BMW i SERIES รุ่นปัจจุบัน
ร่วมเดินทางสำรวจประวัติศาสตร์รถยนต์ไฟฟ้าของ BMW ไปพร้อมกับเรา ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา BMW i มีการพัฒนาทั้งรถยนต์ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าบางส่วน และในขณะเดียวกัน เราได้พัฒนาแนวทางแบบองค์รวมรูปแบบใหม่เพื่อผสานการออกแบบยานยนต์เข้ากับความยั่งยืน ดูรถยนต์ BMW i Series รุ่นต่างๆ
- 485 (659) กิโลวัตต์ (PS)
- 0–100 ใน 3.7 วินาที

BMW i7 M70 xDrive Sedan
ราคาตั้งแต่: ฿182,400.00
BMW i7 M70 xDrive (1): อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): {techdata.electricConsumption}; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): {techdata.electricRangeWltpCombined}
- 340 กิโลวัตต์ (HP)
- 0–100 ใน 6.1 วินาที

BMW i5 Touring.
ราคาตั้งแต่: ฿4,699,000.00
- 601 กิโลวัตต์ (HP)
- 0–100 ใน 3.8 วินาที

BMW i5 M60 xDrive Sedan.
ราคาตั้งแต่: ฿5,399,000.00
BMW i5 M60 xDrive Sedan[1]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 20.6–18.2; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 455 - 516
- 340 กิโลวัตต์ (HP)
- 0–100 ใน 6.0 วินาที

BMW i5 Sedan.
ราคาตั้งแต่: ฿4,799,000.00
- 442 (601) กิโลวัตต์ (PS)
- 0–100 ใน 3.9 วินาที

BMW i5 M60 xDrive Touring
ราคาตั้งแต่: ฿101,500.00
BMW i5 M60 xDrive Touring(1): อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 20.8–18.3; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 445–506
- สูงสุด 250 (340) กิโลวัตต์ (PS)
- 0–100 ใน 6.1 วินาที

BMW i5 Touring
ราคาตั้งแต่: ฿72,200.00
- 544 กิโลวัตต์ (HP)
- 0–100 ใน 3.9 วินาที

BMW i4 M50 Gran Coupé.
ราคาตั้งแต่: ฿5,149,000.00
BMW i4 M50: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 18.1–22.5; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 414–519
- สูงสุด 286 กิโลวัตต์ (HP)
- 0–100 ใน 6.0 วินาที

BMW i4 Gran Coupé
ราคาตั้งแต่: ฿0.00
- สูงสุด 326 กิโลวัตต์ (HP)[3]
- 0–100 ใน 6.1 วินาที

BMW iX
ราคาตั้งแต่: ฿5,149,000.00
- สูงสุด 313 กิโลวัตต์ (HP)[3]
- 0–100 ใน 5.6 วินาที

BMW iX2
ราคาตั้งแต่: ฿3,259,000.00
- สูงสุด 286 กิโลวัตต์ (HP)
- 0–100 ใน 6.8 วินาที

BMW iX3
ราคาตั้งแต่: ฿2,859,000.00
หัวข้ออื่นๆ
รถยนต์ไฟฟ้า BMW
BMW FINANCIAL SERVICES
ภาพรวม: ประวัติของ BMW i Series
สัมผัสอนาคตแห่งยานยนต์ได้แล้ววันนี้ ไม่ว่าคุณจะต้องการรถยนต์ที่สปอร์ตและอัดแน่นด้วยสมรรถนะ รถยนต์ซาลูนหรูหรา หรือรถยนต์ SUV ที่ให้ความสะดวกบนทุกเส้นทาง BMW i Series มีรุ่นรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์
BMW i5
BMW i5 คือรถยนต์ซาลูนสำหรับนักธุรกิจที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบ สมรรถนะที่คล่องแคล่วผสานรวมกับรูปลักษณ์การออกแบบสไตล์สปอร์ตและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ
รุ่นแรก (G61)
สัมผัสการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบไปกับ BMW i5 Touring โฉมใหม่ที่มาพร้อมพื้นที่อันโอ่โถงและสามารถตอบโจทย์ทุกแผนการเดินทางได้อย่างครบครัน พื้นที่เก็บสัมภาระจุใจขนาด 570 - 1,700 ลิตร และระยะทางที่สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าสูงสุดถึง 483 - 560 กม. [1] จึงมีความคล่องตัวสูงสำหรับการเดินทางประจำวันไปในเมืองและการขับขี่ทางไกล ให้ความปราดเปรียวอย่างน่าประทับใจบนท้องถนนด้วยกำลังสูงถึง 250 กิโลวัตต์ (340 แรงม้า) พร้อมอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ใน 6.1 วินาที BMW i5 Touring ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะมากมายที่ยกระดับความสะดวกสบายในการขับขี่และการจอดรถได้ทุกสถานการณ์
นอกจากจะมีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระอันกว้างขวางแล้ว BMW i5 Touring ยังมีดีไซน์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความปราดเปรียวอย่างมีสไตล์ได้อย่างโดดเด่น เส้นสายที่ทอดยาวและผ่านการรังสรรค์มาอย่างเที่ยงตรงช่วยขับเน้นความโดดเด่นให้กับตัวรถ ตอกย้ำความโดดเด่นยามค่ำคืนด้วยกระจังหน้าไตคู่เรืองแสง BMW "Iconic Glow" ผสานด้วยไฟหน้าในดีไซน์ใหม่แบบ "ไฟหน้าสี่ดวง" ที่นิยามคาแรคเตอร์ของ BMW ให้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
