เครื่องมือจัดการการอนุญาตของคุณให้ใช้คุกกี้ของเรากำลังออฟไลน์ชั่วคราว การทำงานบางอย่างที่ต้องใช้คำยินยอมให้ใช้คุกกี้อาจหายไป
ถ้าคุณมีครอบครัวและหลงใหลกับสมรรถนะของ BMW 3 Series Sedan นี่คือรถที่เหมาะกับคุณ
ในปี 1985 ณ แผนกวิศวกรรมของ BMW สำนักงานใหญ่มิวนิค Max Reisböck วิศวกรผู้สร้างรถโปรโตไทพ์ BMW ซีรีส์ 3 เจนเนอเรชันที่สอง (E30) รู้สึกอึดอัดมากทุกครั้งกับการที่เขาต้องเดินทางพร้อมภรรยาหนึ่ง ลูกสอง รถเข็น ของใช้เด็ก และสัมภาระกองขนาดเท่าบ้าน ไปไหนมาไหนด้วย BMW ซีรีส์ 3 ซีดาน เขาลองเช็คดูว่าฝ่ายบริหารมีแผนที่จะทำ BMW ซีรีส์ 3 รุ่นตัวถัง Wagon ออกมาบ้างไหม แต่คำตอบที่ได้ก็คือไม่ วันนึง Max ก็ทนไม่ได้อีกต่อไปและตัดสินใจขับรถไปที่บ้านเพื่อนของเขา แต่ไม่ใช่เพื่อไปตั้งวงจิบเบียร์แก้เซ็งอะไรแบบนั้น เขาไปที่นั่นเพื่อเจรจาขอยืมโรงรถสัก 6 เดือน เอาไว้สร้าง BMW ซีรีส์ 3 Wagon ขึ้นมาเองต่างหาก เพื่อแก้ปัญหา!
ความมหัศจรรย์ของเรื่องนี้คือ Max ไม่ได้แค่สร้างความสะดวกสบายให้กับภรรยาและลูกๆ กับเสถียรภาพให้ตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวของตัวเองเท่านั้น แต่กลับให้กำเนิดตัวถังแบบใหม่แก่ BMW ซีรีส์ 3 ที่สืบทอดต่อกันมาจนอีกหลายทศวรรษให้หลัง เขานำผลงานชิ้นโบว์แดงนี้ไปอวดเพื่อนๆ ที่ทำงาน รวมถึงบอร์ดของ BMW AG ซึ่งขอซื้อ BMW 323i Wagon ของ Max เอาไว้เป็นกรณีศึกษาในทันที สามปีต่อมา BMW ก็เปิดตัว BMW ซีรีส์ 3 แบบ Wagon รุ่นแรก โดยทำการตลาดอย่างเป็นทางการในชื่อต่อท้ายว่า “Touring” ตลอดระยะเวลาห้าเจนเนอเรชันนั้น BMW ซีรีส์ 3 Touring ทำยอดขายทั่วโลกไปได้กว่า 1.7 ล้านคัน
ตอนนี้มันจึงถึงเวลาแล้วที่ BMW 330i M Sport Touring เจนเนอเรชันที่หกจะมารับหน้าที่ต่อจากรุ่นก่อน มันใช้อัตลักษณ์ดีไซน์ภายนอกเหมือนกับ BMW ซีรีส์ 3 Sedan รุ่นปัจจุบัน เริ่มจากกระจังหน้าขนาดใหญ่ ไฟหน้า Full LED ทรงเรียวแหลมที่มีรอยหยักคั่นระหว่างโคมไฟสูงกับไฟต่ำ บังโคลนหน้าผายกว้างที่ช่วยเน้นความทรงพลังของรถ เส้นสายด้านข้างมีแนวหลังคาและขอบหน้าต่าง Hofmeister Kink ที่สื่อสารความเป็น BMW Touring ได้อย่างชัดเจน ส่วนด้านท้ายมีความลงตัวด้วยดีไซน์สปอยเลอร์ในตัว ไฟท้าย LED รูปตัว L เอกลักษณ์ใหม่ประจำ BMW แห่งยุคนี้ และปลายท่อไอเสียแต่ละฝั่งของตัวรถ
ส่วนภายในห้องโดยสารนั้นได้รับการดีไซน์ใหม่หมดด้วยภาษาออกแบบใหม่เช่นกัน พื้นที่ช่วงไหล่ เหนือศีรษะ และที่วางเท้ามีขนาดใหญ่ขึ้นจากรุ่นก่อนในทุกตำแหน่งที่นั่ง โดยเฉพาะผู้โดยสารด้านหลังที่จะสามารถขึ้นหรือลงรถได้สะดวกขึ้น แผงหน้าปัดใหม่กับชุดคอนโซลกลางยกตัวสูงสร้างความรู้สึกโอบกระชับและเพิ่มความมั่นใจเวลาขับ ท้ายรถสามารถจุสัมภาระได้เพิ่มขึ้นเป็น 500 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังแบบ 40:20:40 ลงก็จะขยายเป็น 1,510 ลิตร พร้อมช่องเก็บแผ่นบังตาและตาข่ายกั้นสัมภาระไว้ใต้พื้นห้องเก็บของเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ฝาท้าย Automatic tailgate มาพร้อมฟีเจอร์การเตะเท้าเข้าไปใต้กันชนเพื่อเปิดและปิด และยังสามารถแยกเปิดเฉพาะบานกระจกเวลาตามเอกลักษณ์ของ BMW Touring และ SAV มาตั้งแต่อดีตกาล มันเป็นฟีเจอร์ที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้ แต่ทำให้การหยิบหรือวางของชิ้นเล็กสะดวกสบายกว่าการเปิดฝาท้ายทั้งบานอย่างสุดๆ
