เครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในทุกพื้นที่

BMW Charging Station ร่วมมือกับพันธมิตรในให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในสถานที่สาธารณะ โรงแรม และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงการขยายเครือข่ายในประเทศไทย พร้อมๆ กับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี E-mobility

HOW TO: CHARGING ELECTRIC MOBILITY.

อิสระในการชาร์จไฟรถยนต์ได้ง่ายๆ ในทุกที่ที่เดินทาง

อ่านเพิ่มเติม

วิธีชาร์จไฟที่จุดให้บริการสาธารณะ

  1. ตรวจสอบเครือข่ายผู้ให้บริการ และดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นดังกล่าวเพื่อลงทะเบียนก่อน
  2. ตั้งค่าฟังก์ชันการชาร์จที่หน้าจอรถยนต์ เพื่อเป็นการเตรียมรถให้เหมาะสมกับสถานที่ที่จะทำการชาร์จไฟ โดยตั้งค่าการชาร์จด้วยกระแสไฟได้สูงสุดถึง 16A-32A* เพื่อลดระยะเวลาชาร์จไฟลง (ขึ้นอยู่กับกำลังไฟสูงสุดที่รถแต่ละรุ่นจะรับได้)
  3. ดับเครื่องยนต์ และนำสายชาร์จที่อยู่บริเวณตู้มาเสียบที่ตัวรถ โดยรถไฟฟ้าของ BMW รองรับการชาร์จ 2 รูปแบบ คือ AC และ DC (รองรับแค่รถยนต์ไฟฟ้า)
  4. กดสั่งจ่ายไฟบนแอปพลิเคชั่นดังกล่าว เพื่อชำระค่ากระแสไฟ
  5. ตรวจสอบสถานะกระแสไฟ หากเป็นสีฟ้ากระพริบ แล้ว แปลว่ากำลังชาร์จปกติ สามารถตรวจสอบเวลาชาร์จ และระดับไฟฟ้าในแบตเตอรี่ ได้จากสองช่องทางด้วยกัน
  6. เมื่อเสร็จสิ้นการชาร์จ ปลดล็อครถเพื่อปลดสายชาร์จ หากไม่ปลดล็อครถ จะไม่สามารถดึงสายชาร์จออกได้ เพื่อป้องกันมาดึงสายชาร์จไปจากรถโดยไม่ได้รับอนุญาต


*เช็คกำลังไฟฟ้าสูงสุดได้จากหน้าจอรถยนต์ที่ Setting > Charging Plan > ตัวเลือกของกำลังไฟฟ้าที่รถรับได้

อ่านเพิ่มเติม
วิธีชาร์จไฟที่บ้าน

วิธีชาร์จไฟที่บ้าน

วิธีชาร์จไฟที่บ้าน แนะนำให้ชาร์จผ่าน BMW Wallbox

  1. ตั้งค่ากระแสไฟฟ้าที่ 16A-32A จากเมนูตั้งค่าในรถยนต์ (Charging Plan)
  2. ดับเครื่องยนต์ และนำสายชาร์จที่เครื่อง BMW Wallbox มาเสียบที่ตัวรถ
  3. ตรวจสอบสถานะกระแสไฟ หากเป็นสีฟ้ากระพริบ แล้ว แปลว่ากำลังชาร์จปกติ สามารถตรวจสอบเวลาชาร์จ และระดับไฟฟ้าในแบตเตอรี่ได้จากสองช่องทางด้วยกัน
  4. เมื่อเสร็จสิ้นการชาร์จ ปลดล็อครถเพื่อปลดสายชาร์จ หากไม่ปลดล็อครถ จะไม่สามารถดึงสายชาร์จออกได้ เพื่อป้องกันมาดึงสายชาร์จไปจากรถโดยไม่ได้รับอนุญาต
  5. หากต้องการตั้งเวลาชาร์จล่วงหน้า สามารถเลือกเวลาเริ่มชาร์จและเวลาหยุดชาร์จจากหน้าจอ Display ฟังก์ชั่น Charging Time Slot ในกรณีที่เราเสียบสายชาร์จทิ้งไว้ และอยากเริ่มชาร์จในช่วงเวลาที่อัตราค่าไฟฟ้าถูกกว่า


ข้อควรระวัง
 ในกรณีฉุกเฉินที่ต้องใช้สายชาร์จสำรอง (mode 2 cable หรือ Flexible Charge) ที่ใช้เสียบกับปลั๊กไฟบ้าน ให้เลือกชาร์จด้วยกระแสไฟต่ำที่ 6A เพื่อความปลอดภัย และไม่ควรนำมาใช้เป็นประจำ เนื่องจากระบบไฟในบ้านอาจไม่ตรงตามมาตรฐานสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และที่สำคัญ ห้ามต่อกับปลั๊กพ่วง หรือหัวแปลงปลั๊กไฟ (Adaptor) เด็ดขาด

