เครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในทุกพื้นที่
BMW Charging Station ร่วมมือกับพันธมิตรในให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในสถานที่สาธารณะ โรงแรม และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงการขยายเครือข่ายในประเทศไทย พร้อมๆ กับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี E-mobility.
How to: Charging electric mobility.
อิสระในการชาร์จไฟรถยนต์ได้ง่ายๆ ในทุกที่ที่เดินทาง
วันนี้บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า BMW ทุกท่าน ให้ได้สัมผัสกับความสุขและความสบายยิ่งกว่าเดิม สำหรับบริการจอดรถที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ พร้อมให้บริการจุดชาร์จแบบ AC 7 หรือ AC 22 กิโลวัตต์ ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้ง 8 แห่งใจกลางเมือง
สามารถเข้ารับบริการ BMW Exclusive Parking ทั้ง 8 จุดได้ที่
- เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น B1 เสา U26 - U29 อาคารจอดรถ 3,000 คัน
- ไอคอน สยาม ชั้น UG เสา E3 - E6
- เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 1 เสา E 13-19
- เซ็นทรัล อีสวิลล์ ชั้น G โซน EV Charger
- เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ชั้น LG เสา K 21-23
- เอ็มสเฟียร์ ชั้น B1 เสา 19-20
- เมกา บางนา อาคารจอดรถอิเกีย ชั้น 1 โซน D1
- วัน แบงค็อก จุดรับส่ง ชั้น G

สถานีชาร์จสาธารณะ
จากความร่วมมือของพันธมิตรทั่วประเทศไทย ลูกค้าสามารถใช้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าบีเอ็มดับเบิลยู เพื่อชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถปลั๊กอินไฮบริดในที่สาธารณะได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะในโรงแรมหรูและศูนย์การค้าระดับไฮเอนด์ โดยคาดว่าเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านี้จะเพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยีขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าซึ่งยังคงก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยังได้ร่วมมือกับ Evolt Technology เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะให้กับลูกค้าของเรา โดยเฉพาะสิทธิพิเศษสําหรับรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEVs) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) ที่ได้ซื้อจากตัวแทนจําหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยลูกค้าสามารถยืนยันความเป็นเจ้าของรถด้วยการระบุหมายเลขประจําตัวรถ (VIN) เมื่อลงทะเบียนกับ EVolt และพร้อมรับสิทธิประโยชน์ดังต่อไปนี้
- ส่วนลด 20%:เจ้าของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BEV จะได้รับส่วนลด 20% เมื่อเติมเงินในแอปพลิเคชัน EVolt
นอกจากนั้น ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่เป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (BEV) จะได้รับส่วนลดถึง 20% เมื่อเติมเงินสำหรับเครดิตการชาร์จผ่านแอปพลิเคชั่น Evolt โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Evolt
- กรอกข้อมูลส่วนบุคคล, ยี่ห้อรถ และหมายเลขประจำยานพาหนะ (VIN)
- สามารถใช้สิทธิพิเศษดังกล่าวได้ทันทีกับหมายเลขประจำยานพาหนะที่ลงทะเบียนไว้
BMW Contact Center : 1397
BMW Line : @bmwthailand
Evolt Call Center: 02-114-7343
Evolt Website: https://evolt.co.th/register-bmw-campaign/
จุดให้บริการสาธารณะของ Evolt station

อุปกรณ์และบริการสำหรับการชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน (AC : ไฟฟ้ากระแสสลับ)

BMW Wallbox
กล่องชาร์จไฟติดผนังถาวร BMW Wallbox คือปั๊มน้ำมันประจำบ้าน มันชาร์จไฟได้เร็ว เชื่อถือได้และสะดวก ด้วยกระแสไฟฟ้าสูงสุด 22 กิโลวัตต์* นอกจากเล็กกะทัดรัดด้วยการออกแบบของ BMW แล้ว กล่องชาร์จนี้ยังมีสายเคเบิลมาพร้อม มีหน้าจอแสดงปริมาณสถานะไฟฟ้า ระบบตรวจสอบกระแสไฟผิดปกติในตัวทำให้การติดตั้งกระทำได้ง่ายและประหยัด *ขึ้นอยู่กับกำลังไฟสูงสุดที่รถแต่ละรุ่นจะรับได้

