เครื่องมือจัดการการอนุญาตของคุณให้ใช้คุกกี้ของเรากำลังออฟไลน์ชั่วคราว การทำงานบางอย่างที่ต้องใช้คำยินยอมให้ใช้คุกกี้อาจหายไป
The BMW X5 xDrive45e M Sport และ The BMW X5 xDrive30d M Sport. The Wait is Over.
เชื่อว่าแฟนใบพัดฟ้าขาวที่กำลังมองหารถยนต์ครอบครัว Sports Activity Vehicle (SAV) จะต้องมี BMW X5 เป็นหนึ่งในตัวเลือกอย่างแน่นอน แต่หลายคนอาจจะยังลังเลกับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ในขณะที่ถ้าจะเลือก BMW X5 xDrive30d M Sport เป็นแบบนำเข้าทั้งคัน (CBU) ราคาก็ดูจะสูงเมื่อเทียบกับ BMW X5 xDrive45e M Sport ที่ประกอบในประเทศไทย วันนี้การรอคอยได้สิ้นสุดลงแล้วครับ เพราะทั้ง BMW X5 xDrive45e M Sport และ BMW X5 xDrive30d M Sport นั้นได้ขึ้นไลน์การผลิตที่ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และนั่นก็ทำให้รายหลังมีราคาขายปลีกที่ลดลงถึง 1,000,000 บาท BMW Fascination ฉบับนี้จึงขอพาคุณผู้อ่านไปพบกับ BMW X5 ทั้งสองรุ่นย่อยนี้อีกครั้ง
BMW X5 รุ่นปัจจุบันถือเป็นเจนเนอเรชันที่สี่ของอนุกรม X5 ซึ่งมีขนาดตัวรถใหญ่ขึ้นในทุกมิติ ตั้งแต่ฐานล้อที่ถูกขยายขึ้นเป็น 2,975 มิลลิเมตร ตัวรถเพิ่มความยาวเป็น 4,922 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,004 มิลลิเมตร และความสูง 1,745 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้ BMW X5 ใหม่ดูบึกบึนแต่ปราดเปรียว ในขณะเดียวกันก็โดดเด่นเวลาอยู่ท่ามกลางท้องถนนกว่ารุ่นก่อน รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบโดยเน้นการใช้พื้นผิวที่ดูสะอาดตา (Clean) เพรียวและเฉียบคม (Precise) และแข็งแกร่ง (Robust) โดย BMW X5 xDrive45e M Sport และ BMW X5 xDrive30d M Sport จะมีการตกแต่งและอุปกรณ์ภายนอกที่เหมือนกันแทบจะทุกกระเบียดนิ้ว ตั้งแต่ไฟหน้า Adaptive LED พร้อมฟังก์ชันเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam Assistant) ไฟตัดหมอก LED ชุดแต่ง M Aerodynamics คาลิปเปอร์เบรกดีไซน์ M Sport หลังคากระจก Panorama และราวหลังคาสีดำเงา เรียกว่าถ้าไม่ได้เห็นช่องชาร์จไฟบนแก้มหน้าซ้าย ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว และป้ายชื่อรุ่นย่อยบนฝาท้ายไว้ ก็คงยากที่จะบอกได้จากระยะไกลว่า BMW X5 คันนี้เป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลหรือรุ่นปลั๊กอินไฮบริดกันแน่
เมื่อก้าวเข้ามาสู่ภายในห้องโดยสาร เรื่องราวก็ยังคงเป็นแบบเดิม เพราะ BMW X5 xDrive45e M Sport และ BMW X5 xDrive30d M Sport มีการตกแต่งที่คล้ายคลึงกันมาก และอุปกรณ์ที่คัดสรรใส่มาให้ก็แทบจะเหมือนกันทุกรายการอีกเช่นกัน ทั้งมาตรวัดและหน้าจอ BMW
โดยแผงหน้าปัดและคอนโซลใช้ดีไซน์ในรูปแบบ BMW ในยุคใหม่ พร้อมฟีเจอร์ BMW Live Cockpit Professional มาตรวัดความเร็วเป็นหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถปรับการแสดงข้อมูลได้หลากหลาย และมีมาตรความเร็วกับมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ที่วิ่งกวาดเข้าหากันอยู่บริเวณขอบของเรือนไมล์ทั้งสองฝั่ง ส่วนหน้าจอควบคุมระบบความบันเทิงตรงกลางนั้นก็มีขนาดเท่ากันที่ 12.3 นิ้ว สามารถสั่งงานได้ด้วยปุ่มควบคุม iDrive ที่คอนโซลกลาง การสัมผัสหน้าจอ และการเคลื่อนไหวมือ (Gesture Control) แต่สิ่งที่ทำให้ห้องโดยสารของ BMW X5 xDrive45e เหมาะกับการเดินทางของครอบครัวนั้นก็คือหลังคากระจก Panorama ที่เปิด-ปิดส่วนหน้าได้ด้วยไฟฟ้า ที่ทำให้บรรยากาศดูโปร่งสบายขึ้นเป็นอย่างมาก
