เครื่องมือจัดการการอนุญาตของคุณให้ใช้คุกกี้ของเรากำลังออฟไลน์ชั่วคราว การทำงานบางอย่างที่ต้องใช้คำยินยอมให้ใช้คุกกี้อาจหายไป
THE BMW 3 SERIES GRAN TURISMO
ทุกครั้งที่พูดถึงรถยนต์ประเภท Gran Turismo หรือ GT เราจะต้องย้อนกลับไปหาจุดตั้งต้นที่ให้นิยามแก่คำๆ นี้ในช่วงราวกลางศตวรรษที่ 17 และประเพณีของหนุ่มสาวชนชั้นสูงชาวยุโรปที่มีอายุอานามย่างเข้า 21 ปี ในการออกเดินทางท่องเที่ยวไปค้นหาศิลปะและอารยะธรรมจากแดนไกลกันเป็นแรมเดือนหรือแรมปี ซึ่งนอกจากจะเรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติแล้ว ก็ถือโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กับสังคมชนชั้นสูงในดินแดนรอบๆ ทวีปไปในคราวเดียวกันเลยด้วย จุดเริ่มต้นยอดนิยมของการเดินทางอยู่ที่เมือง Dover ในประเทศอังกฤษ จากนั้นจึงใช้เส้นทางข้ามช่องแคบอังกฤษเพื่อไป Ostend ในประเทศเบลเยี่ยม หรือไม่ก็ Calais หรือ Le Havre ในประเทศฝรั่งเศส และด้วยความที่เด็กวัยรุ่นเหล่านี้ปราศจากพันธนาการทางด้านการเงินทั้งปวง ทุกอย่างที่อยู่ในการเดินทางในยุคที่ระบบขนส่งมวลชนเก่าแก่ที่สุดอย่างเช่นรถไฟยังไม่ถูกคิดค้น จึงเป็นไปอย่างหรูหราและเปี่ยมล้นไปด้วยสไตล์
คอนเซปต์ของคำว่า Gran Turismo แปรผันไปตามกาลเวลา สำหรับในศตวรรษที่ 21 ที่รถยนต์คือพาหนะหลักในการเดินทางของคนทั่วโลก Gran Turismo จึงถูกหยิบมาใช้เรียกรถที่มีศักยภาพโดดเด่นในการเดินทางไกล เช่น การเดินทางหลายร้อยหลายพันไมล์เพื่อข้ามรัฐหรือทวีป แต่กระนั้นสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป คือจิตวิญญาณที่แฝงอยู่ภายใต้นิยามของคำว่า Gran Turismo รถยนต์ที่ถูกเรียกว่า GT หรือได้ใช้ชื่อนี้ต่อท้าย จึงจะต้องมีเครื่องยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง มีสมรรถนะที่โดดเด่น รูปทรงปราดเปรียว แต่ห้องโดยสารจะต้องยังคงความโอ่โถงและสะดวกสบาย สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด และเมื่อเป็น BMW นั่นก็หมายความว่ารถของค่ายที่จะได้ใช้ชื่อ GT ต่อท้าย จะต้องมีคุณสมบัติทั้งหมดที่ว่ามาครบถ้วนเท่านั้น
BMW 3 Series Gran Turismo จึงถูกสร้างขึ้นมาด้วยแรงบันดาลใจอันเปี่ยมล้นที่ให้กำเนิดนิยามของคำว่า Gran Turismo ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่แรกเห็น เริ่มต้นจากดีไซน์ตัวถังที่ผสมผสานระหว่างรถคูเป้ ด้วยจุดเด่นของแนวหลังคาที่โค้งลงไปจนถึงขอบปลายฝากระโปรงท้ายเป็นเส้นเดียว เข้ากับรถซาลูนสมรรถนะสูงชั้นหรู ด้วยฝากระโปรงหน้าที่เหยียดยาวและมิติตัวรถที่ 4,884 มิลลิเมตร ซึ่งยาวกว่า BMW 3 Series รุ่นปกติประมาณ 200 มิลลิเมตร ส่วนเสาเก๋งบริเวณประตูหลังถูกออกแบบให้เป็นเส้นโค้ง เพื่อทำให้รถดูเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังราวกับพุ่งทะยานไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา โคมไฟท้ายทรงตัว L ก็ช่วยเสริมให้ตัวรถดูกว้างขึ้นได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ ตัวรถภายนอกยังถูกตกแต่งด้วยอุปกรณ์ที่แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะและสไตล์ที่เหนือกว่าของ BMW 3 Series Gran Turismo เช่น กระจกหน้าต่างบนประตูทั้ง 4 บาน แบบไร้กรอบที่ดูคมคายเฉกเช่นรถสปอร์ต หรือสปอยเลอร์บนฝากระโปรงท้ายที่จะยกตัวขึ้นอัตโนมัติเมื่อวิ่งด้วยความเร็วมากกว่า 110 กม./ชม. และพับเก็บลงจนเรียบสนิทไปกับแนวฝากระโปรงท้ายได้อย่างหรูหราเมื่อความเร็วลดต่ำกว่า 70 กม./ชม. ชุดโคมไฟหน้า ไฟตัดหมอก และไฟท้ายแบบ LED ที่ให้มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ช่วยเสริมให้ตัวรถดูมีสไตล์และทรงพลังไปพร้อมๆ กัน เรียกได้ว่าพกพาความเป็นรถ GT มาอย่างเต็มพิกัด
