THE BMW M4 DTM CHAMPION EDITION.
Highlight | 2560.09.11

THE BMW M4 DTM CHAMPION EDITION.

รถยนต์รุ่นพิเศษจาก BMW M เพื่อฉลองแชมป์สมัยที่สองของ Marco Wittmann ในการแข่งรถยนต์ทัวร์ริ่งคาร์ DTM ที่ทั่วโลกจับตามอง ผลิตจำนวนจำกัดแค่ 200 คัน มันอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่ส่งตรงจากสนามแข่งถึงมือคุณด้วยสมรรถนะแบบที่ไม่มีการประนีประนอม และที่สำคัญมันมีพละกำลังมากกว่ารถแข่ง BMW M4 DTM คันจริงแห่งฤดูกาล 2016 ที่พา Marco Wittman และ BMW ขึ้นสู่โพเดียมเสียอีก!

ตุลาคม 2016 ถ้วยแชมป์การแข่งขัน DTM ในมือ Marco Wittmann ถูกชูสูงขึ้นท่ามกลางเสียงเชียร์จากแฟนๆ และทีมงาน BMW Motorsport กลางสนาม Hockenheimring ประเทศเยอรมนี ด้วยนัยความหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเพียงขนาดของถ้วยรางวัลแก้วใบมหึมานั่น แน่นอนว่านี่คือแชมป์ DTM ครั้งที่สองของเขา แต่มันยังทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นนักขับคนแรกของ BMW ที่ชนะการแข่ง DTM มากกว่าหนึ่งครั้ง และยังทำให้ BMW มีอันดับบนโพเดียมทุกปีนับตั้งแต่ที่ BMW กลับเข้าสู่วงการในปี 2012 เพื่อเฉลิมฉลองและเป็นเกียรติให้กับความสำเร็จในครั้งนี้ BMW M จึงปล่อยรถรุ่นพิเศษที่มีชื่อว่า BMW M4 DTM Champion Edition ออกมาในเดือนตุลาคมปีเดียวกันนั้นเลย

อ่านเพิ่มเติม


BMW M4 DTM Champion Edition ได้รับการยกระดับสมรรถนะให้สูงขึ้นไปอีกขึ้น มันมีพละกำลัง 500 แรงม้า ซึ่งสูงกว่า BMW M4 รุ่นมาตรฐานอยู่ 69 แรงม้า (และมากกว่ารถแข่ง BMW M4 DTM ปี 2016 ของ Marco Wittmann ที่ประเมินไว้ราว 480 แรงม้า เสียอีก!) นั่นจึงส่งผลให้ตัวเลขสมรรถนะต่างๆ ดูน่าประทับใจเป็นพิเศษไปด้วย อย่างอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่สามารถทำได้ภายในเวลา 3.8 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดที่ถูกระบบอิเลกทรอนิกส์ควบคุมไว้ก็สูงถึง 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

สมรรถนะดังกล่าวได้มาจากเครื่องยนต์หกสูบเรียงอันเลื่องชื่อของ BMW และต้องขอบคุณเทคโนโลยี

ฉีดละอองน้ำละเอียดเข้าไปในท่อไอดีที่เราเคยเห็นมาแล้วกันใน BMW M4 GTS ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิในห้องเผาไหม้และทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่เคยถูกจำกัดด้วยความร้อนสะสม สามารถขยับสูงขึ้นได้ถึง 16% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นมาตรฐาน ตัวรถยังมีการนำแนวคิด BMW Lightweight Construction Concept มาใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อการตอบสนองและบังคับควบคุมที่ดียิ่งขึ้น ชิ้นส่วนอย่างฝากระโปรงหน้า แผ่นหลังคา คานยึดแผงหน้าปัด และครีบจัดระเบียบอากาศที่กันชนท้ายเป็นวัสดุ CFRP ส่วนหม้อพักไอเสียด้านท้ายพร้อมปลายท่อไอเสียคู่ทั้งสองฝั่งนั้นเป็นวัสดุไทเทเนียมที่น้ำหนักเบาพิเศษ

อ่านเพิ่มเติม
THE BMW M4 DTM CHAMPION EDITION.
THE BMW M4 DTM CHAMPION EDITION.
THE BMW M4 DTM CHAMPION EDITION.
THE BMW M4 DTM CHAMPION EDITION.
THE BMW M4 DTM CHAMPION EDITION.
THE BMW M4 DTM CHAMPION EDITION.