ลึกลงไปใต้เปลือกนอกคือที่อยู่ของ DNA ของ BMW X5 อย่างแท้จริง เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบ Parking Assistant Plus ที่นอกจากจะช่วยถอดจอดรถเข้าซองหรือจอดขนานให้อัตโนมัติได้แล้ว ยังมีฟีเจอร์จดจำเส้นทางของรถที่วิ่งผ่านมาในระยะ 50 เมตร (ความเร็วไม่เกิน 36 กิโลเมตร/ชั่วโมง) เพื่อที่รถจะสามารถขับถอยหลังย้อนเส้นทางเดิมกลับมาได้อย่างโดยอัตโนมัติเพิ่มขึ้นมา ซึ่งเป็นการเพิ่มความสะดวกเวลาที่ขับรถเข้าไปเจอทางตันและไม่สามารถกลับรถได้ ตัวระบบยังมาพร้อมกับกล้อง Surround View Camera ที่สามารถนำภาพจากกล้องรอบตัวรถมาต่อกันเป็นมุมมองแบบ Top View หรือภาพรอบตัวรถแบบ Panorama รวมถึงฟีเจอร์ใหม่อย่าง Remote 3D View ที่สามารถเปิดดูภาพจากกล้องรอบคันรถแบบ Live ดูบนสมาร์ทโฟนผ่านการทำงานของระบบ Connected Drive เพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบรถได้ตลอดเวลาอีกด้วย
ภายในห้องโดยสารของ BMW X5 ใหม่ เต็มไปด้วยฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่เช่นเดียวกับภายนอก แผงหน้าปัดใช้ดีไซน์แบบล่าสุดของ BMW โดยการนำปุ่มควบคุมแอร์มาเรียงอยู่เป็นแนวนอนอยู่ใต้ช่องแอร์คู่กลาง และขยับชุดควบคุมเครื่องเสียงที่ปรับปรุงให้ดูเรียบหรูขึ้นลงไปอยู่ด้านล่าง มาตรวัดแบบ BMW Live Cockpit Professional ใหม่ แสดงผลผ่านหน้าจอ 12.3 นิ้ว ระบบ Head-Up display มีพื้นที่ฉายภาพบนกระจกกว้างขึ้นเป็น 7x3.5 นิ้ว และสามารถแสดงกราฟฟิคแบบสามมิติได้ กลางคอนโซลเป็นที่อยู่ของหน้าจอระบบข้อมูลและความบันเทิงขนาด 10.25 นิ้ว ซึ่งควบคุมได้ทั้งจากปุ่ม iDrive การสัมผัสหน้าจอ และการใช้ท่าทางมือ (Gesture Control) หลังคากระจก Panoramic glass roof ที่มีพื้นที่กว้างขึ้นกว่าเดิม 30% พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ M Sport ส่วนเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังเกรดพิเศษ Dakota ในขณะที่ฝาท้ายยังคงเอกลักษณ์จุดเด่นของ BMW X5 ทุกรุ่นที่จะสามารถแยกเปิดส่วนบนกับล่างแยกเป็นสองส่วนได้ พร้อมฟีเจอร์ Comfort Access ให้คุณสามารถเตะเท้าเข้าไปที่ใต้กันชนเพื่อเปิดและปิดฝากระโปรงท้ายได้โดยไม่ต้องหยิบกุญแจรีโมทออกมากด ความจุห้องเก็บสัมภาระขณะยกเบาะตั้งขึ้นตามปกติอยู่ที่ 645 ลิตร แต่สามารถขยายความจุเพิ่มขึ้นได้อีกเกือบสามเท่าตัวหรือ 1,860 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังที่สามารถแยกพับได้ในอัตราส่วน 40:20:40 ลงราบกับพื้นรถทั้งหมด
BMW X5 xDrive30d M Sport จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล BMW TwinPower Turbo 6 สูบแถวเรียง ความจุ 3.0 ลิตร พละกำลัง 265 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 2,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 6.5 วินาที และความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระบบขับเคลื่อน xDrive เจนเนอเรชันล่าสุดที่พัฒนาการถ่ายกำลังระหว่างล้อหน้าและหลังอย่างนุ่มนวลเพื่อแรงขับเคลื่อนและการทรงตัวที่ดีขึ้น พร้อมกับช่วงล่าง Adaptive M Suspension ที่สามารถปรับค่าความหนืดของโช้คอัพได้ผ่านสวิทช์เลือกโหมดการขับขี่ Driving Experience Control ที่อยู่บนคอนโซลกลาง
BMW X5 ใหม่ เปิดตัวในประเทศไทยแล้วในงานมอเตอร์เอกซ์โป 2018 ที่ผ่านมา คุณผู้อ่านที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูม BMW ใกล้บ้าน หรือผ่นทางเวบไซต์ http://www.bmw.co.th
ขอให้มีความสุขกับ BMW ของคุณครับ