รับชมความบันเทิงอย่างไร้ขีดจำกัดภายในห้องโดยสาร เปลี่ยนทุกทริปการเดินทางให้เป็นประสบการณ์มัลติมีเดียที่เหนือชั้นด้วยระบบเสียงอันทรงพลังและมาพร้อมตัวเลือกอย่างมากมาย ไม่ว่าจะสตรีมวิดีโอ เล่นเกม หรือฟังเพลง ระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins ช่วยขับเน้นให้เสียงเพลงแจ่มชัดกระจ่างใส ลำโพง 16 ตัวพร้อมซับวูฟเฟอร์ของระบบเสียงรอบทิศทางให้กำลังขับรวมสูงถึง 655 วัตต์ เพื่อระบบเสียงเปี่ยมประสิทธิภาพและสร้างความดื่มด่ำให้กับความบันเทิงทุกรูปแบบ
BMW i5 eDrive40 Touring[1]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 19.3–16.5; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 483 - 560
BMW i5 M60 xDRIVE TOURING (G61)
BMW i5 M60 xDrive Touring ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ปราศจากมลพิษ อีกทั้งยังแฝงไว้ด้วยลักษณะการขับขี่อันปราดเปรียวและดีไซน์ที่ให้รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว สร้างความประทับใจให้กับทุกการเดินทาง
ประสิทธิภาพทรงพลัง 442 กิโลวัตต์ (601 แรงม้า) สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 230 กม./ชม. และเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ใน 3.9 วินาที พร้อมด้วยระบบเบรก M Sport ที่ช่วยให้หยุดรถได้รวดเร็วมั่นใจไม่แพ้อัตราเร่งสุดกระชากใจ ระบบกันสะเทือน Adaptive M Professional ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจทุกสถานการณ์ ผสานการทำงานร่วมกับระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้อแบบแอ็คทีฟเพื่อให้ความสบายและการควบคุมที่มั่นใจทุกเวลา
มอบสมรรถนะอันน่าทึ่งระดับยนตรกรรมจากสนามแข่ง และให้ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าสูงถึง 445–506 กม.[1]
พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวางที่จุได้ถึง 570 - 1,700 ลิตรของรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ตอบโจทย์ได้ทั้งในการขับขี่ประจำวันและการเดินทางไกล อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่สะท้อนความปราดเปรียวอย่างมีสไตล์ได้อย่างโดดเด่น สปอยเลอร์หลัง M และฝาครอบกระจกมองข้าง M Carbon สะท้อนภาพลักษณ์สุดปราดเปรียวและรายละเอียดสุดประณีตที่รังสรรค์ด้วยมือได้อย่างชัดเจน พร้อมเติมเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยแถบตกแต่งภายนอก M High-gloss Shadowline สีดำเงาเพื่อยกระดับดีไซน์ภายนอกตัวรถอย่างสมบูรณ์แบบ กระจังหน้าไตคู่เรืองแสง BMW kidney Iconic Glow ให้ความโดดเด่นยามค่ำคืน พร้อมโลโก้ M ในตัวที่สะท้อนต้นกำเนิดสายพันธุ์สปอร์ตของดีไซน์นอกตัวรถได้อย่างชัดเจน
ภายในห้องโดยสารยังมาพร้อมกลิ่นอายของรถยนต์ตระกูล M อย่างเต็มเปี่ยม ที่นั่งแบบสปอร์ต M สามารถรองรับร่างกายได้เป็นอย่างสมบูรณ์แบบขณะขับขี่ และจอแสดงผลเฉพาะรุ่น M บนแผงหน้าปัดที่ช่วยเน้นย้ำลักษณะการขับขี่แบบสปอร์ตให้โดดเด่นขึ้นไปอีกขั้น รถยนต์ BMW i5 M60 xDrive Touring สามารถเลือกติดตั้งอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารที่ปราศจากผลิตภัณฑ์จากสัตว์ได้ตามที่ต้องการ
BMW i5 M60 xDrive Touring[1]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 20.8–18.3; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 445–506
รุ่นแรก (G60)
ในปี 2023 BMW i5 Sedan ได้เปิดศักราชใหม่ของยานยนต์พลังงานไฟฟ้า โดย BMW 5 Series รุ่นแรกมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบ อัดแน่นด้วยขุมพลัง 250 กิโลวัตต์ (340 แรงม้า) ทำให้การขับขี่ BMW i5 eDrive40 มีความสนุกเร้าใจตลอดเส้นทาง และด้วยระยะขับขี่ 498 - 582 กม.[1] ยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับการใช้งานประจำวันและขับขี่ทางไกลได้อย่างไร้กังวล ระบบช่วยขับขี่เต็มรูปแบบ เช่น Driving Assistant Professional และ BMW Live Cockpit Professional ให้ความปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
BMW i5 Sedan ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ BMW ซีรีส์ 5 พร้อมทั้งเพิ่มรายละเอียดการออกแบบเพื่อความสะดวกในการใช้งานขึ้นอีกขั้น รูปลักษณ์การออกแบบเฉพาะตัวตามแบบฉบับของ BMW เช่น ฐานล้อยาว กระโปรงหน้ายาวพิเศษ และหลังคาลู่ลม มาพร้อมการออกแบบที่โดดเด่น เช่น กระจังหน้าทรงไตคู่เรืองแสง BMW Iconic Glow หลังคากระจกพาโนรามิกขนาดใหญ่ และแถบไฟคริสตัลลีน Interaction Bar เน้นความหรูหรา
BMW i5[1]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 18.9 - 15.9; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 498 - 582
