เครื่องมือจัดการการอนุญาตของคุณให้ใช้คุกกี้ของเรากำลังออฟไลน์ชั่วคราว การทำงานบางอย่างที่ต้องใช้คำยินยอมให้ใช้คุกกี้อาจหายไป
The BMW 3 Series Gran Turismo M Sport. ความเป็นที่สุดแห่งบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 แกรนทัวริสโม
มันไม่ใช่ความลับอีกต่อไปว่าในวันที่ BMW 3 Series โฉมใหม่เดินทางมาถึง มันจะไม่มีตัวถังประเภทแกรนทัวริสโมหรือ GT ให้เลือกอีกต่อไปแล้ว และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังคงชั่งใจอยู่มาจนถึงตอนนี้ว่า คุณควรจะซื้อรถรุ่นนี้มาจอดไว้ในโรงรถที่บ้านให้ลูกเล็กและภรรยาหรือผู้หลักผู้ใหญ่นั่งเหยียดขาสบายๆ ในเวลาเดินทางไกลหรือไม่ นี่ก็อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายของคุณ แล้ว BMW 3 Series Gran Turismo M Sport รุ่นย่อยใหม่ล่าสุดที่ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย กำลังจำหน่ายอยู่ตอนนี้ก็เป็นรุ่นที่ดีที่สุดของอนุกรม ซีรีส์ 3 แกรนทัวริสโม ด้วย
เหตุผลที่มันเป็นรุ่นที่ดีที่สุดนั้นเริ่มกันที่ชื่อรุ่นย่อย ‘M Sport’ ซึ่งหมายความว่ารถจะมาพร้อมชิ้นส่วนตัวถังทั้งกันชนหน้า สเกิร์ตด้านข้าง และกันชนหลังแบบ M Sport ที่ช่วยเพิ่มความสปอร์ตหรูหรา ล้ออัลลอย M Design ขนาด 18 นิ้ว และช่วงล่าง M Sport ที่กดความสูงของตัวรถให้ต่ำลงจากรุ่นย่อยอื่นๆ อีก 10 มิลลิเมตร ที่ทำให้สัดส่วนตัวรถดูปราดเปรียวยิ่งขึ้นกว่าเดิม คุณผู้อ่าน BMW Fascination ย่อมทราบดีว่า ทั้งหมดนั่นเปรียบเสมือนกับการปลุกจิตวิญญาณของคำว่า ‘Gran Turismo’ ให้ลุกขึ้นมามีชีวิตอีกครั้ง เพราะอย่างน้อยมันก็คือ BMW 3 Series Gran Turismo ที่มีทรวดทรงสปอร์ตที่สุด สอดคล้องกับการที่รถยนต์รุ่นนี้ใช้ประตูแบบกระจกหน้าต่างไร้กรอบ สปอยเลอร์หลังที่ยกตัวขึ้นเองเมื่อความเร็วแตะ 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง และนิยามของคำว่า Gran Turismo ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17
รูปลักษณ์ภายนอกของ BMW 3 Series Gran Turismo M Sport เป็นการสืบสานเจตนารมย์จากรุ่นพี่ BMW 5 Series Gran Turismo ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้รหัส ‘GT’ ต่อท้ายรุ่นแรกที่ BMW ทำตลาด ดีไซน์ตัวรถที่ดูแปลกตาในตอนออกใหม่และไม่มีคู่แข่งเปรียบเทียบจนถึงตอนนี้เริ่มที่จะค่อยๆ กลมกล่อมกับสายตามากขึ้นด้วยความช่วยเหลือของกาลเวลา นี่คือรถยนต์อีกรุ่นนึงของ BMW ที่แสดงออกถึงความกล้าหาญในการออกแบบด้วยดีไซน์ที่ล้ำไปเกินกว่ายุคสมัยของมัน แต่กลับดูสวยงามขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออายุที่อยู่ในตลาดเพิ่มขึ้น และนั่นก็เป็นเหตุผลนึงที่เราคิดว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการเป็นเจ้าของ BMW 3 Series Gran Turismo M Sport รุ่นนี้
