BMW iX3
Highlight | 2564.12.01

The First-Ever BMW iX3.

การมาถึงของ BMW iX3 อาจจะดูผิวเผินราวกับมันเป็นเพียงอีกรุ่นย่อยนึงของ BMW X3 ที่อยู่กันมาจนถึงโฉม LCI แล้ว แต่นี่คือรถรุ่นที่มีความสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์คันนึงที่น่าจดจำ เพราะมันคือรถอนุกรม X รุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยูที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% และในอดีตของบีเอ็มดับเบิลยูก็ยังไม่เคยมีรถรุ่นไหนที่มีขุมพลังให้เลือกครบทุกรูปแบบในตัวถังเดียวกันมากเท่า BMW X3 รุ่นนี้ ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล ปลั๊กอินไฮบริด และล่าสุดไฟฟ้า 100% กับ BMW iX3

 

รูปลักษณ์ภายนอกมันก็คือ BMW X3 ที่คุ้นเคยกันดี ซึ่งนั่นก็เป็นข้อดีอย่างนึง เพราะรถ EV ที่จะนำมาใช้ในชีวิตประจำวันแทนรถเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบเดิมก็ไม่ควรจะทำให้เจ้าของมันต้องลำบาก หรือดูเป็นอะไรที่หลุดมาจากอีกโลกนึง จุดที่ BMW iX3 แตกต่างก็คือการตกแต่งด้วยขลิบสีฟ้าตามส่วนต่างๆ ของรถ ทั้งรอบโลโก้บนฝากระโปรงหน้า ฝากระโปรงท้าย และดุมล้อ ขอบด้านในของกระจังหน้าไตคู่ ช่อง Air curtains และดิฟฟิวเซอร์ที่กันชนท้าย ซึ่งแฟน BMW ย่อมรู้ดีว่ามันคือสัญลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่บีเอ็มดับเบิลยูเริ่มใช้มาตั้งแต่ BMW i3 และ BMW i8 เปิดตัว

 

บนตัวรถยังมีรายละเอียดแตกต่างอีกในหลากหลายจุด แต่พวกมันทั้งหมดก็ต่างเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ด้านสมรรถนะการขับขี่ทั้งสิ้น กระจังหน้าไตคู่จะมีส่วนตรงกลางที่ปิดสนิทพร้อมดีไซน์ลวดลายแบบ Mesh เพราะว่า BMW iX3 ไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ต้องการอากาศปริมาณมากๆ เข้าไปเผาไหม้ แต่ส่วนล่างของกระจังหน้าไตคู่ยังมีช่องเล็กๆ ที่มีแผ่น Flap ซึ่งควบคุมการเปิดปิดด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 10 ระดับซ่อนไว้ด้านในอย่างแนบเนียน เพื่อใช้ควบคุมปริมาณอากาศที่จะเข้าไประบายความร้อนให้กับอุปกรณ์อย่างเบรกกับระบบขับเคลื่อนเพื่อให้อุปกรณ์ต่างๆ อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะแก่การทำงานตลอดเวลา

 

ส่วนล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว ก็ปรับปรุงให้เบายิ่งกว่าล้ออัลลอยน้ำหนักเบาที่ใช้กับรุ่นอื่นๆ อีก 15% และใช้ดีไซน์แอโรไดนามิกส์เพื่อคุมทิศทางการไหลของอากาศให้เป็นระเบียบควบคู่ไปกับช่อง Air Curtains และ Air Breather ส่วนใต้ท้องรถปิดด้วยแผ่นเรียบที่ขึ้นรูปเข้ากับสรีระของรถ บริเวณล้อหน้าและล้อหลังจะมีครีบจัดระเบียบทิศทางของอากาศเพื่อให้แอโรไดนามิกส์ดีขึ้น โดยเฉพาะแผ่นปิดตรงชุดสตรัทด้านหลังที่ดีไซน์มาเพื่อป้อนอากาศเข้าสู่ดิฟฟิวเซอร์เพื่อให้มันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งหมดทำให้ค่าแรงเสียดทานอากาศของ BMW iX3 ดีขึ้น 5% หรือถ้าคิดเป็นระยะทางก็จะทำให้สามารถวิ่งได้ไกลขึ้นอีกราว 10 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

อ่านเพิ่มเติม
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3

ภายในมีการปรับเปลี่ยนหน้าปัดตามโฉมรุ่น LCI ทั่วโลก ซึ่งจะได้คอนโซลที่ปรับปรุงเหมือนกับ BMW รุ่นใหม่ๆ แล้ว พร้อมกับ BMW Live Cockpit Professional เครื่องเสียง Harman Kardon และระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ Iconic sounds electric แล้วก็ยังประดับด้วยการขลิบสีฟ้าที่ปุ่มสตาร์ทกับคันเกียร์ เพื่อให้เจ้าของและคนนั่งได้รู้ว่านี่เป็น BMW iX3 ที่ขับด้วยพลังไฟฟ้า 100% BMW iX3 ที่จำหน่ายในประเทศไทยยังมีเทคโนโลยีจัดเต็มทั้งช่วงล่าง Adaptive ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ทำงานได้จนถึงจุดหยุดนิ่ง (Stop & Go) ระบบช่วยการขับขี่ Driving Assistant Professional จอ Head-up display รวมถึงระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ Parking Assistance Plus

 

แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่ารูปลักษณ์หน้าตาก็คือเบื้องหลังการพัฒนาของมันทั้งหมด รถ EV ที่มักจะถูกครหามาเสมอว่ามันไม่ได้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้มากมายเท่ากับคำโฆษณา เพราะถึงแม้ตอนวิ่งบนถนนจะไร้มลพิษก็จริง แต่การชาร์จก็ยังต้องพึ่งพากระแสไฟฟ้าที่ผลิตด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลอยู่ดี แถมขั้นตอนการผลิตก็ซับซ้อนกว่าและประกอบไปด้วยห่วงโซ่อุปทานที่ยุ่งเหยิงเป็นใยแมงมุมไปทั่วโลก ฉะนั้นเมื่อนับปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยออกมาตั้งแต่ผลิตจนถึงใช้งานก็เยอะไม่ต่างจากรถเครื่องสันดาปภายใน หรือเผลอๆ จะมากกว่าด้วยซ้ำ

 

เรื่องนี้จึงสำคัญมากสำหรับอนาคตของสิ่งแวดล้อมโลกและ EV บีเอ็มดับเบิลยูจึงเปลี่ยนวิธีการผลิตใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมีน้อยที่สุด การออกแบบไปจนถึงกำหนดสเปกในการผลิตชิ้นส่วนนั้นเกิดขึ้นภายในรั้วของบีเอ็มดับเบิลยูแทบทั้งหมด ทำให้สามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างเข้มงวด เริ่มตั้งแต่ขุมพลัง eDrive Technology เจนเนอเรชันที่ 5 พละกำลัง 286 แรงม้า ที่ออกแบบให้รวมมอเตอร์และเกียร์เข้าด้วยกันเป็นแพคเกจเดียวเพื่อประหยัดพื้นที่และลดน้ำหนักลง มอเตอร์แบบ Current-excited ที่ไม่ต้องใช้แร่หายาก (Rare Earth) ในการผลิต และสามารถปรับจูนการตอบสนองในโหมด Sport, Comfort และ Eco Pro ได้แตกต่างกันชัดเจนมากขึ้น

 

แบตเตอรี่แบบลิเธียมพัฒนาให้มีระดับความจุพลังงานมากขึ้น 20% ในขณะเดียวกันก็ลดการใช้แร่โคบอลต์ลงหนึ่งในสาม แถมยังสามารถปรับขนาดและจำนวนโมดูลให้เหมาะกับรถ EV รุ่นต่างๆ ที่จะตามออกมาในอนาคตได้ด้วย อย่างในกรณีของ BMW iX3 แบตเตอรี่ที่วางอยู่ใต้พื้นรถมีขนาดความจุ 80 kWh (ใช้งานจริง 74 kWh) จะมีเซลล์แบตเตอรี่มากถึง 188 เซลล์ จัดกลุ่มเป็น 10 โมดูล โดยที่แต่ละเซลล์ควบคุมการทำงานอิสระจากกัน ทำให้ได้ระยะทางสูงสุดประมาณ 460 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP

 

เพราะฉะนั้นนอกจากชิ้นส่วนในตัวรถที่ลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมแล้ว พลังงานที่โรงงานใช้สำหรับผลิต BMW iX3 ก็ต้องทำได้ตามวัตถุประสงค์ด้วย BMW iX3 ทุกคันรวมถึงขุมพลัง eDrive ผลิตจากโรงงาน BMW Brilliance Automotive ที่เสิ่นหยางประเทศจีนซึ่งใช้พลังงานทดแทนทั้งหมด ดังนั้นเมื่อนับปริมาณคาร์บอนทั้งหมดที่ปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมตั้งแต่การผลิตไปจนถึงใช้งานกันจริงๆ ก็จะพบว่า BMW iX3 ปล่อย CO2 สู่ชั้นบรรยากาศน้อยกว่า BMW X3 xDrive 20d เครื่องยนต์ดีเซลถึง 30% ในกรณีที่ชาร์จด้วยไฟฟ้าที่มาจากแหล่งปกติ หรือน้อยกว่าถึง 60% ในกรณีที่ชาร์จด้วยแหล่งพลังงานสะอาด

BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3
BMW iX3

มาถึงด้านการชาร์จไฟกันบ้าง BMW iX3 ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Combined Charging Unit (CCU) ที่มาพร้อมกับขุมพลัง eDrive เจนเนอเรชันที่ 5 ซึ่งมีออพชันการชาร์จที่หลากหลายเพื่อลดความกังวลเรื่องระยะทางที่คนใช้รถยนต์ EV ทั่วๆ ไปมักจะพูดถึงกัน โดยสามารถชาร์จได้ทั้งกระแสสลับ (AC) จากปลั๊กไฟบ้านแบบ 1 เฟส ขนาด 2.3 kW ซึ่งจะใช้เวลามากหน่อยประมาณ 40 ชั่วโมง เพราะแบตเตอรี่มีขนาดถึง 80 kWh หรือผ่าน Wallbox แบบไฟ 3 เฟส ขนาด 11 kW ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 30 นาที และแบบกระแสตรง (DC) ขนาด 150 kW เพื่อให้ได้ความจุ 80% ด้วยเวลา 34 นาที ส่วนในเวลาที่แบตเตอรี่ใกล้หมดระหว่างเดินทางก็สามารถแวะชาร์จ DC 10 นาที เพื่อได้ระยะทางเพิ่มขึ้น 100 กิโลเมตร พอให้เดินทางข้ามไปยังเมืองหรือจังหวัดต่อไปได้

 

BMW iX3 จึงนับเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนไปสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า 100% เต็มรูปแบบ มันยังเป็นหนึ่งในรถ EV จำนวน 13 รุ่นตามแผนกลยุทธ์ NUMBER ONE > NEXT ที่บีเอ็มดับเบิลยูประกาศไว้ในปี 2018 อีกด้วย คุณผู้อ่านที่สนใจสามารถเข้าชมคันจริงได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

ขอให้มีความสุขกับ BMW ทุกวันครับ