BMW i5 M60 xDRIVE SEDAN (G60)
BMW i5 M60 xDrive Sedan ให้สมรรถนะที่เหนือกว่าตามแบบฉบับของ BMW M ด้วยขุมพลัง 442 กิโลวัตต์ (601 แรงม้า) และความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ระบบเบรก BMW M Sport ที่ช่วยให้หยุดรถได้รวดเร็วมั่นใจทุกครั้ง ระบบขับเคลื่อนทุกล้ออัจฉริยะ BMW xDrive ปรับลักษณะการขับขี่ของรถตามสภาพถนนได้ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ให้การยึดเกาะและเสถียรภาพการขับขี่ที่เหนือกว่า ระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้อแบบแอ็คทีฟ Integral Active Steering ปรับรูปแบบการทำงานได้อย่างยืดหยุ่น ตอบสนองไวขณะจอดและนิ่งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระยะขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวสูงสุด 455 - 516 กม. [1] เหมาะสำหรับการขับขี่ประจำวันทั่วไปและการเดินทางไกล
BMW i5 M60 xDrive Sedan มาพร้อมรูปลักษณ์ที่สะท้อนถึงสมรรถนะการขับขี่ ดึงดูดทุกสายตาในเวลากลางคืนด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่เรืองแสง BMW Iconic Glow ชุดตกแต่งคาร์บอนสำหรับเพิ่มความโดดเด่น เช่น กระจกมองข้างที่ผ่านการผลิตด้วยมืออย่างละเอียด หรือสปอยเลอร์หลัง M เพื่อเพิ่มเสถียรภาพการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง
ภายในตกแต่งแบบสปอร์ตเช่นเดียวกัน ที่นั่งแบบสปอร์ตระบายความอากาศได้เพื่อความสปอร์ตอีกขั้น มาตรวัดสไตล์เอกลักษณ์เฉพาะตัว M เพิ่มความน่าตื่นเต้นและสปอร์ตให้กับชุดมาตรวัด เปลี่ยนห้องโดยสารให้กลายเป็นเวทีคอนเสิร์ตได้ตามต้องการด้วยระบบเครื่องเสียง Bowers & Wilkins Surround Sound System (อุปกรณ์เสริม) ลำโพง 17 ตัวและพลังเสียง 655 วัตต์ถ่ายทอดอารมณ์ของเพลงโปรดของคุณได้อย่างเต็มที่
BMW i5 M60 xDrive [1]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 20.6 - 18.2; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 455 - 516
BMW i7
BMW i7 รถยนต์ซาลูนระดับลักชัวรี่รุ่นแรกที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ผสมผสานสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับระบบความบันเทิงที่ตื่นตาตื่นใจ เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่คุณไม่มีวันลืม
รุ่นแรก (G70)
BMW i7 ประสบการณ์ใหม่ของความหรูหรา ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา BMW i7 ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความสง่างาม การขับขี่ที่โดดเด่น และความยั่งยืนที่มากกว่าแค่ที่เห็น
รูปลักษณ์ภายนอกบ่งบอกถึงภาษาการออกแบบที่กลมกลืนด้วยส่วนหน้าเอกลักษณ์เฉพาะที่ดึงดูดทุกความสนใจ กระจังหน้าทรงไตคู่เรืองแสงโดดเด่นทุกครั้งที่เห็น ไฟหน้า LED สองส่วนเน้นความสง่างาม สามารถติดตั้งเป็นรุ่นพรีเมียมได้หากต้องการ: ไฟหน้าคริสตัล BMW Iconic Glow พร้อมคริสตัล Swarovski และไฟพื้นหลัง ไฟ “Great Entrance Moments” และระบบไฟต้อนรับผู้ขับขี่เพื่อช่วงเวลาประทับใจไม่รู้ลืม
วัสดุตกแต่งภายในคุณภาพสูง หนัง Merino ผ้าแคชเมียร์ และคริสตัลจาก Swarovski เพื่อบรรยากาศของความหรู แถบ BMW Interaction Bar พร้อมผิวสัมผัสแบบคริสตัลผสมผสานทั้งรูปลักษณ์และระบบควบคุมแบบสัมผัสเข้าด้วยกัน ห้องโดยสารสไตล์มัลติมีเดียด้วยจอแสดงผลความละเอียดสูง BMW Curved Display ขนาด 14.9"
ผู้โดยสารยังได้รับความสะดวกสบายเต็มที่ภายใน BMW i7 ใหม่ด้วยเช่นกัน จอ BMW Theatre Screen ขนาดใหญ่ 31.3" ให้บรรยากาศดุจโรงภาพยนตร์ระดับเฟิร์สคลาส ระบบเสียง 4D ของ Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System ชัดเจนทุกรายละเอียด ให้ผู้โดยสารเบาะหลังเพลิดเพลินกับประสบการณ์ระดับสุดยอดทั้งภาพและเสียง
BMW i7 xDrive60 มาพร้อมพละกำลัง 400 กิโลวัตต์ (544 แรงม้า) และระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียว 624 กม. (1) ขับขี่ได้อย่างสะอาดไร้มลพิษและแทบไม่มีเสียงรบกวน ระบบ BMW IconicSounds Electric ทำหน้าที่สร้างเสียงให้บรรยากาศในการขับขี่ เสียงจากระบบนี้จะมีในทุกโหมดการขับขี่และเป็นเสียงจากผลงานการสร้างโดยฮันส์ ซิมเมอร์
ช่วงปีที่มีการผลิต: ตั้งแต่ปี 2022
ระบบขับเคลื่อนโดยรวม, สมรรถนะในหน่วยกิโลวัตต์ (แรงม้า): มอเตอร์ไฟฟ้า 335–485 กิโลวัตต์ (455–659 แรงม้า)
ความยาว/กว้าง/สูงในหน่วย มม.: 5,391 / 1,950 / 1,544
BMW i7[1]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 18.5-23.7; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 490-624
BMW i7 M70 xDRIVE (G70).
