ข่าวประชาสัมพันธ์ | 2565.08.25

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ร่วมกับมิลเลนเนียม ออโต้ ขับเคลื่อนการเดินทางด้วยพลังงานสะอาดสำหรับการประชุม APEC 2022 ให้บริการบีเอ็มดับเบิลยูปลั๊กอินไฮบริด 530e M Sport แก่กระทรวงพาณิชย์

กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เดินหน้ายกระดับความเป็นผู้นำในตลาดยานยนต์ไฟฟ้ากลุ่มพรีเมียม PHEV และ BEV ในประเทศไทย พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนของบีเอ็มดับเบิลยู และมิลเลนเนียม ออโต้ ได้รับความไว้วางใจให้จัดสรรยานยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport ปลั๊กอินไฮบริด จำนวน 34 คันเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่รัฐมนตรีการค้าของสมาชิกเอเปคในช่วงระหว่างการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC 2022) ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบีเอ็มดับเบิลยูในการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลไทยด้านการส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ในกลุ่มสมาชิกเอเปค โดยเน้นย้ำถึงความตื่นตัวต่อการปรับเปลี่ยนสู่การใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้ากลุ่ม PHEV และ BEV

 

มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญของรัฐบาลไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดงานการประชุม APEC 2022 ภายใต้หัวข้อ Open. Connect. Balance. หรือ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” นับเป็นโอกาสอันดียิ่งสำหรับประเทศไทยในการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงการคำนึงถึงการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่ต้องอาศัยความร่วมมือและความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน สอดคล้องกับพันธกิจของบีเอ็มดับเบิลยูในการมุ่งมั่นผลักดันอนาคตแห่งยนตรกรรมที่ลดมลพิษอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมขับเคลื่อนไปสู่จุดหมายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผ่านการให้บริการบีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport เพื่ออำนวยความสะดวกในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ปี 2565 ทั้งนี้ เราขอขอบคุณภาครัฐที่มีมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์ EV ทั้งระบบ (ทั้งในแบบ PHEV และ BEV) รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเลือกใช้รถยนต์พลังงานสะอาด และนำมาใช้ต้อนรับและอำนวยความสะดวกกลุ่มผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมระดับโลกในครั้งนี้”

 

ดร. สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย)  กล่าวเสริมว่า “การมอบประสบการณ์และการให้บริการอันเป็นเอกลักษณ์แก่ลูกค้า นับเป็นหัวใจสำคัญของเรา เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมครั้งสำคัญนี้ผ่านการจัดสรรยานยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport สุดยอดรถผู้บริหารชั้นนำ สำหรับการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ปี 2565 ซึ่งมีแนวคิดการออกแบบที่สอดคล้องกับหัวข้อการประชุม นั่นคือการเดินหน้าสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมส่งเสริมการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport โดดเด่นด้วยการหลอมรวมกลิ่นอายความสปอร์ต รูปลักษณ์ที่สง่างาม และเทคโนโลยีล้ำสมัยแห่งอนาคตเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เรามั่นใจว่าการผสมผสานอย่างลงตัวนี้ของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 จะมอบประสบการณ์การขับขี่อย่างสมบูรณ์แบบให้แก่ผู้แทนจากสมาชิกเอเปค พร้อมส่งเสริมการขับเคลื่อนสู่อนาคตแห่งความยั่งยืนไปอย่างพร้อมเพรียงกัน”

 

บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport กับเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด ที่ได้รับการออกแบบเพื่อมอบสุนทรียภาพแห่งการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน มีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยต่ำเพียง 41 กรัมต่อกิโลเมตร ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบีเอ็มดับเบิลยูในการร่วมผลักดันประเทศไทยไปสู่อนาคตแห่งยนตรกรรมไฟฟ้าที่ปลอดมลพิษอย่างยั่งยืน เสริมความล้ำอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ล่าสุด

อ่านเพิ่มเติม
  • บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป

    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิตมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก 

    ในปี พ.ศ. 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.5 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 194,000 คันทั่วโลก กำไรก่อนหักภาษีในปีงบประมาณ 2564 อยู่ที่ 16.1 พันล้านยูโร จากรายได้รวม 111.2 พันล้านยูโร โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 บีเอ็ม ดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 118,909 คนทั่วโลก

    ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี โดยวางรากฐานความสำคัญสำหรับอนาคตตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม โดยคำนึงถึงความยั่งยืนและการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตั้งแต่กระบวนการการผลิตสินค้าไปยังผู้บริโภค หรือซัพพลายเชนในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย 

    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสี่บริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยูและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตชิ้นส่วนสำหรับการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ณ จังหวัดระยอง 

    ในปี 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 11,032 คัน โดยแบ่งเป็นยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 9,982 คัน และยอดจดทะเบียนรถยนต์มินิ 1,050 คัน ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดรวม 1,197 คัน 

    ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนู แฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู มากกว่า 30 แห่งทั่วโลก 

    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 18 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็มดับเบิลยู X5 บีเอ็มดับเบิลยู X6 และบีเอ็มดับเบิลยูู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 5 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e 
    บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e และบีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive 

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
    1397

    www.bmw.co.th     
    www.mini.co.th     
    www.bmw-motorrad.co.th

    สื่อมวลชนติดต่อ  บริษัท คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
    สุธาทิพย์ บุญแสง (08-7685-1695 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 102)
    ปวริศา ธนวจีรัณ (08-6564-4726 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 125) 
    นวพรรษ ศรีสรินทร์ (08-2654-9447 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 126) 
    จิรวัฒน์ อรรคจันทร์ (09-3636-1241 or 0-2627-3501 ต่อ 101)
    sboonsaeng@carlbyoir.com, pthanawajeran@carlbyoir.com, nseesarin@carlbyoir.com, jakachan@carlbyoir.com