เครื่องมือจัดการการอนุญาตของคุณให้ใช้คุกกี้ของเรากำลังออฟไลน์ชั่วคราว การทำงานบางอย่างที่ต้องใช้คำยินยอมให้ใช้คุกกี้อาจหายไป
เติมเต็มสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ได้ทุกเมื่อ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยู
เชิญสัมผัสกับโลกที่มุ่งไปสู่ความยั่งยืนของยนตรกรรมที่มาพร้อมกับระบบ BMW eDrive และเปิดมิติใหม่แห่งสุนทรียภาพการขับขี่
รถรุ่นที่ติดตั้งระบบ BMW eDrive แสดงให้เห็นว่าสมรรถนะแรงเร้าใจและการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าปราศจากการปล่อยมลพิษคือเรื่องที่เป็นไปได้ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัสที่พัฒนาขึ้นใหม่ รถ Plug-in Hybrid รุ่นต่างๆ ได้แก่
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e และ บีเอ็มดับเบิลยู 330e จึงโลดแล่นด้วยแรงบิดมหาศาลจากจุดหยุดนิ่งถึงความเร็วสูงสุด
ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู i นั้นให้ความคล่องตัวเช่นเดิมแต่มีการออกแบบให้สอดรับกับแนวคิดการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัยและแนวคิดระบบไฟฟ้าอันชาญฉลาด ถือเป็นยนตรกรรมที่กำหนดทิศทางของอนาคตแห่งการขับเคลื่อน คุณสามารถหาคำตอบของคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูได้ในหน้านี้ และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบีเอ็มดับเบิลยู i ได้ที่ลิงค์ด้านล่าง
เชิญสัมผัสกับโลกที่มุ่งไปสู่ความยั่งยืนของยนตรกรรมที่มาพร้อมกับระบบ BMW eDrive และเปิดมิติใหม่แห่งสุนทรียภาพการขับขี่
รถรุ่นที่ติดตั้งระบบ BMW eDrive แสดงให้เห็นว่าสมรรถนะแรงเร้าใจและการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าปราศจากการปล่อยมลพิษคือเรื่องที่เป็นไปได้ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัสที่พัฒนาขึ้นใหม่ รถ Plug-in Hybrid รุ่นต่างๆ ได้แก่
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e และ บีเอ็มดับเบิลยู 330e จึงโลดแล่นด้วยแรงบิดมหาศาลจากจุดหยุดนิ่งถึงความเร็วสูงสุด
ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู i นั้นให้ความคล่องตัวเช่นเดิมแต่มีการออกแบบให้สอดรับกับแนวคิดการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัยและแนวคิดระบบไฟฟ้าอันชาญฉลาด ถือเป็นยนตรกรรมที่กำหนดทิศทางของอนาคตแห่งการขับเคลื่อน คุณสามารถหาคำตอบของคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูได้ในหน้านี้ และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบีเอ็มดับเบิลยู i ได้ที่ลิงค์ด้านล่าง
ข้อมูลทั่วไปและการออกแบบ
ส่วนที่มีหน้าที่ขับเคลื่อนรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูคือมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลังและเครื่องยนต์สันดาปประสิทธิภาพสูง ซึ่งทำงานร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นเครื่องพิสูจน์ของการผสมผสานอันลงตัวไร้ที่ติระหว่างสมรรถนะในการขับขี่และประสิทธิภาพในการประหยัดได้เป็นอย่างดี ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูได้ในหัวข้อนี้
รถ Plug-in Hybrid คืออะไร ?
รถ Plug-in Hybrid ใช้ระบบขับเคลื่อนที่ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลังและเครื่องยนต์สันดาปประสิทธิภาพสูง การผสมผสานนี้ช่วยให้รถมีประสิทธิภาพโดยรวมที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเทคโนโลยีการขับเคลื่อนทั่วไป
นอกจากนี้รถ Plug-in Hybrid สามารถชาร์จไฟได้โดยตรงจากแหล่งจ่ายไฟทั่วไปได้ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือบนถนน จึงช่วยให้สามารถเดินทางโดยปราศจากการปล่อยมลพิษได้ระยะทางไกลโดยเฉพาะการขับขี่ในเขตนอกเมือง และลดการสิ้นเปลืองพลังงานในการเดินทางไกล
โดยเบื้องต้นแล้วรถ Plug-in Hybrid มีข้อดีอย่างไรเมื่อเทียบกับรถทั่วไป ?
