เจาะลึกเบื้องหลังดีไซน์บีเอ็มดับเบิลยู X7 นิยามใหม่แห่งความหรูหราของตระกูล X กับ มร.แมทธิอัส ยุงฮันส์ หัวหน้าทีมดีไซเนอร์
บทความประชาสัมพันธ์ | 2562.04.09

เจาะลึกเบื้องหลังดีไซน์บีเอ็มดับเบิลยู X7 นิยามใหม่แห่งความหรูหราของตระกูล X กับ มร.แมทธิอัส ยุงฮันส์ หัวหน้าทีมดีไซเนอร์

กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย สร้างนิยามใหม่ให้แก่รถยนต์อเนกประสงค์ในเซกเมนต์พรีเมียมด้วยการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X7 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นที่สุดของตระกูล X ในรูปโฉมแปลกใหม่ที่ต่างจากรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์และมิติรถ เส้นสายในการออกแบบและรูปลักษณ์ที่ทรงพลัง ไปจนถึงห้องโดยสารที่มีความหรูหราล้ำสมัยอย่างเหนือชั้น ซึ่งเบื้องหลังของการออกแบบนั้นประกอบด้วยทีมดีไซเนอร์กว่า 700 คนที่ทำงานร่วมกันจาก 3 มุมโลก ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี รวมทั้งดีไซเนอร์จาก DesignWorks ในเมืองลอส แองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยมร.แมทธิอัส ยุงฮันส์ หัวหน้าทีมดีไซเนอร์ ผู้ดูแลและออกแบบบีเอ็มดับเบิลยู X7 ได้มาเยือนไทยพร้อมกับการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X7 เปิดเผยถึงเบื้องลึกในการรังสรรค์ดีเอ็นเอใหม่ให้แก่รถยนต์ตระกูล X ของบีเอ็มดับเบิลยู

อ่านเพิ่มเติม

เอกลักษณ์ที่สำคัญและเป็นพื้นฐานของบีเอ็มดับเบิลยู X7 คือการผสมผสานความหรูหราเหนือระดับของบีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 7 เข้ากับความคล่องตัวของรถบีเอ็มดับเบิลยู SAV ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งหลังจากที่เหล่าดีไซเนอร์ได้รับมอบหมายคอนเซปต์และข้อกำหนดของรถยนต์ หรือที่เรียกว่า “แพ็คเกจ” แล้ว ขั้นต่อไปคือการนำเอาแพ็คเกจนั้น สร้างขึ้นมาให้เป็นรถยนต์ที่สามารถจับต้องและใช้งานได้ โดยยังคงไว้ซึ่งอารมณ์ ความรู้สึก และคาแร็คเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู ขั้นตอนแรกในกระบวนการออกแบบจะเริ่มจากการร่างภาพของตัวรถแบบ 2 มิติตามจินตนาการของดีไซเนอร์ ซึ่งความท้าทายของขั้นตอนนี้คือการแข่งขันระหว่างดีไซเนอร์หลายสิบคนที่ร่วมส่งภาพร่างเข้าประกวด และคัดเลือกจนเหลือเพียง 3 ดีไซน์ที่ผ่านไปยังขั้นตอนต่อไป

 

“ในความคิดของผม ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สนุกที่สุดในการออกแบบ เพราะดีไซเนอร์จะได้ใช้จินตนาการของตนเองอย่างเต็มที่โดยไม่มีข้อจำกัดมากเท่าขั้นตอนต่อ ๆ ไป โดยการเริ่มออกแบบรถนั้น เราจะเริ่มมองจากภาพใหญ่หรือภายนอกของตัวรถ เช่น มิติ ขนาด และตำแหน่งของล้อ ไปยังภาพที่เล็กลง เช่น รายละเอียดของเส้นสายบนตัวถัง หรือรายละเอียดต่าง ๆ ภายในห้องโดยสาร ซึ่ง 3 ดีไซน์สุดท้ายที่ผ่านการคัดเลือกจากหลายสิบดีไซน์ที่ส่งเข้าร่วมประกวดนั้น จะต้องเป็นดีไซน์ที่ตอบโจทย์ของแพ็คเกจมากที่สุด” มร.แมทธิอัสกล่าว

 

หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนของการนำเอาภาพดังกล่าวมาสร้างให้เป็นรูปร่างในอัตราส่วน 1:1 เริ่มจากการใช้เทปแบบพิเศษในการกำหนดโครงสร้างและขนาดของรถในแบบ 2 มิติ แล้วขึ้นรูปรถต้นแบบด้วยโมเดล CAS และวัสดุแบบพิเศษ ผสานกับการใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) เพื่อให้เห็นรูปร่างแบบ 3 มิติในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ซึ่งขั้นตอนนี้จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างดีไซเนอร์และฝ่ายเทคนิคดีไซน์ โดยบอร์ดบริหารจะเป็นผู้ตัดสินดีไซน์สุดท้ายที่ผ่านไปยังการออกแบบในขั้นตอนต่อ ๆ ไป เพื่อให้มั่นใจว่าดีไซน์ที่ออกมานั้นอยู่ในระดับพรีเมียมตรงตามเอกลักษณ์และมาตรฐานของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งกระบวนการในการออกแบบทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นจนเผยโฉมดีไซน์ต้นแบบสู่สาธารณชนจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี

 

