The all-new BMW M2 Competition
Highlight | 2562.05.01

The all-new BMW M2 Competition

อัศวินใหม่บนสังเวียนที่คุ้นเคย

 

คำว่า Competition ไม่ใช่อะไรใหม่สำหรับชาวบิมเมอร์ที่แวะเวียนไปเยือน M Town ทุกครั้งที่จิตใจว่างเปล่า และในพจนานุกรมฉบับเอ็มทาวน์สถานก็มีนิยามระบุไว้ว่ามันหมายถึง “รถตระกูล M ที่ดุดัน โหดร้าย หรือเกรี้ยวกราดกว่า M ปกติด้วยการขุนพลังเพิ่ม อัดเทคโนโลยีใหม่จากสนามแข่งลงไป และการอัพเกรดชิ้นส่วน” ลองดู BMW M4 Competition Package เป็นตัวอย่าง มันคือการนำ BMW M4 Coupé รุ่นปกติมาปรับจูนให้ได้แรงม้าเพิ่มขึ้น 19 ตัว ใส่ช่วงล่าง Adaptive M Suspension ล้ออัลลอยขนาด 20” และตกแต่งภายนอกด้วยสีดำ High-gloss จนนักขับทั่วโลกให้การยอมรับ หรือ BMW M5 Competition ที่ปรับแต่งซอฟต์แวร์จนมีแรงม้าเพิ่มขึ้น 24 ตัว ใส่ช่วงล่างที่เตี้ยลง 7 มิลลิเมตร และติดตั้งชุดแต่งตัวถังพิเศษ พล็อตเรื่องยังคงเป็นแบบเดิมกับ BMW M Competition โมเดลอื่นๆ ราวกับสคริปท์ของซิทคอมที่คุณคาดเดาตอนจบได้ตั้งแต่เริ่ม และนั่นก็ควรจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ The all-new BMW M2 Competition เช่นกัน...รึเปล่า?

 

การที่ BMW M2 Competition เป็นรถยนต์รุ่นที่มาทดแทน BMW M2 Coupé รุ่นปกติ ในขณะที่ BMW M Competition รุ่นอื่นๆ เป็นรุ่นย่อยที่ออกมาเสริมทัพหรือเป็นชุด Package ให้เจ้าของรถยนต์ BMW M เลือกซื้อเพิ่มย่อมต้องมีเหตุผลที่คู่ควร และคราวนี้มันคือการเปลี่ยนเครื่องยนต์จาก N55 มาเป็น S55 ซึ่งแค่นี้ก็น่าจะเรียกว่ามันเป็น Competition version ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ BMW M เลยก็ได้ ไม่ใช่ว่าเครื่องยนต์ N55 มีอะไรไม่ดี เพราะ BMW M2 Coupé รุ่นปกติก็ได้รับคำชื่นชมจากสื่อมวลชนและนักขับทั่วโลกมาแล้วนักต่อนัก แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนนึงที่ปักใจไปตั้งแต่วันที่ BMW M3 รุ่นแรกเปิดตัวในปี 1986 ว่า BMW M แท้จะต้องเป็นเครื่องยนต์รหัส S เท่านั้น ดังนั้น BMW จึงส่ง BMW M2 Competition พร้อมเครื่อง S55 ที่ยกมาจาก BMW M3 และ M4 ออกมาแทน BMW M2 Coupé รุ่นปกติเพื่อยุติข้อถกเถียงนั้นเสีย แล้วโลกก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง

 

เครื่องยนต์ S55 ใหม่ ใน BMW M2 Competition มีขนาดความจุ 3.0 ลิตร หกสูบเรียง พร้อมเทอร์โบคู่เทคโนโลยี M TwinPower Turbo ระบบวาล์วแปรผัน VALVETRONIC และระบบปรับองศาแคมชาฟท์ทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย Double-VANOS ให้พละกำลังสูงสุด 410 แรงม้า ระหว่างรอบเครื่องยนต์ 5,250 – 7,000 รอบ/นาที และแรงบิด 550 นิวตันเมตร ตั้งแต่รอบต่ำเพียง 2,350 รอบ/นาที ไปถึง 5,200 รอบ/นาที พละกำลังจึงถูกถ่ายทอดออกมาอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วงตลอดไม่ว่าเครื่องยนต์และเกียร์จะอยู่ที่สภาวะไหน เมื่อประกบกับเกียร์อัตโนมัติ M DCT 7 จังหวะ ทำให้การเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาแค่ 4.2 วินาที พร้อมเสียงขับกล่อมจากท่อไอเสีย M ที่มีแผ่นวาล์วเปิด/ปิดอัตโนมัติดังแน่นอยู่ในโสตประสาท ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ถ้าปลดล็อคด้วย M Driver’s Package (ซึ่งต้องเข้าคอร์สอบรมนักขับ BMW M ที่ให้มาพร้อมกับแพ็คเกจ) ความเร็วสูงสุดก็จะไหลไปได้ถึง 280 กิโลเมตร/ชั่วโมง สูงกว่า BMW M2 Coupé รุ่นปกติอยู่ 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง (และนั่นก็ยังถูกจำกัดไว้อีกด้วย!)