*เช็คกำลังไฟฟ้าสูงสุดได้จากหน้าจอรถยนต์ที่ Setting > Charging Plan > ตัวเลือกของกำลังไฟฟ้าที่รถรับได้

 

 

 

อ่านเพิ่มเติม

วันนี้บีเอ็มดับเบิลยู ปรเทศไทย พร้อมแล้วที่จะมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า BMW ทุกท่าน ให้ได้สัมผัสกับความสุขและความสบายยิ่งกว่าเดิม สำหรับบริการจอดรถที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ พร้อมให้บริการที่จุดชาร์จแบบ AC 7 กิโลวัตต์ ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้ง 6 แห่งใจกลางเมือง

สามารถเข้ารับบริการ BMW Exclusive Parking ทั้ง 6 จุดได้ที่
- เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น B1 เสา U26 - U29 อาคารจอดรถ 3,000 คัน
- ไอคอน สยาม ชั้น UG เสา E3 - E6
- เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 1 เสา E 13-19 
- เซ็นทรัล อีสวิลล์ ชั้น G โซน EV Charger
- เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ชั้น LG เสา K 21-23
- เอ็มสเฟียร์ ชั้น B1 เสา 19-20

อ่านเพิ่มเติม

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จับมืออีโวลท์ เทคโนโลยี ยกระดับประสบการณ์สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะสำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู

เฉพาะลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่เป็นเจ้าของรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และ รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (BEV) จากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ จะได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกับบริการสุดพิเศษเมื่อใช้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้าของอีโวลท์ เทคโนโลยี อาทิ เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลงานบริการลูกค้าของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลสำคัญ เช่น ที่ตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าและการวางแผนเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้ารายใดก็ตาม ได้ที่เบอร์ 02-114-7343 ทั้งนี้ ลูกค้าจะต้องยืนยันความเป็นเจ้าของรถยนต์โดยการแจ้งหมายเลขประจำยานพาหนะ (VIN) กับเจ้าหน้าที่ ที่ให้บริการ

อ่านเพิ่มเติม


นอกจากนั้น ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่เป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (BEV) จะได้รับส่วนลดถึง 20% เมื่อเติมเงินสำหรับเครดิตการชาร์จผ่านแอปพลิเคชั่น Evolt โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

  1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Evolt
  2. กรอกข้อมูลส่วนบุคคล, ยี่ห้อรถ และหมายเลขประจำยานพาหนะ (VIN)
  3. สามารถใช้สิทธิพิเศษดังกล่าวได้ทันทีกับหมายเลขประจำยานพาหนะที่ลงทะเบียนไว้

BMW Contact Center : 1397
BMW Line : @bmwthailand
Evolt Call Center: 02-114-7343
Evolt Website: https://evolt.co.th/register-bmw-campaign/

อ่านเพิ่มเติม

จุดให้บริการสาธารณะของ EVOLT STATION


Charging

อุปกรณ์และบริการสำหรับการชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน (AC : ไฟฟ้ากระแสสลับ)

BMW e-mobility BMW Wallbox Essential การชาร์จรถไฟฟ้า กล่องชาร์จไฟติดผนัง

BMW Wallbox

กล่องชาร์จไฟติดผนังถาวร BMW Wallbox คือปั๊มน้ำมันประจำบ้าน มันชาร์จไฟได้เร็ว เชื่อถือได้และสะดวก ด้วยกระแสไฟฟ้าสูงสุด 22 กิโลวัตต์* นอกจากเล็กกะทัดรัดด้วยการออกแบบของ BMW แล้ว กล่องชาร์จนี้ยังมีสายเคเบิลมาพร้อม มีหน้าจอแสดงปริมาณสถานะไฟฟ้า ระบบตรวจสอบกระแสไฟผิดปกติในตัวทำให้การติดตั้งกระทำได้ง่ายและประหยัด *ขึ้นอยู่กับกำลังไฟสูงสุดที่รถแต่ละรุ่นจะรับได้
คำแนะนำและคู่มือการใช้งาน
BMW e-mobility Flexible Charger การชาร์จรถไฟฟ้า

Flexible Fast Charger

ในกรณีฉุกเฉิน เลือกชาร์จด้วยกระแสไฟต่ำที่ 6A เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือระหว่างทาง กล่องกันน้ำและสายเคเบิลชาร์จของ Flexible Fast Charger คืออุปกรณ์ที่มีความคล่องตัวสูงและใช้งานนอกสถานที่ได้ เหมาะกับการใช้งานทั้งที่บ้านและระบบไฟแบบสามเฟส
BMW e-mobility การชาร์จรถไฟฟ้า สายเคเบิลชาร์จไฟมาตรฐาน

สายเคเบิลชาร์จไฟมาตรฐาน (Mode 2)

