต์ไฟฟ้าแตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป เนื่องจากสามารถเรียกพละกำลังขับขี่ได้เต็มที่แม้จะใช้ความเร็วต่ำ ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกได้ถึงอัตราเร่งที่ทรงพลังและทันใจจากจุดหยุดนิ่ง

อุณหภูมิถือเป็นปัจจัยภายนอกสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและความจุของแบตเตอรี่ ซึ่งคุณคงเคยเห็นตัวอย่างมาแล้วกับโทรศัพท์มือถือของคุณ โดยความจุแบตเตอรี่จะลดลงเมื่ออุณหภูมิต่ำมาก รถยนต์ไฟฟ้าเองก็เช่นกัน อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิจะส่งผลกระทบน้อยมากหากเลือกวิธีการใช้งานรถยนต์อย่างเหมาะสม 

และคุณทราบหรือไม่ว่า ความจุของแบตเตอรี่ส่งผลต่อระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ของรถด้วยเช่นกัน นอกจากอุณหภูมิแล้ว ระยะขับขี่ยังได้รับผลกระทบจากลักษณะการขับขี่ของผู้ขับ รวมถึงการใช้พลังงานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถ เช่น ระบบปรับอากาศ การลากพ่วงเทรลเล่อร์ การบรรทุกสัมภาระ เป็นต้น แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดในส่วนของลักษณะการขับขี่คือ ความเร็วที่ใช้บนทางด่วน

ในกรณีที่ต้องชาร์จรถยนต์ระหว่างเดินทาง หากคุณเลือกจุดหมายปลายทางเป็นสถานีชาร์จ DC รถยนต์ไฟฟ้าล้วน BMW จะปรับสภาพการทำงานให้พร้อมเมื่อถึงที่หมาย ซึ่งหมายถึงแบตเตอรี่แรงดันไฟสูงจะถูกควบคุมอุณหภูมิทำงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเมื่อไปถึงที่หมาย ซึ่งจะช่วยให้คุณชาร์จพลังงานได้มากขึ้นและใช้เวลาชาร์จน้อยลง

หากคุณต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน เช่น เมื่อไปเที่ยวในช่วงวันหยุด คุณสามารถทำหลายๆ อย่างได้เพื่อให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานนานขึ้น เช่น รักษาระดับประจุไฟฟ้าของแบตเตอรี่ให้อยู่ระหว่าง 30 ถึง 50% รวมถึงจอดรถในที่เย็นหรือใต้ร่มเงาในช่วงฤดูร้อนและจอดรถในโรงรถในช่วงฤดูหนาว ห้ามเสียบปลั๊กชาร์จรถยนต์ทิ้งไว้เพื่อชาร์จรถหากต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน

รถยนต์ไฟฟ้ามีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในสายตาคนทั่วไป เนื่องจากไม่มีการปล่อยไอเสียออกมาเหมือนกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป อย่างไรก็ตาม หากลองมองถึงวงจรอายุโดยรวมของรถยนต์ไฟฟ้า เราจะเห็นภาพรวมจากอีกมุมมองหนึ่ง: ห่วงโซ่อุปทานของวัตถุดิบและในระหว่างการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามีการปล่อยทั้งมลพิษ CO2 และสารมลพิษอื่นๆ นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาถึงที่มาของพลังงานไฟฟ้าด้วยเช่นกัน การผลิตแบตเตอรี่แรงดันไฟสูงเป็นกระบวนการที่ใช้พลังงานสูง ดังนั้น การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจึงก่อมลพิษมากกว่าการผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป แต่ตัวเลขนี้จะพลิกกลับกันเมื่อใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า คุณสามารถเพิ่มความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับรถยนต์ของคุณได้ โดยเลือกชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านด้วยพลังงานสะอาด เช่น ไฟฟ้าที่ได้จากระบบโซลาร์เซลล์ภายในบ้าน ถ้าเรามองจากภาพรวมวงจรอายุของรถยนต์ไฟฟ้าหนึ่งคัน เราจะเห็นได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าส่งผลต่อภาวะโลกร้อนน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป

นอกจากนี้ คุณยังต้องพิจารณาถึงประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนด้วยเช่นกัน ประสิทธิภาพในที่นี้ หมายถึงอัตราส่วนของพลังงานที่จ่ายให้ระบบ ซึ่งถูกแปลงเป็นรูปแบบพลังงานที่ต้องการจริงๆ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้ายุคปัจจุบันของรถยนต์ไฟฟ้า BMW มีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่ที่ 95%⁵ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพจะลดลงเหลือประมาณ 75% หากนำรอบการขับตามที่กำหนดสำหรับ EU (WLTP) และพลังงานสูญเสียระหว่างการชาร์จ และการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่มาคำนวณร่วมด้วย ดังนั้น เมื่อคุณขับรถยนต์ไฟฟ้า BMW พลังงานประมาณ 75% ของที่ชาร์จเก็บไว้จะถูกแปลงเป็นพลังงานในการขับเคลื่อนรถ ถ้าเปรียบเทียบโดยใช้เกณฑ์ใกล้เคียงกัน รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินจะมีประสิทธิภาพอยู่ที่ประมาณ 20% ยิ่งไปกว่านั้น รถยนต์ไฟฟ้ายังมีข้อดีตรงที่เสียงเงียบ ดังนั้นจึงไม่ส่งผลต่อคนและสัตว์ในบริเวณใกล้เคียง

⁵ ระบบขับเคลื่อนประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า, ระบบอิเล็กทรอนิกส์กำลังและระบบเกียร์, ค่าประสิทธิภาพที่ระบุเป็นค่าที่ดีที่สุด

มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อแบตเตอรี่ การชาร์จจะส่งผลต่อระยะขับขี่ อายุการใช้งาน และกำลังของแบตเตอรี่เป็นหลัก ดังนั้น เพื่อให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานนานที่สุด BMW ขอแนะนำให้รักษาระดับประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่ไว้ที่ 10 ถึง 80% สำหรับการใช้งานประจำวันทั่วไป และควรชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% สำหรับการเดินทางไกลเท่านั้น รวมทั้งควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนออกเดินทางเล็กน้อย การขับขี่อย่างระมัดระวังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ นอกจากนี้ควรสังเกตระดับประจุไฟฟ้าของแบตเตอรี่ในกรณีที่ไม่ได้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเวลานาน โดยควรรักษาระดับประจุไฟฟ้าให้อยู่ที่ 30 ถึง 50%

รถยนต์ไฟฟ้า BMW ส่งกำลังการเร่งความเร็วไปยังล้อโดยตรงและสามารถเรียกกำลังเต็มที่ได้ทันทีเกือบทุกช่วงความเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากลักษณะการส่งกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า ในมุมมองของรถยนต์ไฟฟ้า นั่นหมายความว่า ไม่จำเป็นต้องใช้เกียร์หลายจังหวะหรือคลัตช์ รถยนต์ไฟฟ้าสามารถขับขี่ได้ง่าย ไม่ต่างจากรถยนต์ BMW ที่ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