อ่านเพิ่มเติม
The all-new BMW M2 Competition
The all-new BMW M2 Competition
The all-new BMW M2 Competition

ภายนอกของ BMW M2 Competition ได้รับการปรับปรุงให้แตกต่างจาก BMW M2 Coupé รุ่นปกติหลายจุด ด้านหน้าเปลี่ยนมาใช้กระจังหน้าไตคู่รูปทรงใหม่ที่เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียวและมีปลายแหลมพ่นด้วยสีดำเงา High-gloss black ปีกบนช่องดักลมที่ด้านซ้ายและขวาของกันชนหน้าหดขนาดให้กระทัดรัดลงและส่งผลให้พื้นที่รับลมมีขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มแผงรังผึ้งระบายความร้อนที่ช่องดักลมหลักตรงกลาง และปรับดีไซน์กันชนที่อยู่ใต้นั้นให้มีครีบรับอากาศอีกสามชุด ใต้ฝากระโปรงหน้านอกจากจะมีเครื่องยนต์ S55 ใหม่แล้ว ก็มีค้ำโช้คอัพและผนังห้องเครื่องที่ทำจากวัสดุ CFRP ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของตัวถังด้านหน้าเพื่อการตอบสนองที่เฉียบคมมากขึ้น ในขณะที่ด้านข้างประกอบไปด้วยกระจกมองข้าง M การตกแต่งคิ้วกรอบกระจกและชิ้นส่วนต่างๆ BMW Individual High-gloss Shadow Line ล้ออัลลอยฟอร์จน้ำหนักเบาลายเฉพาะรุ่นขนาด 19” ส่วนด้านท้ายมีการปรับเปลี่ยนแอร์แด็มให้มีครีบจัดระเบียบอากาศและใช้ปลายท่อสีดำเงาที่มาพร้อมกับระบบท่อไอเสียชุดใหม่เพื่อความดุดันยิ่งขึ้น

The all-new BMW M2 Competition
The all-new BMW M2 Competition
The all-new BMW M2 Competition

พวงมาลัยของ BMW M2 Competition ปรับปรุงให้มีปุ่ม M1/M2 ที่สามารถเซ็ทค่าต่างๆ ของตัวรถไว้ล่วงหน้าและเรียกใช้ได้อย่างสะดวกแบบเดียวกับที่อยู่ใน BMW M5 รุ่นใหม่ล่าสุด มาตรวัดมีหน้าตาคล้ายแบบเข็มในรถรุ่นเดิม แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าตัวเลขและเข็มที่เห็นเป็นกราฟฟิคที่ทำเลียนแบบเรือนไมล์เดิมได้อย่างแนบเนียน เพราะถูกเปลี่ยนเป็นหน้าจอแบบ Black Panel วงกลมสองวงไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนหน้าปัดและคอนโซลบริเวณช่องแอร์กลางไปจนถึงฝั่งผู้โดยสารมีการปรับดีไซน์ให้ดูเรียบง่ายและน่าสนใจขึ้น พร้อมกับตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์แท้ๆ (ไม่ใช่สติ๊กเกอร์พิมพ์ลาย) และถ้าทั้งหมดนั่นยังไม่สามารถทำให้คุณโดดเด่นกว่า BMW M2 Coupé รุ่นปกติได้มากพอ BMW ก็ผสมเฉดสีตัวถังใหม่ออกมาให้เฉพาะ BMW M2 Competition อีกสองสี ได้แก่ สีเงินเมทัลลิค Hockenheim Silver กับสีส้มเมทัลลิค Sunset Orange ที่เผ็ดร้อนราวกับยืนกัดพริกขี้หนูสวนกลางแดดแจ๋ที่อุณหภูมิ 45 องศาเซลเซียส

BMW M2 Competition มีจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย ราคา 6,299,000 บาท (นำเข้า) พร้อมแพ็คเกจ BSI Standard บริการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร และการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ชาว M ที่มี BMW M2 Coupé เดิมอยู่แล้วอยากอัพเกรด หรือชาวบิมเมอร์ที่กำลังมองหารถ M ป้ายแดงคันแรกในชีวิตสามารถติดต่อขอทดลองขับได้จากโชว์รูม BMW ใกล้บ้านครับ คราวนี้จะได้หมดข้อกล่าวหาว่าไม่ใช่ M แท้ซะที!

 

ขอให้มีความสุขกับ BMW ของคุณทุกวันครับ