และเมื่อเรากำลังพูดกันถึงเรื่องสมรรถนะ สิ่งที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลยคือยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 ขนาด 265/35R19 ที่ด้านหน้า และ 285/30R20 ที่ด้านหลัง (ล้อหน้าและหลังขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เท่ากัน) สำหรับการขับในสนามโดยเฉพาะ ล้ออัลลอยเป็นลาย 666 M แบบเดียวกับ BMW M4 GTS แต่มาในโทนสีเทาด้าน Orbit Grey Matt ระบบช่วงล่างใช้คอยล์โอเวอร์ปรับสามทิศทางรวมถึง Rebound และ Damping ซึ่งทำให้สามารถปรับตั้งบุคลิกของรถให้ออกมาได้ตามสั่ง ปิดท้ายด้วยเบรกคาร์บอนเซรามิค M เพื่อให้มั่นใจได้ว่า คุณจะไม่พบกับอาการเฟดในขณะที่กำลังดึงเอาสมรรถนะของม้าศึกทั้ง 500 ตัว ออกมาใช้อย่างเต็มที่ในสนามแข่ง

BMW M4 DTM Champion Edition มีให้เลือกเพียงสีเดียวคือขาว Alpine White เพื่อความเชื่อมโยงกับรถแข่ง DTM ตัวจริงจาก BMW Motorsport ตัวรถมาพร้อมชุดแต่งตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ตามจุดต่างๆ ตามเอกลักษณ์พิเศษของรถแข่งทัวร์ริ่งคาร์ แต่ถึงภายนอกจะดูดุดันและภายในปราศจากสิ่งของเกินจำเป็นจนเข้าขั้น Minimalist ตามแบบฉบับรถแข่ง มันก็ยังใส่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายมาให้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่ระบบนำทาง BMW รุ่น Professional, ระบบปรับอากาศ, ไฟหน้า Adaptive LED พร้อมระบบ BMW Selective Beam (ระบบเปิดไฟสูงอัตโนมัติ), ไฟท้าย OLED แบบเดียวกับ BMW M4 GTS, เซ็นเซอร์กะระยะ PDC ทั้งหน้าและหลัง และกระจกส่องข้างกับกระจกมองหลังที่ตัดแสงรบกวนอัตโนมัติ เบาะนั่ง M Carbon bucket seat ซึ่งมีเฉพาะคู่หน้านั้นหุ้มด้วย Alcantara สลับกับหนังแท้ Merino ที่คัดสรรมาจากวัวพันธุ์พิเศษและใช้หนังเฉพาะส่วนที่ปราศจากรอยขีดข่วนหรือจุดด่างดำ พวงมาลัย M แบบสปอร์ตหุ้ม Alcantara พร้อมขีดสีเทาตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกา และโรลบาร์ด้านหลังเต็มรูปแบบสีขาวเข้ากันกับสีภายนอกของตัวรถ

อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า BMW M4 DTM Champion Edition ผลิตจำนวนจำกัดทั่วโลกเพียงแค่ 200 คัน และเปิดตัวไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2016 แล้ว และล่าสุด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ได้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย เพียงหนึ่งคันเท่านั้น เปิดราคาขาย 13,939,000 บาท และได้เผยโฉมอย่างเป็นทางการไปแล้วในงาน BMW Xpo 2017 ที่ผ่านมา