เมื่อก้าวเข้ามาภายในคุณจะพบกับห้องโดยสารที่มีบรรยากาศรื่นรมย์ที่สุดของอนุกรม BMW 3 Series และการที่ได้พบเห็นพวงมาลัย M Sport พร้อมแพดเดิลชิฟท์รอต้อนรับคุณอยู่ พร้อมเบาะคู่หน้าแบบสปอร์ตที่สามารถปรับปีกเบาะเพื่อการโอบรั้งลำตัว แผ่นสคัพเพลท M Sport บริเวณธรณีประตู และแป้นเหยียบกับที่พักเท้า M Sport มันก็ช่วยทำให้ประสบการณ์โดยสารรถรุ่นนี้ดูจะอิ่มเอมขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ การใช้บานประตูกระจกไร้กรอบก็ทำให้แสงสาดเข้ามาในห้องโดยสารได้สว่างไสวและให้ความรู้สึกโปร่งสบาย ส่วนผู้โดยสารตอนหลังเดินทางได้อย่างผ่อนคลายกว่าเดิมจากการดีไซน์ส่วนลาดของหลังคาให้ต่อเนื่องเป็นชิ้นเดียวกับฝาท้ายแบบแฮทช์แบค ซึ่งเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะได้ 79 มิลลิเมตร ในขณะที่พื้นที่วางขาได้อานิสงส์จากการยืดระยะฐานล้อให้ยาวกว่า BMW 3 Series ตัวถังซีดานอีก 200 มิลลิเมตร และยังทำให้ความจุห้องเก็บสัมภาระขายขึ้นเป็น 520 ลิตร โดยที่ไม่ต้องพับพนักพิงเบาะหลังลง (BMW 3 Series ซีดานมีความจุ 480 ลิตร) ส่วนตัวพนักพิงเบาะหลังนอกจากจะมีหมอนรองศีรษะเต็มรูปแบบกับเข็มขัดนิรภัยสามจุดให้ทั้งสามตำแหน่งแล้ว ยังสามารถปรับเอนได้ 15 ระดับ ตั้งแต่ 8-27 องศา เพิ่มทั้งความสะดวกสบายและอรรถประโยชน์ใช้สอยสูงสุด
BMW 3 Series Gran Turismo M Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล TwinPower Turbo ขนาด 2.0 ลิตร พละกำลัง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,250 รอบ/นาที ประกบเข้ากับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ให้อัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 7.7 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 226 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมกับอัตราสิ้นเปลืองสูงสุด 27 กิโลเมตร/ลิตร (ตัวเลขจากการทดสอบในสภาวะที่ถูกควบคุม)
ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่คุณได้กลับมาจากรถคันนี้จึงเป็นรถยนต์ขนาดพรีเมียมคอมแพกต์ที่ขับได้อย่างกระฉับกระเฉงไม่แพ้ BMW 3 Series ตัวถังซีดาน มีเครื่องยนต์ที่สร้างอัตราเร่งได้อย่างสนุกสนาน มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำที่พาคุณเดินทางได้เฉียด 1,000 กิโลเมตร ต่อการเติมน้ำมันหนึ่งครั้ง แต่มีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางขึ้นพอกับการใส่คาร์ซีทของลูกน้อยได้อย่างไม่อึดอัด หรือพาผู้ใหญ่ในครอบครัวนั่งหลังแล้วปรับเบาะเอนเพื่อเดินทางไกลได้อย่างเพลิดเพลินในราคา 2.999 ล้านบาท (ราคาพร้อมแพคเกจ BSI Standard บริการบำรุงรักษาฟรี 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน) และการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
แล้วคุณจะรออะไรอยู่เล่า?
ขอให้มีความสุขกับ BMW ของคุณทุกวันครับ