มีสำนวนนึงในภาษาอังกฤษชิ้นนึงซึ่งบอกเอาไว้ว่า “Devil is in the details” หรือ “ความร้ายกาจนั้นซ่อนอยู่ในรายละเอียด” ซึ่งอธิบาย BMW M2 Coupé ได้เป็นอย่างดี สิ่งที่ทำให้รถคันนี้ครองใจนักทดสอบไปทั่วโลกนั้น ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ยกมาจากอวกาศนอกโลก แต่เป็นความพิถีพิถันในรายละเอียดและการคัดสรรชิ้นส่วนแต่ละจุดจนได้ออกมาเป็นส่วนผสมที่ลงตัวที่สุดและให้ผลลัพธ์ที่เป็นเลิศ เครื่องยนต์ของ BMW M2 Coupé ถูกปรับปรุงสมรรถนะโดยการนำชิ้นส่วนสมรรถนะสูง เช่น ลูกสูบ แหวน กระบอกสูบ และประกับแครงก์ชาฟท์จาก BMW M3 และ BMW M4 มาใช้ ทำให้มันสามารถเร่งเข้าหาขีดแดงที่ 6,500 รอบต่อนาที ได้อย่างกระตือรือร้น ช่วงล่างชุดแพด้านหน้า รวมถึงอาร์ม คอม้า ซับเฟรม และเพลทเพิ่มความแข็งแรงของจุดยึดสปริงและโช้คอัพ ไล่ไปจนถึงชุดแพช่วงล่างด้านหลัง ก็ยกมาจาก BMW M3 และ BMW M4 เช่นกัน ซึ่งทำมาจากวัสดุอลูมิเนียมที่น้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง โดยชุดแพหน้าเพียงจุดเดียวก็สามารถลดน้ำหนักลงไปจากปกติได้ถึง 5 กิโลกรัมแล้ว นี่ยังไม่นับรวมมาตรการลดน้ำหนักที่มีให้เห็นทั่วทั้งคันรถเลยด้วยซ้ำ

นอกจากเครื่องเคราทั้งหลายแล้ว ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีปรากฎอยู่ใน BMW M รุ่นอื่นๆ ก็ถูกถ่ายทอดมาอยู่ใน BMW M2 Coupé อีกมากมาย เช่น เกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 จังหวะ M DCT with Drive Logic, ฟีเจอร์ Launch Control, M Dynamic Mode (MDM) ที่ยอมปล่อยให้ล้อสามารถหมุนฟรีได้เล็กน้อยก่อนสั่งการให้ DSC ทำงาน เพื่อการควบคุมรถที่คล่องแคล่วและพลิ้วไหวมากขึ้น, ชุดเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป Active M Differential, พวงมาลัย M Servotronic, และชุดเบรก M compound brake ที่มาพร้อมคาลิปเปอร์สีน้ำเงินเมทัลลิคติดสัญลักษณ์ M ทั้งหมดทำให้ BMW M2 Coupé มีอัตราเร่ง 0-100กม./ชม. อยู่ที่ประมาณ 4.3 วินาที และความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. หรือ 270 กม./ชม. เมื่อสั่งแพคเกจ M Driver เพิ่มเติมเป็นการพิเศษ

รูปลักษณ์ภายนอกของ BMW M2 Coupé มีความโดดเด่นและแตกต่างจาก BMW 2 Series Coupé อย่างเห็นได้ชัด เริ่มกันจากกันชนหน้าทรงฉลามที่มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ถึงสามช่อง ไฟหน้าแบบ Full LED กระจังหน้าไตคู่ก้านแนวตั้งคู่เอกลักษณ์ประจำ BMW M โลโก้ M2 บนกระจังหน้า ฝากระโปรงที่มีความโค้งนูนมากกว่ารถรุ่นมาตรฐาน ด้านข้างสะดุดตากับครีบระบายอากาศบนแก้มหน้า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำ BMW M อีกจุด โป่งล้อหน้าและหลังขยายขนาดพิเศษเพื่อรองรับล้ออลูมิเนียมฟอร์จลายก้านคู่รหัส 437 M ขนาด 19” กับชุดเบรก M Compound Brake ในขณะที่ด้านท้ายจะมีสปอยเลอร์ Ducktail ชิ้นเล็กติดอยู่ที่ปลายฝากระโปรง ปลายท่อไอเสียจำนวนสี่ท่อแสดงออกถึงความดุดัน และป้ายโลโก้ M2 เพื่อบอกกล่าวถึงพิษสงอันร้ายกาจของรถรุ่นนี้

ภายในห้องโดยสารให้ความรู้สึกสปอร์ตเต็มพิกัดตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวขึ้นมานั่ง คุณจะถูกต้อนรับด้วยกาบบันไดสแตนเลสพร้อมตราสัญลักษณ์ M, เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มหนัง Dakota ที่ประทับตรา M ไว้บนพนักพิงและเดินตะเข็บด้วยด้ายสีฟ้า, เข็มขัดนิรภัยคาดแถบสามสีประจำแผนก M อยู่ที่ขอบด้านนึง, พวงมาลัยสปอร์ต M เดินด้าย M สามสี พร้อมก้านแพดเดิลชิฟท์ที่แตกต่างจากพวงมาลัยของ BMW ในรุ่นย่อย M Sport ทั่วไป, หัวเกียร์ M DCT, แผงหน้าปัดประดับตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์แท้ๆ รวมถึงชุดลำโพง Harman Kardon ที่เราคิดว่าคุณคงไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้การ เพราะน่าจะอยากฟังเสียงที่พวยพ่นออกมาจากปลายท่อไอเสียทั้งสี่ที่ท้ายรถได้อย่างมีอรรถรสและเร้าใจซะมากกว่า ปิดท้ายด้วยซันรูฟบนหลังคาเพื่อเพิ่มความสุนทรีย์

มาถึงตรงนี้คงจะได้ข้อสรุปแล้วว่า BMW M2 Coupé เป็นรถที่มีสายเลือด BMW M แท้ๆ อยู่อย่างเข้มข้น นี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกวันนี้มันกลายเป็น BMW M อีกหนึ่งรุ่นที่ครองใจนักทดสอบและเจ้าของรถไปทั่วโลก บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เพิ่งจะนำ BMW M2 Coupé LCI รุ่นปรับโฉมมาเปิดตัวกันไปในงานมอเตอร์เอกซ์โปที่ผ่านมา และถ้าคุณผู้อ่านสนใจชมหรือทดลองขับก็สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่าย BMW ที่สะดวกได้ตามวันและเวลาทำการ สุดท้ายนี้เราขอแนะนำว่าหากคุณกำลังมองหารถยนต์สักคันที่สามารถรวมกับคนขับเป็นหนึ่งได้ในทันที ขับสนุกและเชื่องมือ สมรรถนะดุดัน และมีความแรงใกล้เคียงซูเปอร์คาร์ แต่ยังสามารถนั่งได้สี่คนและบรรทุกกระเป๋าเดินทางไปออกทริปได้ BMW M2 Coupé คือหนึ่งในรถที่คุณควรต้องทดลองขับก่อนตัดสินใจ

ขอให้มีความสุขกับ BMW ของคุณทุกวันครับ