ข่าวประชาสัมพันธ์ | 2565.06.22

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ฉลอง 5 ทศวรรษ บีเอ็มดับเบิลยู M เผยโฉมรถสปอร์ตซีดานสุดหรู “บีเอ็มดับเบิลยู M5 Competition”

พร้อมให้แฟน ๆ ได้เป็นเจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยูพร้อมโลโก้ฉลอง 50 ปีแห่งบีเอ็มดับเบิลยู M สุดพิเศษ สำหรับผู้ที่จองและรับรถบีเอ็มดับเบิลยู M หรือ M Sport รุ่นที่กำหนด ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนธันวาคม 2565* 

กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี บีเอ็มดับเบิลยู M เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู M5 Competition ยนตรกรรมซึ่งเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ของรถสปอร์ตซีดานสมรรถนะสูง ที่มาพร้อมกับการออกแบบที่หรูหราและฟังก์ชันการทำงานระดับสุดยอด พร้อมกันนี้ ลูกค้าที่จองและรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M หรือรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูบางรุ่นที่ติดตั้งแพ็คเกจ M Sport ยังจะมีโอกาสได้เป็นเจ้าของเครื่องหมายบีเอ็มดับเบิลยู M รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปีก่อนใคร ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนธันวาคม 2565*
 

มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ปีนี้นับเป็นอีกหนึ่งปีที่จะต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของบีเอ็มดับเบิลยู M ด้วยความสำเร็จตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2515 บีเอ็มดับเบิลยู M ได้กลายมาเป็นตัวแทนแห่งจิตวิญญาณมอเตอร์สปอร์ต และกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่โดดเด่นเหนือใครจนทุกวันนี้ ความสำเร็จซึ่งไม่มีใครเทียบได้ของบีเอ็มดับเบิลยู M ในเซกเมนต์รถยนต์สมรรถนะสูง ยังพิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความทุ่มเทในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ได้กลายเป็นตำนานไปทั่วโลก ซึ่งนอกจากการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู M5 Competition รถสปอร์ตซีดานสมรรถนะสูงที่เหนือชั้นอย่างรอบด้านในประเทศไทยแล้ว เรายังพร้อมถ่ายทอดความทรงพลัง ความเร้าใจ และความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของบีเอ็มดับเบิลยู M ตลอด 50 ปีผ่านทางโลโก้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ให้แฟน ๆ สายมอเตอร์สปอร์ตได้ร่วมสัมผัสและเฉลิมฉลองความทรงพลังนี้ไปด้วยกัน”


บีเอ็มดับเบิลยู M5 Competition
ราคาจำหน่าย: 13,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

อ่านเพิ่มเติม
 BMW M5 Competition and 50 Years Anniversary M Badge

บีเอ็มดับเบิลยู M5 Competition ยังคงตอกย้ำถึงคาแร็คเตอร์สุดโฉบเฉี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ของรถสปอร์ต ซีดานสมรรถนะสูง เหนือชั้นด้วยเครื่องยนต์ V8 พร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo โลดแล่นด้วยพละกำลังสูงสุด 460 กิโลวัตต์ / 625 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ที่ 1,800 - 5,860 รอบต่อนาที พร้อมส่งพลังสู่พื้นถนนอย่างเต็มสมรรถนะ เทคโนโลยีช่วงล่างได้รับการตั้งค่ามาโดยเฉพาะ ทำงานร่วมกันระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive และระบบเฟืองท้าย Active M 

 

ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้า M Double bars สีดำมันวาวพร้อมกับตราสัญลักษณ์ M5 Competition สีดำ กันชนหน้าที่ดุดันมาพร้อมกับช่องรับอากาศด้านข้างที่ใหญ่ขึ้น ไฟหน้า LED แบบใหม่ทรงพลังด้วยหลอดไฟทรงเรียวยาวรูปตัว L แบบใหม่ซึ่งชี้ไปยังกระจังหน้าทรงไตคู่ ไฟท้ายที่ออกแบบใหม่แบบ 3D พร้อมแถบ LED ให้ไฟส่องสว่างอย่างแม่นยำและคมชัด รวมทั้งมีล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ M ขนาด 20 นิ้ว ลาย Double-spoke มาในสี Jet Black 

 

สมรรถนะที่คงความทรงพลังในแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยู M5 Competition สะท้อนให้เห็นจากความแรงอันเร้าใจ ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมและการควบคุมที่แม่นยำในทุกเลี้ยวโค้ง โดยสามารถเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.3 วินาที และ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 10.8 วินาที นอกจากนั้น โช้คแอบซอร์เบอร์จากรุ่น M8 Gran Coupé และแชสซีที่ปรับแต่งใหม่ ยังช่วยในการขับขี่และการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น ผสานกับความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ตัวรถเตี้ยกว่าบีเอ็มดับเบิลยู M5 รุ่นมาตรฐาน 7 มิลลิเมตร ยังช่วยเพิ่มกำลังของรถให้พร้อมเข้าสู่สนามแข่งอย่างเต็มที่

 

