เครื่องมือจัดการการอนุญาตของคุณให้ใช้คุกกี้ของเรากำลังออฟไลน์ชั่วคราว การทำงานบางอย่างที่ต้องใช้คำยินยอมให้ใช้คุกกี้อาจหายไป
The New BMW M760Li xDrive. The Flagship of the Flagship.
“V12” ไม่ใช่รหัสที่เราจะพบกันบ่อยนักในยุคไฮบริดและ EV เฟื่องฟูอย่าง ค.ศ. 2019 ดังนั้นเมื่อมันมาปรากฏอยู่บนเสาเก๋งเหนือซุ้มล้อหลัง ฐานคันเกียร์ และสคัพเพลทของรถรุ่นนึง มันจึงเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงไม่ธรรมดาระดับชนชั้นพิเศษ ซึ่งสำหรับยนตรกรรมจากผู้ผลิตชั้นนำแห่งแคว้นบาวาเรียแล้ว มันก็คงจะมีแต่ 7 Series เท่านั้นที่คู่ควร นี่คือ BMW M760Li xDrive เรือธงระดับมงกุฎเพชรฝีเท้าจัดจ้านสำหรับผู้บริหารระดับสูงที่ชีวิตประจำวันเร่งด่วนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หนึ่งเดียวของค่ายที่ยังคงยืนหยัดกับเครื่องยนต์ 12 สูบ และหนึ่งเดียวของอนุกรมหมายเลข 7 ที่ได้รับการเติมตัวอักษรสุดขลัง “M” เอาไว้หน้าชื่อรุ่น เพื่อความเป็นผู้นำของรถยนต์ในเซกเมนต์นี้เอาไว้อย่างภาคภูมิ
นั่นก็ดูจะเหมาะสมแล้วเมื่อดูจากตัวเลขพละกำลังระดับ 610 แรงม้า กับแรงบิดมหากาฬถึง 800 นิวตันเมตร จากเครื่องยนต์ 6.6 ลิตร V12 เทอร์โบ M Performance TwinPower Turbo คู่ใต้ฝากระโปรงของ BMW M760Li xDrive กับสมรรถนะ 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.7 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ล็อคไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง (หรือ 305 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถ้าคุณเลือกซื้อ M Driver’s Package เพิ่ม) โดยในเวอร์ชันปัจจุบันมีการติดตั้งตัวกรองฝุ่นละอองไอเสีย (Gasoline Particle Filter) เพิ่มเข้ามาเพื่อให้ผ่านมาตรฐานมลพิษระดับ Euro 6d-TEMP มันจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 จังหวะ ที่ปรับจูนตามแบบฉบับ M Performance เพื่อให้ทำงานเข้าขากับบุคลิกของเครื่องยนต์ V12 บล็อกนี้โดยเฉพาะ และมีบุคลิกการเปลี่ยนเกียร์ที่สปอร์ตเร้าใจขึ้น พร้อมกับการเชนจ์เกียร์ลงต่ำอย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ ไม่ว่ารอบเครื่องยนต์จะอยู่ที่ตำแหน่งไหน ตัวเกียร์ยังอ่านข้อมูลจากระบบ Navigation มาเพื่อใช้คาดเดาการเปลี่ยนเกียร์ล่วงหน้าอีกด้วย
ช่วงล่างแบบ Executive Drive Pro ของ BMW M760Li xDrive ถูกเซ็ทมาให้เน้นการขับขี่ที่กระฉับกระเฉงแต่ยังคงความนุ่มนวลเอาไว้แบบรถหรู ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ BMW 7 Series มาอย่างยาวนาน โดยเหล็กกันโคลง Active roll stabilization จะทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ BMW xDrive ที่เซ็ทให้ถ่ายพละกำลังไปที่ล้อหลังในอัตราส่วนมากกว่าเล็กน้อย และระบบ Integral Active Steering ที่ขยับองศาล้อหลังให้เลี้ยวตามหรือสวนทางแล้วแต่สถานการณ์ เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตัวรถ ส่วนหน้าที่การหยุดรถเป็นของเบรก M Sport ขนาด 19 นิ้ว กับคาลิปเปอร์สัญลักษณ์ M สีน้ำเงิน ที่ซ่อนอยู่หลังล้อ M light-alloy ขนาด 20 นิ้ว สีเทาด้าน Cerium Gray