ในปี 2023 ได้มีการนำรถยนต์คลาสหรูอย่าง BMW i7 มาผสานรวมกับสมรรถนะที่ทรงพลังตามแบบฉบับของ BMW M จนออกมาเป็น BMW i7 M70 มอเตอร์กำลังสูง BMW M eDrive ให้กำลัง {model.power} กิโลวัตต์ ({model.horsePower} แรงม้า) พร้อมอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง {model.acceleration} วินาที ระบบ Executive Drive Pro ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานติดตั้งมากับรถ ช่วยยกระดับสมรรถนะการขับขี่ขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบบังคับเลี้ยว Integral Active Steering และระบบกันสะเทือนด้วยถุงลม 2 เพลาแบบปรับได้ และในขณะเดียวกัน ได้มีการเพิ่มความประหยัดด้วยการใช้โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบาและการออกแบบแอโรไดนามิกส์ ทำให้ BMW i7 M70 มีระยะขับขี่ไกลถึง {techdata.electricRangeWltpCombined} กม.[1] เพื่อให้คุณไปถึงยังจุดหมายที่ต้องการได้ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ไร้มลพิษขณะขับขี่ และแทบไม่มีเสียงรบกวน
การออกแบบภายนอกสะท้อนถึงบุคลิกเฉพาะตัวของรถ เติมเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยแถบตกแต่งภายนอก M High-gloss Shadowline สีดำเงาที่มีความยาวเพิ่มขึ้น สปอยเลอร์หลัง M ออกแบบตามหลักแอโรไดนามิกส์และระบบเบรก M Sport สีดำ สัญลักษณ์ของความแรงที่พร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้า กระจังหน้าทรงไตคู่ที่โดดเด่นแสดงถึงบุคลิกที่เข้มแข็ง พร้อมไฟเรืองแสง Iconic Glow ที่จะดึงดูดทุกความสนใจในช่วงกลางคืน และสีทูโทน BMW Individual (อุปกรณ์เสริม) เอกลักษณ์เฉพาะตัวที่จะดึงดูดทุกสายตาให้หันมามองในเวลากลางวัน
สปอร์ตและสง่างามที่ภายนอก แต่สะดวกสบายและหรูหราจากภายใน เสริมบรรยากาศการเดินทางด้วยวัสดุตกแต่งคุณภาพสูง เช่น ผ้าแคชเมียร์และคริสตัลจาก Swarovski พร้อมด้วยนวัตกรรมใหม่ของเทคโนโลยี เช่น แถบ BMW Interaction Bar และจอแสดงผล BMW Curved Display ระบบความบันเทิงมาพร้อมหน้าจอ BMW Theatre Screen ขนาดใหญ่ 31.3" ให้ผู้โดยสารด้านหลังเพลิดเพลินระหว่างการเดินทางดุจโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ พร้อมด้วยระบบเสียง 4D ของ Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System (อุปกรณ์เสริม)
ช่วงปีที่มีการผลิต: ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป
ระบบขับเคลื่อนโดยรวม, สมรรถนะในหน่วยกิโลวัตต์ (แรงม้า): มอเตอร์ไฟฟ้า 485 กิโลวัตต์ (659 แรงม้า)
ความยาว/กว้าง/สูงในหน่วย มม.: 5,391 / 1,950 / 1,544
BMW i7 M70 xDrive [1]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 20.8–23.7; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 490–559
BMW iX
รถยนต์ยุคใหม่แห่งอนาคต BMW iX ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ความหรูหราที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เรียบหรูสไตล์มินิมอล เทคโนโลยีมอเตอร์ล้ำสมัย ความสะดวกสบายระดับสูงสุดที่ผสานรวมกับการออกแบบที่กลมกลืนและกว้างขวาง
รุ่นแรก (i20)
ชัดเจนถึงจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกของ BMW iX ตั้งแต่การออกแบบภายนอก เส้นสายเฉพาะตัวแคไม่กี่เส้นขับเน้นรูปลักษณ์อันเป็นเนื้อแท้ รายละเอียดที่กลมกลืนเน้นย้ำถึงความรู้สึกนี้ ไฟหน้าคู่ทรงเรียวที่สุดเท่าที่ BMW เคยมี กระจังหน้าทรงไตคู่แนวตั้งของ BMW ยกระดับบุคลิกที่โดดเด่นให้กับส่วนหน้ารถรูปตัว T มือจับประตูเสมอกับผิวตัวถัง ประตูแบบไร้กรอบ และซุ้มล้อทรงสี่เหลี่ยมบ่งบอกถึงภาพลักษณ์ของความหรูหราจากด้านข้างของตัวรถเช่นเดียวกัน
BMW iX ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นด้วยเช่นกัน มอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงสองชุดและระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าสี่ล้อ BMW xDrive หลอมรวมดีเอ็นเอของ BMW X เข้ากับระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า BMW iX xDrive40 มาพร้อมพละกำลัง 240 กิโลวัตต์ (326 แรงม้า) และระยะขับขี่ 435 กม. [1] ในขณะที่ BMW iX xDrive50 ยกระดับระบบขับเคลื่อนขึ้นไปอีกขั้นด้วยพละกำลัง 385 กิโลวัตต์ (523 แรงม้า) และระยะขับขี่ 633 กม. [1] BMW iX ทั้งสองรุ่นสามารถชาร์จไฟฟ้าจาก 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ได้ภายในเวลาเพียง 40 นาที[2] เมื่อชาร์จกับสถานีชาร์จด่วน และทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ของเทคโนโลยี เช่น BMW iDrive และระบบช่วยเหลือและระบบความบันเทิงต่างๆ เต็มรูปแบบ
ช่วงปีที่มีการผลิต: ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป
ระบบขับเคลื่อนโดยรวม, สมรรถนะในหน่วยกิโลวัตต์ (แรงม้า): มอเตอร์ไฟฟ้า 240–455 กิโลวัตต์ (326–619 แรงม้า)[3]
ความยาว/กว้าง/สูงในหน่วย มม.: 4,953 / 1,967 / 1,695–1,696
BMW iX[1]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 24.7–19.4; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 403–633
BMW iX M60 (i20)
BMW iX M60 คือรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในเซ็กเมนต์ M SUV โดยมาพร้อมกับสมรรถนะที่ทรงพลังแต่ไร้มลพิษสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน
มอเตอร์ไฟฟ้า BMW eDrive สองชุดให้กำลังสูงถึง 240 กิโลวัตต์ (326 แรงม้า) [3] แรงบิด 630 นิวตันเมตรทำให้สามารถเร่งความเร็วได้ทุกเวลาที่ต้องการ มาพร้อมเสียงสร้างบรรยากาศการขับขี่เพื่อประสบการณ์ที่เหนือกว่าอย่าง BMW IconicSounds Electric ระยะขับขี่สูงสุด - กิโลเมตร [1] พาคุณไปถึงจุดหมายทุกแห่งได้อย่างสบายใจ
ภายนอกมาพร้อมภาษาการออกแบบล้ำยุค: กลมกลืน สปอร์ต และทันสมัย ด้านหน้ารถแสดงถึงสมรรถนะการขับขี่ด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แนวตั้ง ไฟหน้าคู่ทรงเรียวกันชนล่างแบบสามชิ้นที่จะสะกดทุกสายตา ด้านข้างโดดเด่นด้วยล้อ M aerodynamic ขนาด 22" สี Titanium Bronze ด้านหลังรถติดตั้งชุดไฟท้าย Shadowline ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน และจากด้านบนคือหลังคาซันรูฟกระจกพาโนรามา Sky Lounge (อุปกรณ์เสริม) เพิ่มความสว่างให้กับภายในรถ
การออกแบบภายในที่น้อยแต่ชัดเจน ครบครันทุกเทคโนโลยี แต่ซ่อนเอาไว้อย่างชาญฉลาด ตัวแทนที่ชัดเจนของนิยามคำว่า Shy Tech ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ถูกรวมไว้เป็นหนึ่งเดียวกับการออกแบบ ตัวอย่างเช่น ลำโพง ซึ่งติดตั้งซ่อนรวมอยู่กับการตกแต่งภายในรถ ปุ่มต่างๆ ถูกตัดออกให้เหลือเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ทำให้เทคโนโลยีที่ติดตั้งภายในรถมีครบทั้งสไตล์และความทันสมัย จอแสดงผลไร้กรอบ BMW Curved Display มีฟังก์ชั่นอัจฉริยะต่างๆ ของระบบ BMW Live Cockpit Professional ทั้งการสั่งงานด้วยระบบสัมผัสและเสียง เพื่อให้คุณเดินทางถึงจุดหมายอย่างสะดวกสบายและหรูหรา
BMW iX M60[1]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.):24.7–22; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 500–563
BMW i4
BMW i4 เป็นรถยนต์ Gran Coupé ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรกของ BMW พบกับนิยามใหม่ของความสนุกในการขับขี่จากมอเตอร์ไฟฟ้า ความหรูหรา และความสะดวกสบายสำหรับการใช้งานประจำวัน BMW i4 M50 อัดแน่นด้วยสมรรถนะตามแบบฉบับของ BMW M
รุ่นแรก (G26)
BMW i4 Gran Coupé ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบมาพร้อมความประทับใจและความมั่นใจ การออกแบบเน้นถึงการแสดงนวัตกรรมสู่สายตาคนทั่วโลก กระจังหน้าทรงไตคู่แนวตั้ง ไฟหน้าแนวเฉียงเน้นความปราดเปรียว และซุ้มล้อหลังผายออกเน้นความกว้างของตัวรถ
BMW i4 eDrive40 Gran Coupé มาพร้อมพละกำลัง 250 กิโลวัตต์ (340 แรงม้า) และเรียกแรงบิดสูงสุดได้ทันที เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สปอร์ตและตื่นเต้น นวัตกรรมใหม่ของระบบขับเคลื่อนยังให้ความประหยัดได้ทุกระดับความเร็วด้วยเช่นกัน BMW i4 Gran Coupé ยังมาพร้อมความสบายสูงสุดด้วยการขับขี่ที่แทบไร้เสียงใดๆ
ยิ่งไปกว่านั้น การกระจายน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพและการออกแบบแชสซีและระบบขับเคลื่อนให้ทำงานร่วมกันได้อย่างกลมกลืน ทำให้การควบคุมบังคับเลี้ยวนุ่มนวลและเที่ยงตรง ระยะขับขี่สูงสุด 589 กิโลเมตร[1] พาคุณไปถึงทุกจุดหมายได้อย่างที่ต้องการ
ช่วงปีที่มีการผลิต: ตั้งแต่ปี 2021
ระบบขับเคลื่อนโดยรวม, สมรรถนะในหน่วยกิโลวัตต์ (แรงม้า): มอเตอร์ไฟฟ้า 210–400 (286–544)
ความยาว/กว้าง/สูงในหน่วย มม.: 4,783 / 1,852 / 1,448
BMW i4[1]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 22.5-15.8; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 406-590
BMW i4 M50 (G26)
BMW i4 M50 ให้สมรรถนะสไตล์สปอร์ตตามแบบฉบับของ BMW M ด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ส่งกำลังผ่านทางมอเตอร์ BMW M eDrive รุ่นที่ห้าสองชุด โหมด Sport Boost เรียกกำลังได้ถึง 210 กิโลวัตต์ (286 แรงม้า) เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.0 วินาที พร้อมเสียงสร้างบรรยากาศการขับขี่จาก BMW M IconicSounds Electric ระบบเบรกประสิทธิภาพสูง M Sport หยุดรถได้อย่างมั่นใจทุกครั้ง ระบบกันสะเทือน Adaptive M ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างเที่ยงตรงสูงสุดและมั่นใจทุกครั้ง พร้อมด้วยระยะขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 520 กิโลเมตร[1] เดินทางไกลสู่จุดหมายได้แบบไร้กังวล
ภายนอกชัดเจนถึงการหลอมรวมระหว่าง BMW M และ BMW i ไม่ใช่แค่ในรายละเอียดอย่างโลโก้ตัว M บนกระจังหน้าทรงไตคู่หรือไฟวงแหวนสีน้ำเงินของ BMW i รอบตราสัญลักษณ์ BMW เท่านั้น แต่เป็นการออกแบบตัวรถทั้งหมดตามหลักแอโรไดนามิกส์ ตั้งแต่กระจังหน้าทรงไตคู่แบบปิด M ไปจนถึงดิฟฟิวเซอร์และสปอยเลอร์หลัง M
ในขณะที่ภายในจะเห็นได้ถึงห้องโดยสารที่ออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผล BMW Curved Display ที่หันเข้าหาผู้ขับขี่ รวมไปถึงแผงหน้าปัดที่ออกแบบมาเรียบง่าย แต่ทันสมัยและชัดเจน พวงมาลัย M และตะเข็บตัดกันในสี M ให้ความสปอร์ตและจับได้ถนัดมือ ที่นั่ง M Sport ระบายอากาศได้ดีเพื่อความสบายของผู้โดยสารทุกคน ถึงแม้หัวใจจะกำลังเต้นแรงอยู่ก็ตาม!
ช่วงปีที่มีการผลิต: ตั้งแต่ปี 2021
ระบบขับเคลื่อนโดยรวม, สมรรถนะในหน่วยกิโลวัตต์ (แรงม้า): 400 (544)
ความยาว/กว้าง/สูงในหน่วย มม.: 4,783 / 1,852 / 1,448
BMW i4 M50[1]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 18.1–22.5; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 414–519
BMW iX3
BMW iX3 คือรถยนต์ SUV ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ผสานรวมเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ากับลักษณะเฉพาะตัวของรถยนต์ SUV ทำให้มีทั้งความสะดวกสบาย แข็งแกร่ง และสมรรถนะสูง ระบบชาร์จอัจฉริยะและความปราดเปรียวสูงสุดสำหรับการขับขี่ ปิดท้ายด้วยเส้นสายที่ชัดเจนและทรงพลังของตัวรถ
รุ่นแรก (G08)
BMW iX3 พร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2021 กระจังหน้าทรงไตคู่ เอกลักษณ์เฉพาะของ BMW i คือตัวแทนที่แสดงถึงความเป็นรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ไฟเรืองแสงภายในรถใช้สี BMW i Blue เป็นมาตรฐานเพื่อให้ความรู้สึกถึงความยั่งยืน การสตาร์ทรถทำโดยใช้ปุ่ม Start/Stop สีน้ำเงิน แต่แนวคิดเพื่อความยั่งยืนของรถคันนี้ยังมีมากกว่าที่เห็น เพราะระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าของ BMW iX3 ไม่มีการใช้โลหะแรร์เอิร์ธ แต่ให้กำลังได้สูง 210 กิโลวัตต์ (286 แรงม้า) ระบบเบรกเพื่อชาร์จไฟฟ้า (หรือการนำพลังงานจากการเบรกกลับมาใช้ใหม่) สามารถตั้งค่าได้สี่ระดับตามลักษณะการขับขี่ ทำให้ BMW iX3 มีระยะขับขี่ถึง 471 กม. [1] และระหว่างทาง คุณยังสามารถชาร์จไฟฟ้าจาก 10 จนถึง 80 เปอร์เซ็นต์[2] ได้ในเวลาเพียง 31 นาทีเมื่อชาร์จกับสถานีชาร์จด่วน
ช่วงปีที่มีการผลิต: ตั้งแต่ปี 2020
ระบบขับเคลื่อนโดยรวม, สมรรถนะในหน่วยกิโลวัตต์ (แรงม้า): มอเตอร์ไฟฟ้า, 210 (286)
ความยาว/กว้าง/สูงในหน่วย มม.: 4,734 /1,891 /1,668
BMW iX3[1]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 18.0-17.6; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 461-471
BMW iX1
BMW iX1 คือรถยนต์ SUV ขนาดเล็กรุ่นแรกของ BMW โดดเด่นด้วยการออกแบบเน้นที่ให้ความรู้สึกทันสมัยและมั่นใจ สัดส่วนที่ชัดเจนบ่งบอกถึงภาษาการออกแบบที่กลมกลืน พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อน BMW eDrive ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและประหยัด
รุ่นแรก (U11)
BMW iX1 เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2022 โดยเป็นรถยนต์ SAV ขนาดเล็กรุ่นแรกที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบและเป็นรถยนต์ไฟฟ้าระดับเริ่มต้นของ BMW ซีรีส์ X
BMW iX1 มีทั้งพละกำลังที่พร้อมจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าตามสไตล์ของ BMW X และยังให้ความประหยัดด้วยเทคโนโลยี BMW eDrive แบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงออกแบบให้เตี้ยเป็นพิเศษ โดยติดตั้งอยู่ที่ใต้ท้องรถ พร้อมด้วยระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งทำหน้าที่กู้คืนพลังงานจากการเบรก
ภายนอกของ BMW iX1 บ่งบอกถึงความสปอร์ตด้วยสัดส่วนที่เน้นความสูงและด้านหน้ารถที่ชัดเจน รุ่นเปิดตัวใช้สีตกแต่งสีน้ำเงินเพื่อสะท้อนถึงนวัตกรรมของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนที่อยู่ภายในห้องเครื่อง ภายในของรถเน้นความรู้สึกทันสมัยและสะดวกสบายแม้จะเป็นการเดินทางไกล ที่นั่งผู้โดยสารเป็นที่นั่งแบบแอ็คทีฟแบบปรับด้วยไฟฟ้า จอแสดงผลไร้ขอบ BMW Curved Display เพิ่มความสะดวกในการสั่งงานระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานด้วยเสียงหรือระบบสัมผัส รวมทั้งยังควบคุมได้ผ่านทางระบบ BMW iDrive ที่ประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว
ช่วงปีที่มีการผลิต: ตั้งแต่ปี 2022
ระบบขับเคลื่อนโดยรวม, สมรรถนะในหน่วยกิโลวัตต์ (แรงม้า): มอเตอร์ไฟฟ้า 150-230 กิโลวัตต์ (204-313 แรงม้า)[3]
ความยาว/กว้าง/สูงในหน่วย มม.: 4,500 / 1,845 / 1,616
BMW iX1[1]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 18.1-15.4; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 417-474
BMW i3
BMW i3 เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของการเป็นนักบุกเบิก นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก รถยนต์รุ่นนี้ได้ผสานคุณสมบัติการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเข้ากับเทคโนโลยีแห่งอนาคต รวมทั้งยังมีการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้กับการผลิตอย่างชาญฉลาดตามแนวทางความยั่งยืน
รุ่นแรก (i01)
BMW i3 เปิดตัวออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2013 นอกจากจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ BMW ที่มาจากสายการผลิตมาตรฐานแล้ว ยังเป็นรถยนต์ผลิตเพื่อจำหน่ายรุ่นแรกที่ใช้ห้องโดยสารพลาสติกเสริมคาร์บอนไฟเบอร์ร่วมกับแชสซีอะลูมิเนียม ซึ่งช่วยให้ตัวรถมีน้ำหนักเท่ากับรถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในทั่วไป ถึงแม้จะต้องบรรทุกแบตเตอรี่ไปด้วยก็ตาม นอกจากนี้ ชิ้นส่วนส่วนใหญ่ยังผลิตจากวัตถุดิบที่สามารถนำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ได้
มอเตอร์ไฟฟ้าของ BMW i3 ให้กำลังอยู่ที่ 125 กิโลวัตต์ (170 แรงม้า) และสามารถเรียกแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าได้เต็มที่ทันทีที่แตะคันเร่ง ในปี 2017 ได้มีการเปิดตัว BMW i3s ซึ่งมีกำลังของระบบขับเคลื่อนเพิ่มขึ้นอีก 10 กิโลวัตต์ (14 แรงม้า) ทำให้ BMW i3s สามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 6.9 วินาที ซึ่งเร็วกว่า BMW i3 0.4 วินาที
ในปี 2016 ได้มีการเพิ่มแบตเตอรี่ขนาด 33.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง และในปี 2018 ความจุของแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นอีกเป็น 42.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้ BMW i3 มีระยะขับขี่อยู่ที่ 307 กม. (WLTP)(1) ถ้าชาร์จที่สถานีชาร์จด่วนที่มีกำลังไฟฟ้ามากว่า 50 กิโลวัตต์ จะสามารถชาร์จ BMW i3 จนเต็มได้ในเวลาเพียง 1.4 ชั่วโมงเท่านั้น BMW i3 และ BMW i3s มียอดการผลิตมากกว่า 250,000 คันและถูกนำไปใช้งานบนถนนทั่วโลก
ช่วงปีที่มีการผลิต: 2013 – 2022
ระบบขับเคลื่อนโดยรวม, สมรรถนะในหน่วยกิโลวัตต์ (แรงม้า): มอเตอร์ไฟฟ้า 125–135 (170–184), มีรุ่น Range Extender จนถึงปี 2018 (เครื่องยนต์เบนซิน 0.65 ลิตร, 28 กิโลวัตต์ (38 แรงม้า)
ความยาว/กว้าง/สูงในหน่วย มม.: 3,999–4,011 / 1,775 / 1,578
BMW i3[1][4]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 16.6–15.3; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 278–307
BMW i8
BMW i8 คือรถสปอร์ตผลิตเพื่อจำหน่ายรุ่นแรกที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริด งานแสดงยานยนต์นานาชาติปี 2009 เป็นครั้งแรกที่มีการนำแนวคิดเพื่อความยั่งยืนเข้ามารวมเป็นแนวคิดเดียวกับคุณสมบัติการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม พร้อมรูปลักษณ์การออกแบบที่ล้ำสมัยและโดดเด่น
รุ่นแรก (i12, i15)
BMW i8 ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมเครื่องยนต์ไฮบริด ประกอบด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสำหรับล้อหน้าและเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ BMW TwinPower Turbo สำหรับล้อหลัง ส่งผลให้อัตราสิ้นเปลื้องน้ำมันเทียบเท่ากับรถยนต์ขนาดเล็ก แต่ให้สมรถนะการขับขี่ระดับเดียวกับรถสปอร์ต รถคูเป้รุ่นนี้มีความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม. โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว พละกำลังโดยรวมของ BMW i8 อยู่ที่ 266 กิโลวัตต์ (362 แรงม้า) จนถึงปี 2019 จากนั้น จึงมีการขยับกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 275 กิโลวัตต์ (374 แรงม้า)
ในแง่ของรูปลักษณ์ BMW i8 ได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่เช่นเดียวกัน โดยเป็นรถยนต์ผลิตเพื่อจำหน่ายรุ่นแรกที่ใช้ระบบไฟเลเซอร์ รวมทั้งมีรุ่น Roadster ออกจำหน่ายตั้งแต่ปี 2018 ยอดการผลิตทั้งหมดของรถยนต์รุ่นนี้อยู่ที่ 20,500 คัน
ช่วงปีที่มีการผลิต: 2013 – 2020
ระบบขับเคลื่อนโดยรวม, สมรรถนะในหน่วยกิโลวัตต์ (แรงม้า): เครื่องยนต์เบนซินระบบปลั๊กอินไฮบริด 266–275 (362–374)
ความยาว/กว้าง/สูงในหน่วย มม.: 4,689 / 1,942 / 1,289–1,291
ระยะขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าตามเกณฑ์ NEDC ในหน่วย กม. [1][4]: เดินทางได้สูงสุด 55 กิโลเมตร
BMW i5[1]: อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 18.9–15.9; ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 497–582
คำถามที่พบบ่อย
ความสิ้นเปลืองพลังงานและการปล่อย CO2
BMW i7 M70 xDrive Sedan[1]:
อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 23.7-20.8
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 490-559
BMW i7 Sedan[1]:
อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 23.7-18.5
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 490-624
BMW i5 M60 xDrive Sedan[1]:
อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 20.8-18.2
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 445-516
BMW i5 Sedan[1]:
อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 20.6-15.9
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 455-582
BMW i5 M60 xDrive Touring[1]:
อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 21.0-18.3
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 441-506
BMW i5 Touring[1]:
อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 20.8-16.5
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 445-560
BMW i4 M50 Gran Coupé[1]:
อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 22.5-18.0
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 415-520
BMW i4[1]:
อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 22.5-15.8
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 406-590
BMW iX M60[1]:
อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 24.7-22.0
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้า, WLTP เป็นหน่วยกิโลเมตร: 500–563
BMW iX[1]:
อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 24.7-19.4
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 403-633
BMW iX3[1]:
อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 18.0-17.6
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 461-471
BMW iX1[1]:
อัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 18.1-15.4
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กม.): 417-474
[1] ระยะขับขี่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยต่อไปนี้: ลักษณะการขับขี่เฉพาะบุคคล ลักษณะของเส้นทาง อุณหภูมิภายนอก การใช้งานระบบทำความร้อน/ระบบปรับอากาศในขณะขับขี่และก่อนออกเดินทาง
[2] ประสิทธิภาพการชาร์จขึ้นอยู่กับสถานะการชาร์จ อุณหภูมิแวดล้อม รูปแบบการขับขี่ส่วนบุคคล และการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสริม ช่วงระยะการขับขี่ที่แสดงอ้างอิงจากสถานการณ์ที่ดีที่สุดตาม WLTP เวลาในการชาร์จใช้กับอุณหภูมิแวดล้อม 23 องศาเซลเซียสหลังจากการขับขี่ที่ผ่านมา และอาจแตกต่างกันตามลักษณะการใช้งาน
[3] มีการเพิ่มระดับกำลังเกินกว่าค่าระบุที่กำหนดชั่วคราว <10 วินาที
[4] ไม่มีจำหน่ายเป็นรถยนต์ใหม่แล้ว
ตัวเลขสมรรถนะ อัตราการสิ้นเปลือง และการปล่อย CO2 เป็นค่าของรถยนต์ที่ใช้ระบบเกียร์มาตรฐาน
ตัวเลขอย่างเป็นทางการของอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง การปล่อย CO2 อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า และระยะขับขี่ด้วยไฟฟ้าเป็นค่าที่คำนวณโดยใช้กระบวนการวัดตามที่กำหนดและเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ (EU) 715/2007 ที่มีผลบังคับใช้ ในกรณีวัดระยะทางการขับขี่ ข้อมูลที่ระบุตาม WLTP มีการนำอุปกรณ์เสริมมาพิจารณาด้วย (ในกรณีนี้คืออุปกรณ์เสริมเฉพาะที่มีในตลาดประเทศเยอรมนี) สำหรับรถยนต์ที่เพิ่งได้รับการรับรองประเภทตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2021 เป็นต้นไป ข้อมูลอย่างเป็นทางการจะระบุตาม WLTP เท่านั้น นอกจากนี้ ใบรับรองมาตรฐานจะไม่ระบุค่า NEDC ณ วันที่ 1 มกราคม 2023 ตามระเบียบข้อบังคับ EU Regulation 2022/195 ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการวัดค่า NEDC และ WLTP ได้ที่ www.bmw.de/wltp
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและค่าการปล่อย CO2 อย่างเป็นทางการของรถยนต์โดยสารส่วนบุคคลรุ่นใหม่แต่ละรุ่นได้จากเอกสาร "คำแนะนำเกี่ยวกับอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง การปล่อย CO2 และอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับรถยนต์โดยสารส่วนบุคคลรุ่นใหม่" ซึ่งสามารถขอได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ณ สถานที่จำหน่ายทุกแห่ง หรือขอได้จาก Deutsche Automobil Treuhand GmbH (DAT), Hellmuth-Hirth-Str. 1, 73760 Ostfildern-Scharnhausen, Germany รวมถึงสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ https://www.dat.de/co2/
ข้อมูลสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซินเป็นค่าสำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง RON 98 ข้อมูลอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเป็นค่าสำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามระเบียบข้อบังคับ EU Regulation 715/2007 น้ำมันเชื้อเพลิงไร้สารตะกั่ว RON 91 และสูงกว่าที่มีส่วนผสมของเอทานอลในอัตราส่วนไม่เกิน 10% (E10) สามารถใช้ได้เช่นกัน BMW แนะนำให้ใช้น้ำมัน RON 95 สำหรับรถยนต์สมรรถนะสูง BMW แนะนำให้ใช้น้ำมัน RON 98