ในกรณีฉุกเฉิน เลือกชาร์จด้วยกระแสไฟต่ำที่ 6A เท่านั้น สายเคเบิลชาร์จมาตรฐานขนาด 2.3 กิโลวัตต์คืออุปกรณ์ที่มาพร้อมกับรถยนต์ไฟฟ้า BMW* ความยาวห้าเมตรเพียงพอสำหรับใช้เสียบช่องปลั๊กบ้าน ห้ามใช้สายเคเบิลต่อและช่องปลั๊กแบบหลายช่องเด็ดขาด
BMW e-mobility การชาร์จรถไฟฟ้า บริการติดตั้ง

บริการติดตั้ง

จองบริการผ่านผู้จำหน่ายฯ อย่างเป็นทางการของคุณ การติดตั้งพร้อมกับ Wallbox ได้ง่าย มั่นใจได้ว่า Wallbox ได้ถูกติดตั้งและตั้งค่าการใช้งานอย่างอย่างปลอดภัยจากมืออาชีพ

FAQ

คำถามที่พบบ่อย: คำถามและคำตอบสำคัญเกี่ยวกับการชาร์จไฟ

  • ไฟบอกสถานะที่ช่องชาร์จ สามารถดูได้จากฝาเปิด-ปิดที่ชาร์จของตัวรถ
  • การชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) กระแสตรง (DC) ที่สถานี ต่างกันอย่างไร?
  • ปริมาณไฟฟ้าที่เหมาะสมที่สุดในแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า BMW คือแค่ไหน?
  • ฉันจะตรวจสอบสถานะการชาร์จไฟของรถยนต์ไฟฟ้าและรถปลั๊กอินไฮบริด BMW ได้อย่างไร?
  • หากชาร์จไฟไม่เข้า สามารถตรวจสอบอุปกรณ์เบื้องต้นอย่างไร?
  • ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current: DC)
  • ไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternating Current: AC)
  • กิโลวัตต์ (kW) และ แอมป์ (A)

มีข้อควรระวังอะไรเมื่อจะชาร์จไฟ

  • ตรวจสอบสภาพทั่วไปของอุปกรณ์การชาร์จ (ช่องเสียบที่รถยนต์, สายชาร์จ, สถานีชาร์จ, ช่องจ่ายไฟ) ความเสียหายของอุปกรณ์การชาร์จ เช่น หน้าสัมผัสสกปรก, หลวม, สึกหรอ อาจทำให้เกิดอุณหภูมิสูงเกินกำหนดที่บริเวณดังกล่าวซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้
  • หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่ในบริเวณใกล้กับสาร, วัตถุไวไฟ รวมถึงไม่ชาร์จแบตเตอรี่ระหว่างเติมน้ำมันเชื้อเพลิง
  • ในกรณีที่ใช้สายชาร์จที่มีให้ในรถยนต์ ให้ต่อสายชาร์จโดยตรงกับปลั๊กไฟบ้านเท่านั้น ไม่แนะนำให้ต่อสายชาร์จผ่านปลั๊กพ่วงหรือต่อผ่านอแดปเตอร์ใดๆ
  • หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่ในสภาวะแวดล้อมเปียกชื้น เช่นชาร์จกลางแจ้งขณะฝนตก หรือ ขณะล้างรถยนต์
  • การตั้งระดับกระแสไฟชาร์จที่สูงเกินไปอาจทำให้ระบบจ่ายไฟของที่พักอาศัย หรือจุดจ่ายไฟนั้นๆเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นในกรณีที่ชาร์จไฟจากจุดจ่ายไฟที่ไม่มั่นใจในโครงสร้างการจ่ายไฟของระบบนั้น แนะนำให้ตั้งระดับกระแสไฟชาร์จให้ต่ำที่สุด
  • รถยนต์ไฟฟ้าหรือ รถปลั๊กอินไฮบริท ควรได้รับการชาร์จสม่ำเสมอเพื่อรักษาอายุของแบตเตอรี่ โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้รถยนต์ในระยะทางสั่นๆเป็นประจำ หรือ รถยนต์ไม่ได้ถูกใช้งานมากกว่า 1 เดือน
  • ไม่แนะนำให้จอดรถยนต์ไฟฟ้าหรือ รถปลั๊กอินไฮบริท ทิ้งไว้นานกว่า 3เดือนที่ระดับแบตเตอรี่ต่ำกว่าประมาณ 50% ในกรณีที่จำเป็นต้องจอดรถยนต์ไว้เป็นระยะเวลานานแนะนำให้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มทั้งก่อนและหลังจากนำรถยนต์กลับมาใช้อีกครั้ง
  • ตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัย
อ่านเพิ่มเติม

PRIVILEGE PARKING

Privilege Parking
  • Privilege Parking at Central World
  • Coming Soon