รถ Plug-in Hybrid ให้การขับเคลื่อนที่สร้างมลภาวะต่ำและสามารถขับขี่ได้ระยะทางไกล ทั้งยังให้ประโยชน์ใช้สอยเทียบเท่ากับรถทั่วไป คุณจะได้ประโยชน์จากการขับขี่ที่เงียบและการเสริมกำลังไฟฟ้า ซึ่งหมายความว่าระหว่างการเร่งความเร็วชั่วขณะ เช่น ขณะเร่งแซง มอเตอร์ไฟฟ้าจะจ่ายแรงเสริมให้กับเครื่องยนต์สันดาป เพื่อช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ เมื่อขับขี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าและมีโอกาสชาร์จแบตเตอรี่ของรถซ้ำผ่านแหล่งจ่ายไฟทั่วไป จะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้มาก
หากจะซื้อรถ Plug-in Hybrid มีอุปกรณ์ที่จำเป็นอะไรบ้างและเงื่อนไขการใช้งานอย่างไร ?
ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อรถ Plug-in Hybrid คืออุปกรณ์ชาร์จไฟรถที่บ้าน ชาร์จไฟได้ไม่ยากเพียงใช้ปลั๊กไฟบ้าน BMW i Wallbox หรือสถานที่ที่อื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์ด้านค่าใช้จ่ายในการเดินทาง (ค่าไฟฟ้าและค่าเชื้อเพลิง) ของรถ Plug-in Hybrid อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย หากขับขี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าในการเดินทางบ่อยๆ หากที่ทำงานของคุณมีจุดชาร์จไฟ คุณจะได้รับประโยชน์จากข้อดีข้อนี้ยิ่งขึ้นไปอีก
มีระบบความปลอดภัยและอรรถรสในการขับขี่เหมือนกับรถบีเอ็มดับเบิลยูทั่วไปหรือไม่ ?
รถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูได้รับการออกแบบให้มีมาตรฐานทางเทคนิคที่สูงมาก โดยมีระบบความปลอดภัยของรถแบบเดียวกับรุ่นทั่วไป ทั้งยังมีการรับรองความปลอดภัยของรถ Plug-in Hybrid ที่ติดตั้งแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงโดยหน่วยงานอิสระ
มอเตอร์ไฟฟ้าในรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูช่วยให้ได้ทั้งระบบขับขี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าและประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานที่ดียิ่งขึ้น แรงบิดที่สูงตั้งแต่ในช่วงออกตัวจากจุดหยุดนิ่งแสดงให้เห็นว่ารถมีการตอบสนองที่ฉับไวระหว่างรอรอบ ซึ่งเป็นคุณสมบัติทั่วไปของมอเตอร์ไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้ายังจ่ายแรงเสริมให้กับเครื่องยนต์สันดาปซึ่งถือเป็นตัวช่วยที่สำคัญระหว่างการเร่งความเร็วและการเร่งกำลังในช่วงสั้นๆ นอกจากนี้รถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูยังทำงานเงียบและปลอดการปล่อยมลพิษเมื่อขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า
มีโหมดการขับขี่ใดบ้าง ?
แน่นอนว่ารถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูมีโหมดการขับขี่ที่คุณรู้จักคุ้นเคย ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบ ECO PRO, Comfort และ Sport เพื่อตอบสนองการขับขี่ในทุกสถานการณ์และวัตถุประสงค์การใช้งาน นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่ต่อไปนี้ ซึ่งใช้สำหรับรถ Plug-in Hybrid โดยเฉพาะและสามารถใช้งานได้จากปุ่ม eDrive ได้เช่นกัน:
- AUTO eDrive: ระบบจะเลือกรูปแบบการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพที่สุดตามสภาวะการขับขี่ ได้แก่ การขับเคลื่อนไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ การขับเคลื่อนแบบผสมผสาน หรือการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาป
- MAX eDrive: การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ที่ความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม.