ภายในยังคงคอนเซปต์ของรถ GT เอาไว้อย่างเหนียวแน่น ห้องโดยสารของ BMW 3 Series Gran Turismo สามารถให้ความสะดวกสบายกับผู้โดยสารตอนหลังได้เพิ่มขึ้นจากพื้นที่วางขาที่ขยายขนาดขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายความยาวฐานล้อจาก BMW 3 Series รุ่นซีดานออกไปอีก 200 มิลลิเมตร และภายใต้หลังคาที่ลาดเอียงลงแบบรถคูเป้นั้น พื้นที่เหนือศีรษะของผู้โดยสารตอนหลังกลับมีมากกว่ารุ่นซีดานอยู่ 79 มิลลิเมตร ผู้โดยสารตอนหลังจึงรู้สึกปลอดโปร่งและสะดวกสบายมากขึ้น
พนักพิงเบาะหลังยังสามารถปรับเอนได้เพื่อเพิ่มความผ่อนคลายในเวลาที่ต้องเดินทางเป็นระยะเวลานานๆ และสามารถพับเป็นสามส่วนในอัตรา 40:20:40 ด้วยปุ่มเดียวในห้องเก็บสัมภาระท้ายรถเพื่อขนสัมภาระชิ้นใหญ่ เมื่อพับลงทั้งหมด ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถจะมีความจุเพิ่มขึ้นถึงเกือบสามเท่าตัวมาอยู่ที่ประมาณ 1,600 ลิตร และแม้ว่า BMW 3 Series Gran Turismo จะมีฝาท้ายที่เปิดขึ้นพร้อมกระจกบานหลังแบบรถแฮทช์แบค แต่ก็ยังมีระบบเตะเปิดฝาท้ายติดตั้งมาให้เช่นเดียวกับ BMW 3 Series ตัวถังแบบอื่นๆ
มาถึงอีกเรื่องนึงที่รถยนต์ประเภท GT จะขาดไม่ได้ก็คือ สมรรถนะของเครื่องยนต์ BMW 3 Series Gran Turismo ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 190 ตัว และแรงบิด 400 นิวตันเมตร ในแบบช่วงกว้างตั้งแต่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที พละกำลังทั้งหมดจะถูกส่งลงสู่พื้นฐานด้วยเกียร์อัตโนมัติ STEPTRONIC 8 จังหวะ และด้วยทั้งหมดนี้ BMW 3 Series Gran Turismo จึงมีเรี่ยวแรงเกินพอไว้สำหรับเร่งแซงในย่านความเร็วสูง ตัวเลขอย่างเป็นทางการบอกว่า BMW 3 Series Gran Turismo สามารถทำอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กม./ชม. ได้ในเวลา 7.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้มากถึง 226 กม./ชม. แต่อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยสูงสุดนั้นอยู่ที่ 27 กม./ลิตร ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วพบว่าน้ำมันเชื้อเพลิงหนึ่งถังจะสามารถวิ่งได้ระยะทางถึงกว่า
1,500 กิโลเมตร*
BMW 3 Series Gran Turismo ในประเทศไทยมีจำหน่ายอยู่ด้วยกัน 2 รุ่นย่อย คือ Luxury Line ซึ่งเน้นความมีสไตล์อย่างน่าหลงใหล ประกอบไปด้วยชุดคิ้วโครเมียมความเงางามสูง และล้ำอัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18” ลาย Multi-spoke 416 กับรุ่น Sport Line ที่เน้นความปราดเปรียวและกระฉับกระเฉง สีคิ้วต่างๆ จึงกลายเป็นสีดำเงาตลอดทั้งคัน กับล้ออัลลอย 18” ลาย Double-spoke 397 สำหรับคุณผู้อ่านที่สนใจก็สามารถติดต่อโชว์รูมผู้แทนจำหน่าย BMW ใกล้บ้านเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้แล้วในทุกวันนี้