ภายในห้องโดยสารยังมีหน้าจอ Infotainment ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto รวมทั้งมีระบบนำทางบนคลาวด์ นอกจากนั้น ยังมีการปรับปรุงเบาะและคอนโซล ที่มีปุ่มใหม่ 2 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่ม Set Up ที่ช่วยให้เข้าถึงการตั้งค่าต่าง ๆ ในการควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ปุ่ม M Mode สำหรับการสลับการตั้งค่าโหมดในการขับขี่ Road และ Sport ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น บีเอ็มดับเบิลยู M5 Competition ยังมีโหมด Track ที่ให้ความรู้สึกแบบ M อย่างแท้จริงราวกับอยู่บนสนามแข่ง

อ่านเพิ่มเติม

ฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งบีเอ็มดับเบิลยู M ตัวอักษรอันทรงพลังกับโลโก้สุดพิเศษ

เพื่อร่วมฉลองการก่อตั้งครบรอบ 50 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู M ลูกค้าที่เลือกซื้อรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M หรือบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นที่ติดตั้งแพ็คเกจ M Sport* เช่น บีเอ็มดับเบิลยู 220i Gran Coupe M Sport บีเอ็มดับเบิลยู 320d M Sport บีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive บีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และ บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport เป็นต้น จะมาพร้อมสัญลักษณ์บีเอ็มดับเบิลยูสุดพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ M 50 ปี ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากโลโก้ "BMW Motorsport" แบบคลาสสิก ที่บริเวณฝากระโปรงหน้าและหลัง และดุมล้อของรถ สำหรับผู้ที่จองและรับรถตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565*

อ่านเพิ่มเติม
BMW M5 Competition and 50 Years Anniversary M Badge
BMW M5 Competition and 50 Years Anniversary M Badge

โลโก้บีเอ็มดับเบิลยูพิเศษในครั้งนี้ ที่ได้รับการดีไซน์มาให้สื่อถึงกลิ่นอายแห่งความแรงเร้าใจตามแบบฉบับมอเตอร์สปอร์ต โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโลโก้ที่ถูกนำมาใช้ในปี พ.ศ. 2516 ในการแข่งขันรถบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์สปอร์ต ประกอบไปด้วยสามสีอันเป็นเอกลักษณ์

อ่านเพิ่มเติม

และสื่อความหมายที่แตกต่างกัน ได้แก่ สีฟ้า หมายถึงบีเอ็มดับเบิลยู สีแดง สื่อถึงความเร้าใจจากการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต และสีน้ำเงินเข้ม ที่สะท้อนถึงการหลอมรวมระหว่างบีเอ็มดับเบิลยูและความเร้าใจจากการแข่งรถ ผสมผสานกันอย่างลงตัว โดยทั้งสามสีมาในลายเส้นแบบครึ่งวงกลม โอบล้อมโลโก้บีเอ็มดับเบิลยูไว้ในสามทิศทางต่าง ๆ กันเพื่อสื่อถึงการเคลื่อนที่ของรถยนต์ในสนามแข่ง สอดประสานออกมาเป็นสามสีในตำนานบนโลโก้เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู M

ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อผู้จำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการในประเทศไทย หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bmw.co.th/

*ลูกค้าสามารถตรวจสอบรายละเอียด รุ่นรถยนต์ และระยะเวลาในการส่งมอบได้ที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู

 

อ่านเพิ่มเติม
  • บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป

    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 15 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก 
     

    ในปี พ.ศ. 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.5 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 194,000 คันทั่วโลก กำไรก่อนหักภาษีในปีงบประมาณ 2564 อยู่ที่ 16.1 พันล้านยูโร จากรายได้รวม 111.2 พันล้านยูโร โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 บีเอ็ม ดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 118,909 คนทั่วโลก
     

    ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี โดยวางรากฐานความสำคัญสำหรับอนาคตตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม โดยคำนึงถึงความยั่งยืนและการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตั้งแต่กระบวนการการผลิตสินค้าไปยังผู้บริโภค หรือซัพพลายเชนในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย 
     

    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสี่บริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยูและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตชิ้นส่วนสำหรับการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ณ จังหวัดระยอง 
     

    ในปี 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 11,032 คัน โดยแบ่งเป็นยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 9,982 คัน และยอดจดทะเบียนรถยนต์มินิ 1,050 คัน ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดรวม 1,197 คัน 
     

    ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนู แฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 15 ประเทศทั่วโลก 
     

    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่าง ๆ ทั้งหมด 18 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็มดับเบิลยู X5 บีเอ็มดับเบิลยู X6 และบีเอ็มดับเบิลยูู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 5 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e และบีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive


    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
    1397
    www.bmw.co.th
    www.mini.co.th
    www.bmw-motorrad.co.th


    สื่อมวลชนติดต่อ  บริษัท คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
    สุธาทิพย์ บุญแสง (08-7685-1695 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 102)
    ปวริศา ธนวจีรัณ (08-6564-4726 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 125) 
    นวพรรษ ศรีสรินทร์ (08-2654-9447 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 126) 
    จิรวัฒน์ อรรคจันทร์ (09-3636-1241 or 0-2627-3501 ต่อ 101)
    sboonsaeng@carlbyoir.com, pthanawajeran@carlbyoir.com, nseesarin@carlbyoir.com, jakachan@carlbyoir.com