- SAVE Battery: รักษาสถานะการชาร์จไฟไว้เพื่อให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้เมื่ออยู่ในเมือง เป็นต้น หากระดับแบตเตอรี่ต่ำกว่า 50% และสภาวะการขับขี่บางรูปแบบยังคงเอื้อให้สามารถใช้งานต่อไปได้ พลังงานจะถูกรวบรวมและกักเก็บไว้ผ่านกระบวนการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่และเครื่องยนต์สันดาป ทั้งนี้เพื่อเพิ่มระดับแบตเตอรี่ให้อยู่ที่ประมาณ 50% หรือคงไว้ที่ระดับสูงกว่า 50%จะดูออกได้อย่างไรว่ารถคันนั้นเป็นรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยู ?
รถ Plug-in Hybrid จะมีดีไซน์แตกต่างจากรถบีเอ็มดับเบิลยูทั่วไปเพียงเล็กน้อย เพื่อคงรูปลักษณ์อันโดดเด่นและเป็นที่คุ้นตาตามแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยูไว้ อย่างไรก็ตามลักษณะพิเศษเหล่านี้จะเป็นจุดที่ช่วยให้จดจำรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูได้ โดยขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น:
การออกแบบภายนอก:
- การตกแต่งตัวอักษร eDrive ที่ท้ายรถและบนฝาครอบเครื่องยนต์
- อักษร “e” ในชื่อรุ่นรถ
- ช่องชาร์จไฟที่ตัวรถด้านหน้าฝั่งคนขับการออกแบบภายใน:
- กาบบันไดตกแต่งตัวอักษร eDrive
- ปุ่ม eDrive ที่คอนโซลกลาง
- แผงมาตรวัดและจอ Control Display ออกแบบพิเศษ
เมื่อเชื้อเพลิงหมดถังจะสามารถขับขี่ต่อไปโดยใช้พลังงานไฟฟ้าได้จริงหรือ ?
ถูกต้อง หากระยะทางในการขับขี่โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาปเหลือ 80 กม. จะมีข้อความปรากฏบนแผงมาตรวัดเพื่อแจ้งเตือนคนขับ หากลดลงเหลือน้อยกว่า 50 กม. จะมีการแจ้งเตือนคนขับไปตลอดการขับขี่ เมื่อเชื้อเพลิงหมดถัง คุณสามารถขับรถไปยังสถานีบริการน้ำมันที่ใกล้ที่สุดได้โดยใช้พลังงานไฟฟ้าเท่าที่เหลืออยู่ หากมีพลังงานเพียงพอและระบบอยู่ในสภาวะที่สามารถขับขี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าได้
แบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงในรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูใช้งานได้นานเท่าใด ?
แบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงในรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับรถยนต์โดยเฉพาะ จึงต่างจากแบตเตอรี่ทั่วไปที่ใช้นิกเกิล ตะกั่ว
หรือแคดเมี่ยม ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยูหรือหน่วยงานของบีเอ็มดับเบิลยูให้การรับรองว่าจะแก้ไขข้อบกพร่องใดๆ ที่เกิดกับแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงในช่วงระยะทาง 150,000 กม.แรกหรือภายใน 10 ปีหลังจากส่งมอบรถใหม่ (แล้วแต่กำหนดใดถึงก่อน) ภายใต้ขอบเขตเนื้อหาในใบรับรองคุณภาพแบตเตอรี่ของบีเอ็มดับเบิลยู สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับ สิทธิประโยชน์ในการเข้ารับบริการที่ระบุในใบรับรองคุณภาพแบตเตอรี่ของบีเอ็มดับเบิลยูได้จากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยูหรือหน่วยงานของบีเอ็มดับเบิลยูสามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลแค่ไหน ?
รถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูทุกคันจะแสดงระยะทางที่ขับขี่ได้ให้ทราบ ทั้งนี้ระยะทางในการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ปัจจัยที่มีส่วนสำคัญได้แก่ ปริมาณการใช้งานระบบปรับอากาศและทำความร้อน สภาวะการทำงานของระบบไฟฟ้าบนรถ (เช่น ระบบนำทาง วิทยุ ระบบอุ่นเบาะและกระจกบังลม สภาพภูมิอากาศในฤดูร้อนและฤดูหนาว) รวมถึงพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล
เมื่อแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงหมดประจุจะไม่สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ แต่เครื่องยนต์สันดาปจะช่วยให้สามารถขับขี่ต่อไปได้อย่างเต็มสมรรถนะตามปกติ เมื่อมีระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ แบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงจะไม่มีทางเกิดความเสียหายในทุกกรณี แม้ว่าจะแสดงสถานะพลังงาน “หมด” เกลี้ยง
แบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงจะทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระน้อยลงหรือไม่ ?
รถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระแคบลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ รถบีเอ็มดับเบิลยูทั่วไป เราได้พัฒนาแนวคิดอันฉลาดขึ้นเพื่อความสะดวกสบายในการจัดเก็บสัมภาระ อันดับแรกคือพื้นที่วางสัมภาระที่แบนราบ และอันดับที่สองคือพื้นที่ที่ลึกเพียงพอสำหรับบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่ นอกจากนี้รถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูยังมีระบบบรรทุกสัมภาระแบบทะลุผ่านห้องเก็บสัมภาระผ่านเข้ามายังห้องโดยสาร (เช่น การพับพนังพิงเบาะหลังในอัตราส่วน 40:20:40) อีกด้วย
ต้องระวังในเรื่องใดบ้าง หากจอดรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูทิ้งไว้เป็นเวลานาน ?
แน่นอนว่าคุณสามารถจอดรถทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานได้ (เช่น เป็นเวลาหลายสัปดาห์) แต่ระดับประจุไฟฟ้าของแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงอาจลดลง หากรถไม่ได้วิ่งเป็นเวลานานๆ
ดังนั้นจึงควรจอดรถไว้โดยที่ระดับประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่เกือบเต็ม หรือต่อรถเข้ากับอุปกรณ์ชาร์จไฟที่เหมาะสมระหว่างที่จอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน วิธีนี้จะช่วยให้ชาร์จไฟซ้ำได้โดยอัตโนมัติเมื่อถึงเวลาที่จำเป็น
กรุณาศึกษาข้อแนะนำเกี่ยวกับการจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานในคู่มือการใช้งานที่ให้มากับรถ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการครบวงจรสำหรับระบบ e-mobility
บีเอ็มดับเบิลยูมีทางเลือกใดให้บ้างสำหรับการชาร์จไฟรถ Plug-in Hybrid ?
สามารถชาร์จไฟรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูได้โดยใช้ปลั๊กไฟบ้านมาตรฐาน อย่างไรก็ตามควรให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบว่าปลั๊กไฟที่ใช้มีความเหมาะสมหรือไม่ (ต้องมีคุณสมบัติในการรองรับกระแสไฟฟ้าต่อเนื่อง) ขอรับบริการจากช่างเทคนิคมืออาชีพจาก BMW i Installation ได้ เช่น การตรวจสอบปลั๊กไฟหรือการติดตั้งและจัดหา Wallbox Pure (ซึ่งจะช่วยให้ชาร์จไฟรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูได้ด้วยกำลังไฟสูงสุดถึง 3.7 กิโลวัตต์) เป็นต้น
สามารถชาร์จไฟรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูได้บ่อยแค่ไหนและควรชาร์จไฟบ่อยแค่ไหนจึงเหมาะสม ?