Flexible Fast Charger
ในกรณีฉุกเฉิน เลือกชาร์จด้วยกระแสไฟต่ำที่ 6A เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือระหว่างทาง กล่องกันน้ำและสายเคเบิลชาร์จของ Flexible Fast Charger คืออุปกรณ์ที่มีความคล่องตัวสูงและใช้งานนอกสถานที่ได้ เหมาะกับการใช้งานทั้งที่บ้านและระบบไฟแบบสามเฟส

สายเคเบิลชาร์จไฟมาตรฐาน (Mode 2)
ในกรณีฉุกเฉิน เลือกชาร์จด้วยกระแสไฟต่ำที่ 6A เท่านั้น สายเคเบิลชาร์จมาตรฐานขนาด 2.3 กิโลวัตต์คืออุปกรณ์ที่มาพร้อมกับรถยนต์ไฟฟ้า BMW* ความยาวห้าเมตรเพียงพอสำหรับใช้เสียบช่องปลั๊กบ้าน ห้ามใช้สายเคเบิลต่อและช่องปลั๊กแบบหลายช่องเด็ดขาด

บริการติดตั้ง
จองบริการผ่านผู้จำหน่ายฯ อย่างเป็นทางการของคุณ การติดตั้งพร้อมกับ Wallbox ได้ง่าย มั่นใจได้ว่า Wallbox ได้ถูกติดตั้งและตั้งค่าการใช้งานอย่างอย่างปลอดภัยจากมืออาชีพ
FAQ
คำถามที่พบบ่อย: คำถามและคำตอบสำคัญเกี่ยวกับการชาร์จไฟ
มีข้อควรระวังอะไรเมื่อจะชาร์จไฟ
- ตรวจสอบสภาพทั่วไปของอุปกรณ์การชาร์จ (ช่องเสียบที่รถยนต์, สายชาร์จ, สถานีชาร์จ, ช่องจ่ายไฟ) ความเสียหายของอุปกรณ์การชาร์จ เช่น หน้าสัมผัสสกปรก, หลวม, สึกหรอ อาจทำให้เกิดอุณหภูมิสูงเกินกำหนดที่บริเวณดังกล่าวซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้
- หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่ในบริเวณใกล้กับสาร, วัตถุไวไฟ รวมถึงไม่ชาร์จแบตเตอรี่ระหว่างเติมน้ำมันเชื้อเพลิง
- ในกรณีที่ใช้สายชาร์จที่มีให้ในรถยนต์ ให้ต่อสายชาร์จโดยตรงกับปลั๊กไฟบ้านเท่านั้น ไม่แนะนำให้ต่อสายชาร์จผ่านปลั๊กพ่วงหรือต่อผ่านอแดปเตอร์ใดๆ
- หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่ในสภาวะแวดล้อมเปียกชื้น เช่นชาร์จกลางแจ้งขณะฝนตก หรือ ขณะล้างรถยนต์
- การตั้งระดับกระแสไฟชาร์จที่สูงเกินไปอาจทำให้ระบบจ่ายไฟของที่พักอาศัย หรือจุดจ่ายไฟนั้นๆเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นในกรณีที่ชาร์จไฟจากจุดจ่ายไฟที่ไม่มั่นใจในโครงสร้างการจ่ายไฟของระบบนั้น แนะนำให้ตั้งระดับกระแสไฟชาร์จให้ต่ำที่สุด
- รถยนต์ไฟฟ้าหรือ รถปลั๊กอินไฮบริท ควรได้รับการชาร์จสม่ำเสมอเพื่อรักษาอายุของแบตเตอรี่ โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้รถยนต์ในระยะทางสั่นๆเป็นประจำ หรือ รถยนต์ไม่ได้ถูกใช้งานมากกว่า 1 เดือน
- ไม่แนะนำให้จอดรถยนต์ไฟฟ้าหรือ รถปลั๊กอินไฮบริท ทิ้งไว้นานกว่า 3เดือนที่ระดับแบตเตอรี่ต่ำกว่าประมาณ 50% ในกรณีที่จำเป็นต้องจอดรถยนต์ไว้เป็นระยะเวลานานแนะนำให้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มทั้งก่อนและหลังจากนำรถยนต์กลับมาใช้อีกครั้ง
- ตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัย