EFFICIENT DRIVING.

โหมด ECO PRO ประกอบด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่หลากหลายที่จะช่วยให้คนขับสามารถลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้สูงถึง 25% ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงาน เช่น ระบบปรับอากาศ หรือระบบปรับความร้อนเบาะสำหรับผู้โดยสาร

ในโหมด ECO PRO พารามิเตอร์ของแป้นคันเร่งและระบบเกียร์อัตโนมัติจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยเสริมสไตล์การขับขี่ให้สามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม คนขับจะยังคงสามารถใช้สมรรถนะแรงสูงสุดได้โดยการเหยียบแป้นคันเร่งลงไปจนสุด

Bonus range ที่แสดงขึ้นมาจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับระยะกิโลเมตรที่เพิ่มขึ้นมาที่รถสามารถวิ่งได้หากมีการปรับประสิทธิภาพการขับขี่ให้เหมาะสมในโหมด ECO PRO และหน้าจอแสดงอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจะเปรียบเทียบอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยกับค่าปัจจุบันให้ได้เห็นอย่างชัดเจน

เทคโนโลยี Mild hybrid ช่วยทำให้สามารถดึงพลังงานกลับคืนมาได้ในขณะที่รถลดความเร็วลง โดยจะใช้พลังงานนี้เพื่อบูสต์เครื่องยนต์เผาไหม้ในระหว่างการเร่งความเร็ว ผลที่ได้คือ อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานและการปล่อยไอเสียลดต่ำลงในขณะที่มีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มสูงขึ้น เทคโนโลยี Mild hybrid ทำให้ฟังก์ชัน Automatic Start/Stop ทำงานเร็วขึ้นและสะดวกสบายยิ่งขึ้น และยังสามารถใช้ได้ในหลากหลายช่วงความเร็ว ด้วยเทคโนโลยี Mild hybrid นี้ มอเตอร์จะสามารถหยุดการทำงาน และยังคงอยู่ในโหมดสแตนด์บายในระหว่างการขับขี่แบบ Coasting ได้ ซึ่งทำให้รถยังคงเคลื่อนที่ไปได้โดยที่ไม่ต้องสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง หรือปล่อยก๊าซไอเสียเลย

ฟังก์ชัน Engine-off coasting ช่วยทำให้รถเคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องใช้พลังงาน และไม่ต้องปล่อยก๊าซไอเสียออกมาโดยที่ยังเก็บรักษาพลังงานจลน์ไว้ได้สูงสุด เมื่อเท้าของคนขับยกออกจากแป้นคันเร่ง ฟังก์ชันการทำงานจะสลับระหว่าง Coasting และ Recuperation ซึ่งจะปรับเปลี่ยนไปตามข้อมูลที่ได้จากสภาวะโดยรอบ ฟังก์ชัน Engine-off coasting นี้จะสามารถใช้ได้กับรถที่มีเทคโนโลยี Mild hybrid สำหรับรถที่ไม่มีเทคโนโลยี Mild hybrid เครื่องยนต์จะยังคงรักษารอบเดินเบาไว้ในระหว่างการขับขี่ คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบ Coasting ได้ในโหมดการขับขี่ COMFORT และในโหมดการขับขี่ ECO PRO ฟังก์ชัน “Coasting Counter” จะแสดงระยะการขับขี่ที่มีได้ในโหมด Coasting

โหมด HYBRID ECO PRO ประกอบด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะช่วยให้คนขับสามารถลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้สูงถึง 25% ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงาน เช่น ระบบปรับอากาศ หรือระบบปรับความร้อนเบาะสำหรับผู้โดยสาร

ในโหมด ECO PRO พารามิเตอร์ของแป้นคันเร่งและระบบเกียร์อัตโนมัติจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นการช่วยปรับสไตล์การขับขี่ให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากยิ่งขึ้น

ส่วนระบบ eDRIVE Counter ที่ทำงานร่วมกันจะทำหน้าที่แจ้งให้คุณได้ทราบว่าระยะกิโลเมตรที่รถวิ่งได้โดยที่ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์เผาไหม้และไม่มีการปล่อยก๊าซไอเสียจะมีระยะทางอยู่ที่เท่าไหร่

ระบบ Anticipatory Hybrid Drive จะช่วยให้สามารถนำพลังงานไฟฟ้าที่มีอยู่มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยที่ต้องเปิดใช้งานระบบแนะนำเส้นทางในระบบนำทาง เพื่อให้สามารถขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าในเส้นทางในเมืองและบริเวณรอบ ๆ จุดหมายปลายทางได้ หากแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงได้รับการชาร์จไฟฟ้ามาอย่างเพียงพอ ระบบจะเลือกเส้นทางเพิ่มเติมสำหรับการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อที่จะดึงพลังงานขึ้นมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น เครื่องยนต์เผาไหม้จะหยุดทำงานหรือทำงานโดยอัตโนมัติตามเส้นทางที่ขับผ่าน ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น และยังสามารถขับขี่ไปได้โดยที่ไม่มีการปล่อยมลพิษในบริเวณที่ใกล้กับอาคารบ้านเรือน

ในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Adaptive Recuperation ที่มีอยู่ในระบบขับเคลื่อนไฮบริด (เช่น BMW xDrive45e) ระบบนี้จะให้สไตล์การขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพและรองรับระบบมอเตอร์แบบ Forward-Looking ในโหมด HYBRID ECO PRO โดยระบบนี้จะปรับการทำงานของรถให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์ รถจะตัดสินเองโดยอัตโนมัติระหว่างการขับขี่แบบ Coasting และ Recuperation เมื่อเท้าของคนขับยกออกจากแป้นคันเร่ง ไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุจากรถคันข้างหน้า การจำกัดความเร็ว วงเวียน ทางแยก หรือบริเวณที่มีตึกรามบ้านช่องจำนวนมากก็ตาม ระบบจะปรับตั้งลักษณะการลดความเร็วให้เหมาะสมที่สุดกับสภาพการจราจร ผลที่ได้คือช่วยลดการเหยียบแป้นเบรกลงไปได้และเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่มากยิ่งขึ้น