หากเป็นไปได้ควรชาร์จไฟรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือระหว่างการเดินทาง ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้ประโยชน์จากการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้อย่างสูงสุด และช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้
การชาร์จแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงใช้เวลานานเท่าไร มีวิธีชาร์จไฟอย่างรวดเร็วด้วยไฟ DC (กระแสตรง) หรือไม่
ระยะเวลาในการชาร์จที่แน่นอนนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ สามารถประเมินได้โดยใช้รถ Plug-in Hybrid บีเอ็มดับเบิลยู X5 เป็นตัวอย่าง เช่น หากแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงหมดประจุ การชาร์จไฟจะใช้เวลาระหว่าง 2.5 ชม.โดยประมาณเมื่อชาร์จที่ Wallbox หรือสถานีบริการชาร์จไฟถึง 4 ชั่วโมงโดยประมาณเมื่อชาร์จที่ปลั๊กไฟบ้านทั่วไป
เนื่องจากรถใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็กกว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าและใช้ระยะเวลาในการชาร์จไฟจนเต็มค่อนข้างสั้นสำหรับรถประเภทนี้ จึงไม่มีการคิดค้นวิธีการชาร์จอย่างรวดเร็วโดยใช้ไฟฟ้ากระแสตรงสำหรับรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยู
ต้องใช้สายต่ออีกแบบหรือไม่เมื่ออยู่ต่างประเทศ
สายชาร์จมาตรฐานที่อยู่ในรถจะใช้สำหรับปลั๊กไฟบ้านในประเทศที่จำหน่าย ผู้จำหน่าย บีเอ็มดับเบิลยูจะเป็นผู้สอบถามความประสงค์ในการซื้อสายต่อที่เหมาะสมสำหรับปลั๊กไฟแต่ละชนิด
รถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูจะได้รับสิทธิประโยชน์จาก 360° ELECTRIC เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู i หรือไม่
ถูกต้อง แน่นอนว่าเจ้าของรถ Plug-in Hybrid ของบีเอ็มดับเบิลยูจะได้รับบริการที่เกี่ยวข้องภายใต้สิทธิประโยชน์จาก 360° ELECTRIC ของบีเอ็มดับเบิลยู i
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและระดับการปล่อย CO2
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและระดับการปล่อย CO2 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู X5 40e:
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเป็นลิตร/100 กม. (สภาวะรวม): 3.13
ระดับการปล่อย CO2 เป็นก./กม. (สภาวะรวม): 76
อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเป็นกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง/100 กม. (สภาวะรวม): 15.4
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและระดับการปล่อย CO2 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู 330e:
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเป็นลิตร/100 กม. (สภาวะรวม): 2.1 ถึง 1.9
ระดับการปล่อย CO2 เป็นก./กม. (สภาวะรวม): 49 ถึง 44
อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเป็นกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง/100 กม. (สภาวะรวม): 11.9 ถึง 11.0
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและระดับการปล่อย CO2 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู i3:
อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเป็นกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง/100 กม. (สภาวะรวม): 12.9
ระดับการปล่อย CO2 เป็นก./กม. (สภาวะรวม): 0
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและระดับการปล่อย CO2 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู i8:
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเป็นลิตร/100 กม. (สภาวะรวม): 2.1
อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเป็นกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง/100 กม. (สภาวะรวม): 11.9
ระดับการปล่อย CO2 เป็นก./กม. (สภาวะรวม): 49
ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า/เชื้อเพลิงและระดับการปล่อย CO2 รวมถึงระดับความประหยัดเป็นระดับช่วงค่าที่ขึ้นอยู่กับยาง/ล้อที่เลือกใช้ อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจะวัดตามรูปแบบการขับขี่ตามมาตรฐาน ECE ตัวเลขแสดงอุปกรณ์เสริม
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ระดับการปล่อย CO2 และอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นทางการของรถโดยสารรุ่นใหม่ได้จากคู่มือเกี่ยวกับอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ระดับการปล่อย CO2 และอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าของรถโดยสารรุ่นใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้จากจุดจำหน่ายรถยนต์และ DAT Deutsche Automobil Treuhand GmbH (DAT), Hellmuth-Hirth-Str. 1, 73760 Ostfildern-Scharnhausen ประเทศเยอรมนีและที่ http://www.dat.de/angebote/verlagsprodukte/leitfaden-kraftstoffverbrauch.html ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ระดับการปล่อย CO2 อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า และระดับความประหยัดจะขึ้นอยู่กับขนาดของล้อและยางที่เลือก ตัวเลขเหล่านี้ไม่ใช่ค่าสำหรับรถคันใดคันหนึ่งและไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอขายผลิตภัณฑ์ แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เปรียบเทียบรถรุ่นต่างๆ เท่านั้น การปล่อย CO2 ที่เนื่องมาจากการผลิตและจ่ายเชื้อเพลิงหรือพลังงานชนิดอื่นๆ จะไม่นำมาพิจารณาในการหาค่าการปล่อย CO2 ตามมาตรฐาน Directive 1999/94/EC