ภายในห้องโดยสารนอกจากการเพิ่มกระจกหน้าต่างลามิเนต Acoustic Glass เข้ามาในประตูคู่หลังและเพิ่มความหนาของกระจกทุกบานขึ้นเป็น 5.1 มิลลิเมตร และการบุวัสดุซับเสียงในซุ้มล้อหลังและเสาเก๋งกึ่งกลางรถเพิ่มเติม ไปจนถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างการหุ้มช่องปล่อยสายเข็มขัดนิรภัยบนเบาะคู่หลังเพื่อความเงียบสงบที่สุดของห้องโดยสารแล้ว มาตรวัดก็ถูกปรับปรุงมาเป็นแบบ BMW Live Cockpit Professional บนหน้าจอขนาด 12.3” พร้อมระบบนำทาง Navigation ด้วย ส่วนหน้าจอควบคุมกลางขนาด 10.25 นิ้ว ก็ได้รับการอัพเดทมาใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุด BMW OS 7.0 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ฟังก์ชันระบบช่วยเหลือการขับขี่ก็มีติดตั้งมาให้เท่าเทียมกับ BMW 7 Series รุ่นย่อยอื่นๆ ทั้งระบบ Driving Assistant Plus ที่รวมฟีเจอร์การเบี่ยงพวงมาลัยให้รถกลับมาอยู่ในเลนและหลีกเลี่ยงการปะทะด้านข้าง (Lane keeping assistant with active side collision protection), การบังคับรถให้วิ่งอยู่ในช่องทาง (Steering and lane control assistant) และการป้องกันการชนด้านหลังพร้อมเสียงเตือนเวลารถวิ่งตัดผ่านด้านหลัง (Rear collision prevention and Crossing traffic warning) ไปจนถึงระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Active Cruise Control with Stop&Go function ที่สามารถปรับระดับความเร็วที่ตั้งไว้ไปตาม Speed limit ในแต่ละโซนได้เอง
ดีไซน์ภายนอกของ BMW M760Li xDrive ใหม่คงเป็นอีกจุดที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้ การออกแบบในภาพรวมถูกปรับเปลี่ยนมาเป็น Design language ของ BMW รุ่นเรือธงในยุค 2019 ซึ่งโดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 40% และโลโก้ BMW บนฝากระโปรงหน้าขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อสร้างภาพลักษณ์ความหรูหรา ในขณะที่ไฟหน้า Adaptive LED มาตรฐานถูกบีบขนาดให้แบนลงเพื่อให้รถมีความปราดเปรียวมากขึ้น ความพิเศษของ BMW M760Li xDrive อยู่ที่กระจังหน้าไตคู่ที่เป็นสีเทา Cerium Grey แทนการชุบโครเมียมมันวาว สอดรับกับช่องระบายลม Air Breather ด้านข้างที่ตกแต่งด้วยโลหะสีเทา Cerium Grey พร้อมกับปรับดีไซน์มาเป็นแนวตั้งฉากกับคิ้วบนชายล่างของตัวรถ เพื่อสื่อถึงความแม่นยำ ชัดเจน และหนักแน่นของตัวรถยิ่งขึ้นกว่าดีไซน์แบบเอียงไปด้านหน้าของ BMW 7 Series รุ่นก่อน
ด้านท้ายมีโคมไฟที่ถูกปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้เล็กลงราว 35 มิลลิเมตร และเปลี่ยนมาใช้โทนสีแดง-ดำเหมือนกับ BMW ยุคใหม่ที่ออกมาก่อนหน้านี้ทั้ง BMW X5 และ BMW 3 Series พร้อมกับเพิ่มแถบไฟที่ใต้คิ้วสี Cerium Grey คาดฝากระโปรงท้าย ซึ่งทำงานพร้อมกับ Daytime Running Light เพื่อความโดดเด่นและหรูหรามากขึ้นด้วย ปิดท้ายด้วยกันชนท้ายแบบ M Sport ที่รวมปลายท่อไอเสียทั้งสี่ท่อเข้าไปเป็นส่วนนึงของดีไซน์กันชนและล้อมกรอบด้วยโลหะสี Cerium Grey ขนาดใหญ่ และถ้าทั้งหมดที่ว่านี้ยังหรูไม่พอ BMW ก็เปิดออพชันให้สั่งชุดแต่งแพ็คเกจ Pure Excellence เพิ่มเติมได้อีกด้วย
มันไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะพัฒนารถที่ดีที่สุดให้ดีขึ้นไปกว่าเดิม แต่ BMW ก็พิสูจน์แล้วว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เกินความทุ่มเทของมนุษย์ BMW M760Li xDrive จึงเป็นรถที่มีความสำคัญทั้งในด้านความสำเร็จของเหล่าวิศวกร การสืบสานถ้อยเสียงอันไพเราะของเครื่องยนต์ V12 ที่ราวกับเป็นมรดกล้ำค่าแห่งวงการรถยนต์ และการเป็นตัวแทนที่น่าภาคภูมิใจของทุกภาคส่วนใน BMW ตั้งแต่แผนกรถหรูไปจนถึงแผนกรถแรงอย่าง M “V12” อาจจะไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยนักในปี ค.ศ. 2019 แต่คุณสบายใจได้แล้วว่า มันได้ไปอยู่ในรถรุ่นที่คู่ควรและเหมาะสมที่สุดแล้ว
ขอให้มีความสุขกับ BMW ทุกวันครับ