BMW Thailand - Class of the Future
ข่าวประชาสัมพันธ์ | 2565.03.07

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ชวนร่วม Class of the Future เจาะลึกวิสัยทัศน์แห่งอนาคตในชีวิตวิถีใหม่ เปิดประสบการณ์รับเทรนด์เปลี่ยนโลก

พบกับผู้นำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่จะมาร่วมแบ่งปันมุมมองเชิงลึกกับ 4 ประเด็นหลักแห่งอนาคต ทั้งฟินเทค ไลฟ์สไตล์ ระบบนิเวศน์ และพลังงาน

 

กรุงเทพฯ. เมื่อโลกในปัจจุบันถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ควบคู่นวัตกรรมและดิจิทัลที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จึงได้จัดโครงการหลักสูตร BMW Thailand – Class of the Future เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเปิดโลกทัศน์รับวิถีชีวิตแบบใหม่ให้แก่ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูและผู้ที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร นักธุรกิจ นักการตลาด มาร่วมต่อยอดทางด้านความคิดผ่านมุมมองและประสบการณ์ตรงจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายวงการในระดับชั้นนำของไทยกว่า 16 คน มาร่วมเจาะลึกองค์ความรู้ 8 ด้านที่ครอบคลุมเทรนด์เปลี่ยนโลกอย่างฟินเทค เทคโนโลยีโลกเสมือน การดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน การสร้างสมดุลกายใจ ตลอดไปจนถึงพลังงานทางเลือกและยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงานให้สามารถสร้างสรรค์ธุรกิจได้หลากหลายรูปแบบยิ่งขึ้น ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบีเอ็มดับเบิลยูที่ไม่เพียงมุ่งเป็นผู้นำในด้านยนตรกรรมเท่านั้น แต่ยังพร้อมยกระดับการใช้ชีวิตในอนาคตอย่างรอบด้านและยั่งยืน โดยหลักสูตร BMW Thailand – Class of the Future จะจัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม 2565 และเปิดให้ลงทะเบียนผ่านทาง 0-2729-8737 และ 08-1641-6643  ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป

อ่านเพิ่มเติม
BMW Thailand - Class of the Future

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย นำโดย มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา (ที่ 4 จากซ้าย)  ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย พร้อมด้วย คุณปรีชา นินาทเกียรติกุล (ขวาสุด) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย และคุณกฤษฎา อุตตโมทย์ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย แถลงข่าวเปิดตัวหลักสูตร BMW Thailand – Class of the Future โดยมี ดร.จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ (ซ้ายสุด) CEO & Co-founder ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร Quantum Technology Foundation Thailand (QTFT) องค์กรที่ปรึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัม ประเทศไทย, คุณแดน ปฐมวาณิชย์ (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF) และ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเลและรองคณบดี คณะประมงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมเสวนาเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงในสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่ Gaysorn Urban Resort เมื่อเร็ว ๆ นี้

มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “วิธีที่ดีที่สุดในการกำหนดอนาคตก็คือการสร้างมันขึ้นมา ซึ่งเป็นจุดที่ผลักดันให้เราเป็นผู้บุกเบิกในด้านนวัตกรรม การปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล และความยั่งยืนผ่านทางเลือกที่หลากหลาย จนก้าวขึ้นมาสู่อันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์พรีเมียมและครองใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง นอกจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยียนตรกรรมการขับขี่ เรายังให้การสนับสนุนการสร้างคุณค่าแก่สังคมควบคู่กัน โครงการหลักสูตร BMW Thailand – Class of the Future ถือเป็นอีกเวทีหนึ่งที่เราได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงต่าง ๆ ซึ่งล้วนเป็นอุตสาหกรรมหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่จะมาร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์และมุมมองใหม่ ๆ ให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการนำไปปรับใช้เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม ตอบรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และปูทางไปสู่การเติบโตใหม่ ๆ ในอนาคต”

 

BMW Thailand – Class of the Future หลักสูตรการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านกิจกรรมแบบ 360 องศา ประกอบด้วย การบรรยายและเวิร์คชอปทั้งหมด 8 คลาส เป็นระยะเวลาสามเดือน โดยมีเนื้อหาครอบคลุมเมกะเทรนด์สำคัญในหลายอุตสาหกรรมที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต ผู้เข้าร่วมจะได้รับโอกาสสุดพิเศษในการเรียนรู้และพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิระดับแถวหน้าของวงการ ที่มาร่วมเป็นวิทยากรและถ่ายทอดเรื่องราวให้ผู้เข้าร่วมได้นำไปประยุกต์ใช้ โดยแบ่งออกเป็นคลาสต่าง ๆ ดังนี้