ด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ นั้นก็มีให้มาครบครันเช่นเดียวกับ BMW 330i M Sport Sedan ที่เปิดตัวไปแล้วทุกประการ ชุดมาตรวัดเป็นแบบ BMW Live Cockpit Professional ซึ่งประกอบไปด้วยหน้าจอควบคุมกลางทัชสกรีนขนาด 10.25 นิ้ว และเรือนไมล์ดิจิตอล BMW OS 7.0 ขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับการแสดงผลเป็นภาษาไทยได้ ระบบ BMW ConnectedDrive ช่วยแสดงข้อมูลการจราจรเรียลไทม์ บริการผู้ช่วยส่วนตัว และปุ่มโทรออกฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ เครื่องเสียง Harman Kardon ระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติพร้อมกล้องมองหลัง และระบบช่วยถอยรถย้อนกลับเส้นทางเดิมในระยะสูงสุด 50 เมตร
สิ่งที่น่าจะถูกใจพ่อบ้านมากที่สุดก็คือเครื่องยนต์เบนซินสี่สูบ BMW TwinPower Turbo ความจุ 2.0 ลิตร ที่เชื่อมต่อเข้ากับเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 จังหวะ สร้างพละกำลังสูงสุด 258 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 5.9 วินาที และความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้เพื่อความปลอดภัยที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ช็อคอัพมาตรฐานพร้อมเทคโนโลยี “Lift-related” แปรผันความหนืดไปตามการยุบหรือยืดตัวของสปริง ช่วยลดอาการโคลงของตัวถังแต่ซึมซับผิวขรุขระบนถนนให้เรียบเนียนมากขึ้นกว่าเดิม สร้างความสมดุลระหว่างการขับแบบสปอร์ต ความนุ่มนวล และความสุขในทุกตำแหน่งที่นั่ง ช่วงล่างแบบ M Sport จะกดความสูงลงจากช่วงล่างแบบมาตรฐานอีก 10 มิลลิเมตร ปิดท้ายด้วยเบรก M Sport คาลิปเปอร์หน้าแบบสี่ลูกสูบพ่นสีน้ำเงินและตราสัญลักษณ์ M เพื่อการปรามม้าทั้ง 258 ตัว ให้หยุดนิ่งได้อย่างมั่นใจ
นานมาแล้วที่พ่อบ้านผู้รักครอบครัวและ Ultimate Driving Machine พอๆ กัน ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากการหันไปหา SAV และ SAC ของค่าย ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรถ้าหากคุณยอมรับกับขนาดตัวรถเหล่านั้นได้ และความสปอร์ตที่ถูกลดทอนลงไปจากรถซีดานอีกเล็กน้อย แต่การพกพาระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและช่วงล่างยกสูงไปได้ทุกหนทุกแห่งก็ดูเป็นเรื่องเกินจำเป็นอยู่บ้างสำหรับชีวิตคนเมืองที่วิ่งบนถนนคอนกรีตเกิน 90% BMW 330i M Sport Touring ไม่มีปัญหาเหล่านั้น มันคือรถที่ซ่าได้แบบ BMW 330i Sport Sedan และบรรจุสัมภาระได้ไม่ต่างจาก SAV นี่จึงเป็นรถยนต์ครอบครัวขนานแท้ที่ควรเป็นและพ่อบ้านทุกคนควรมี
ขอให้มีความสุขกับ BMW ทุกวันครับ