มร.แมทธิอัสกล่าวว่า “การออกแบบบีเอ็มดับเบิลยู X7 นั้น ถือเป็นการสร้างนิยามใหม่ให้แก่การดีไซน์ของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งเป็นปรัชญาการดีไซน์ใหม่ที่แสดงถึงโลกสองโลกที่แตกต่างของบีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 7 และบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล X ออกมาผ่านดีไซน์ที่มีเส้นสายเรียบง่ายเฉียบคม แต่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์และความทรงพลัง เห็นได้จากจุดที่โดดเด่นที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู X7 คือกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่และช่องดักอากาศที่มาในลักษณะแนวตั้ง ตัดกับไฟหน้าในดีไซน์เรียวยาว และดีไซน์ด้านข้างของตัวรถที่มีเพียงเส้นเดียวตัดผ่านตัวถังยาวจากหน้ารถไปจนถึงท้ายรถ ประกาศถึงความเรียบง่ายแต่ทรงพลังจากปรัชญาใหม่ในการดีไซน์ของบีเอ็มดับเบิลยู”

 

นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู X7 ยังโดดเด่นในเรื่องของ
การใช้แสงเพื่อมอบความหรูหราสง่างาม ทั้งจากดีไซน์ภายนอกและภายในห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็น
เพดานกระจกใสพาโนรามาแบบ Sky Lounge ที่เปิดได้ 3 ตอน เพิ่มความโปร่งรับแสงธรรมชาติอย่างโอ่อ่าเหนือระดับ ชุดไฟ ambient light เสริมสุนทรียภาพจากแสงไฟถึง 6 สีให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงรายละเอียดของดีไซน์ CraftedClarity มอบความหรูหราจากแสงสะท้อนบนวัสดุตกแต่งผลึกแก้วบริเวณหัวเกียร์ ปุ่ม iDrive ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และปุ่มควบคุมเสียง จึงเรียกได้ว่าความสำคัญของแสง ถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจในการออกแบบบีเอ็มดับเบิลยู X7

 

“ผมภูมิใจเป็นอย่างมากที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมดีไซเนอร์ในการร่วมออกแบบบีเอ็มดับเบิลยู X7 ตั้งแต่เริ่มร่างภาพแรกของรถบนกระดาษ จนถึงตอนนี้ที่เรากำลังจะได้เห็นบีเอ็มดับเบิลยู X7 โลดแล่นบนท้องถนน โจทย์ที่สำคัญของดีไซเนอร์คือการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของรถที่ลงตัวกับระบบการขับเคลื่อนและเทคโนโลยีการขับขี่ต่าง ๆ ในดีไซน์ที่สามารถก้าวข้ามผ่านเวลาและคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณอันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งผมมั่นใจว่าบีเอ็มดับเบิลยู X7 สามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ” มร. แมทธิอัสกล่าว

 

อ่านเพิ่มเติม
เจาะลึกเบื้องหลังดีไซน์บีเอ็มดับเบิลยู X7 นิยามใหม่แห่งความหรูหราของตระกูล X กับ มร.แมทธิอัส ยุงฮันส์ หัวหน้าทีมดีไซเนอร์
เจาะลึกเบื้องหลังดีไซน์บีเอ็มดับเบิลยู X7 นิยามใหม่แห่งความหรูหราของตระกูล X กับ มร.แมทธิอัส ยุงฮันส์ หัวหน้าทีมดีไซเนอร์
เจาะลึกเบื้องหลังดีไซน์บีเอ็มดับเบิลยู X7 นิยามใหม่แห่งความหรูหราของตระกูล X กับ มร.แมทธิอัส ยุงฮันส์ หัวหน้าทีมดีไซเนอร์
เจาะลึกเบื้องหลังดีไซน์บีเอ็มดับเบิลยู X7 นิยามใหม่แห่งความหรูหราของตระกูล X กับ มร.แมทธิอัส ยุงฮันส์ หัวหน้าทีมดีไซเนอร์
เจาะลึกเบื้องหลังดีไซน์บีเอ็มดับเบิลยู X7 นิยามใหม่แห่งความหรูหราของตระกูล X กับ มร.แมทธิอัส ยุงฮันส์ หัวหน้าทีมดีไซเนอร์

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 30 แห่งใน 14 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก

 

ในปี พ.ศ. 2561 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์ 2,490,000 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 165,000 คันทั่วโลก กำไรสุทธิในปีงบประมาณ 2560 ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป อยู่ที่ 10.655 พันล้านยูโร จากรายได้รวมทั้งหมด 98.678 พันล้านยูโร
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 129,932 คนทั่วโลก

 

ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วย สามบริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล

 

ในปี 2561 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สร้างสถิติความสำเร็จเป็นประวัติการณ์ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูได้เป็นสถิติใหม่ที่ 12,036 คัน ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้าถึง 20% และยังนับเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในเครือข่ายของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลกเป็นปีที่สองติดต่อกัน ส่วนยอดการส่งมอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในประเทศไทยก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 122% ขณะที่มินิและ
บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มียอดการส่งมอบรถตลอดปีสูงเป็นสถิติใหม่เช่นกันที่ 1,051 คัน (เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า) และ 2,154 คัน (เพิ่มขึ้น 8%) ตามลำดับ

 

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 30 แห่ง ใน 14 ประเทศทั่วโลก

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 12 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 Gran Turismo บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 และบีเอ็มดับเบิลยู X3 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 750 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR และ บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 XR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 2 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 530e และบีเอ็มดับเบิลยู 740Le

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
1-800-269-269

www.bmw.co.th
www.mini.co.th
www.bmw-motorrad.co.th

 

สื่อมวลชนติดต่อ บริษัท คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
สุธาทิพย์ บุญแสง (08-7685-1695 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 102)
ธรธวัช ทองแนบ (08-3225-4567 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 206)
พิชานัน ทูลกำธรชัย (08-5157-7557 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 101)
นลินุตม์ ศิริสมบัติ (08-6977-7881 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 155)
sboonsaeng@carlbyoir.com, tthongnab@carlbyoir.com, ptoonkamthornchai@carlbyoir.com, nsirisombut@carlbyoir.com
 

อ่านเพิ่มเติม