  1. A BETTER NORMAL ร่วมเสวนาเกี่ยวกับภาพรวมของวิถีชีวิตใหม่ และปรากฎการณ์ด้านเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม ธุรกิจ รวมถึงวิกฤติการณ์โรคระบาด ซึ่งล้วนได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งต่อชีวิตของเราและในทุกอุตสาหกรรม พร้อมต่อยอดความคิดในการสร้างสรรค์ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตวิถีใหม่ที่เท่าทันและชาญฉลาดยิ่งขึ้น
  2. FINTECH เจาะลึกเทคโนโลยีฟินเทค บล็อกเชน สินทรัพย์ดิจิทัล (cryptocurrency) และนวัตกรรมด้านการเงินที่มาแรงที่สุดในปีนี้ไปกับเหล่าวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการเงิน ไม่ว่าจะเป็น คุณธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), ดร.วาริน เขห์รา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จํากัด, ดร.จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ควอนตัมเทคโนโลยีฟาวเดชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (QTFT) และคุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิทคัพ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ Bitkub
  3. LIFE IN THE FUTURE รุดหน้าสู่ชีวิตในโลกอนาคตกับชีวิตคู่ขนานในโลกเสมือน ได้รับเกียรติจาก ดร. นที เทพโภชน์ ประธานกรรมการ บริษัท ออมแพลทฟอร์ม จำกัด, คุณแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ หรือ NRF พร้อมแขกรับเชิญพิเศษ คุณโบ ดวงพร ทรงวิศวะ ที่สร้างสรรค์เมนูด้วยวัตถุดิบออร์แกนิค
  4. ECOSYSTEM FOR A BETTER WORLD ขับเคลื่อนอีโคซิสเต็มเพื่อโลกที่ดียิ่งขึ้น กับแนวทางในการเตรียมความพร้อมด้านสิ่งแวดล้อมสู่อนาคตอย่างยั่งยืน นำโดยสองหนุ่มต่างวัยที่โดดเด่นในด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผศ.ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ และ คุณอเล็กซ์ เรนเดลล์ ทูตสันถวไมตรีคนแรกประจำประเทศไทย จากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) พร้อมตอบรับกระแสพื้นที่สีเขียวในเมืองหรือกรีน สเปซ รวมถึงกรีน คาร์บอน เติมอากาศสะอาดให้แก่ชีวิตใจกลางเมือง ชะลอการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกและปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยได้รับเกียรติจากคุณกชกร วรอาคม ภูมิสถาปนิกและอาจารย์พิเศษ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของบริษัท Landprocess ผู้ออกแบบอุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สวนเกษตรลอยฟ้าใจกลางสยามสแควร์ และคุณชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัทบางจาก
  5. HEALTH AND WELL-BEING เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลในชีวิต เพื่อก้าวไปสู่โลกอนาคตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีคุณฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธัญ-ออริซ่าผู้ก่อตั้งแบรนด์ THANN ร่วมเป็นวิทยากร
  6. RENEWABLE ENERGY รับฟังวิสัยทัศน์การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลกจากพลังงานฟอสซิลสู่พลังงานสะอาด พร้อมทำความรู้จักทิศทางพลังงานโลกที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและตั้งเป้าปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2593 ตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) จะขับเคลื่อนโลกใบนี้ให้หมุนต่อไปได้อย่างยั่งยืนด้วยพลังงานหมุนเวียน ซึ่งได้รับเกียรติจากคุณสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) และคุณเจย์ ลี Executive Director แห่งเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก
  7. EV INDUSTRY เปิดเทรนด์สำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าโดยผู้เชี่ยวชาญจากบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่จะมาเผยเบื้องลึกของเทคโนโลยีที่จะเข้ามาพลิกโฉมโลกยนตรกรรม ตั้งแต่เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนที่ปราศจากมลพิษ ตลอดไปจนถึงความยั่งยืนที่สอดแทรกในกระบวนการผลิตและการออกแบบยานยนต์
  8. COLLABORATION ตกผลึกความรู้ และการประยุกต์ใช้วิสัยทัศน์จากวิทยากรในคลาสต่าง ๆ ตลอดโครงการในกิจกรรมเวิร์คชอป เพื่อร่วมนำเสนอการสร้างแรงบันดาลใจและแนวคิดขับเคลื่อนพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตใหม่อย่างเป็นรูปธรรมและใกล้ตัวยิ่งขึ้น

 

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อสมัครเข้าร่วม BMW Thailand – Class of the Future ผ่านทาง 0-2729-8737 และ 08-1641-6643 ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2565 และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bmw.co.th/th/classofthefuture

  • บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป

    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 15 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก

    ในปี พ.ศ. 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.5 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 194,000 คันทั่วโลก กำไรก่อนหักภาษีในปีงบประมาณ 2563 อยู่ที่ 5.222 พันล้านยูโร จากรายได้รวม 98.990 พันล้านยูโร โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 120,726 คนทั่วโลก

    ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี โดยวางรากฐานความสำคัญสำหรับอนาคตตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม โดยคำนึงถึงความยั่งยืนและการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตั้งแต่กระบวนการการผลิตสินค้าไปยังผู้บริโภค หรือซัพพลายเชนในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย 

    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสี่บริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยูและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตชิ้นส่วนสำหรับการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ณ จังหวัดระยอง  

    ในปี 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 11,032 คัน โดยแบ่งเป็นยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 9,982 คัน และยอดจดทะเบียนรถยนต์มินิ 1,050 คัน ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดรวม 1,197 คัน

    ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนู แฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 15 ประเทศทั่วโลก 

    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 18 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็มดับเบิลยู X5 บีเอ็มดับเบิลยู X6 และบีเอ็มดับเบิลยูู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 5 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e และบีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
    1397

    www.bmw.co.th
    www.mini.co.th
    www.bmw-motorrad.co.th

    สื่อมวลชนติดต่อ  บริษัท คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
    สุธาทิพย์ บุญแสง (08-7685-1695 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 102)
    เบญจา หวังพีระวงศ์ (08-1629-5924 or 0-2627-3501 ต่อ 218)
    ปวริศา ธนวจีรัณ (08-6564-4726 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 125)
    จิรวัฒน์ อรรคจันทร์ (09-3636-1241 or 0-2627-3501 ต่อ 101)
    sboonsaeng@carlbyoir.com, bwangpeerawong@carlbyoir.com, pthanawajeran@carlbyoir.com, jakachan@carlbyoir.com