ภายนอกของ BMW X3 ใหม่ ยังคงแนวคิดของการเป็นรถที่ผสมผสานความทะมัดทะแมงแบบรถตรวจการณ์อเนกประสงค์เข้ากับความสปอร์ตเอาไว้ด้วยกันอย่างชัดเจน ตามแบบฉบับนิยามของคำว่า Sports Activity Vehicle (SAV) ที่ BMW ตั้งขึ้นมาเพื่อเรียกรถประเภทนี้ของตนโดยเฉพาะแทนคำว่า Sports Utility Vehicle (SUV) แบบทั่วๆ ไป โคมไฟหน้าถูกปรับให้มีระยะห่างจากกระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ และเปลี่ยนมาใช้ไฟ DRL แบบ LED หกเหลี่ยมเป็นครั้งแรก (ครั้งแรกของ BMW อนุกรม X ด้วย) พร้อมกับไฟหน้า Adaptive LED กับไฟตัดหมอก LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน กระจังหน้าติดตั้งระบบ Active air flap control ควบคุมการเปิดปิดของครีบกระจังหน้าตามสถานการณ์ต่างๆ เพื่อปรับอุณหภูมิเครื่องยนต์ให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศลงเหลือเพียง 0.29 อีกด้วย ส่วนกระจกบังลมหน้าเคลือบวัสดุ Acoustic เพื่อช่วยลดเสียงลมรบกวนและเพิ่มความสุนทรีย์ในห้องโดยสาร

ด้านข้างปรับเส้นสายให้มีความสปอร์ตและปราดเปรียวมากขึ้น เส้นด้านข้างตัวถังซึ่งลากตั้งแต่บริเวณซุ้มล้อหน้าผ่านมือจับประตูหน้าและหลังไปบรรจบกับโคมไฟท้ายถูกปรับให้อยู่ในแนวระนาบมากขึ้น แนวหลังคาส่วนท้ายเทลาดลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด กระจกโอเปร่าบานหลังถูกปรับปรุงดีไซน์ให้ต่างไปจากรถรุ่นเดิม และล้ออัลลอยขนาดใหญ่โดยเริ่มต้นกันที่ 19 นิ้ว แทนรุ่นเดิมที่เริ่มที่ 17 นิ้ว เพื่อเพิ่มความสปอร์ต ในขณะที่ด้านท้ายมีการเปลี่ยนไปใช้โคมไฟท้าย LED ดีไซน์ในแบบ BMW ยุคใหม่ ปลายท่อไอเสียคู่ และออพชันที่เป็นไฮไลท์อย่างฝาท้ายพร้อมระบบเตะเปิดซึ่งสามารถเปิดปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ภายในห้องโดยสารของ BMW X3 ใหม่ บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่านี่คือ BMW จากคริสต์ศักราช 2017 ด้วยดีไซน์ของแผงหน้าปัดที่ใช้รหัสการออกแบบเดียวกันกับ BMW 5 Series และ BMW 7 Series ที่เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับพวงมาลัยที่มีหน้าตาคล้ายกับถูกหยิบยกมาจาก BMW 5 Series ห้องโดยสารรู้สึกโอ่โถงจากฐานล้อที่ขยายความยาวมากขึ้น และหลังคาแก้ว Panoramic glass roof ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานอีกเช่นกัน พนักพิงเบาะหลังแบ่งในอัตราส่วน 40:20:40 สามารถพับได้ด้วยปุ่มเดียวที่ท้ายรถ และเมื่อพับลงหมดก็จะทำให้ความจุของห้องเก็บสัมภาระขยายจาก 550 ลิตร กลายมาเป็นมากถึง 1,600 ลิตร ทางด้านออพชันและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะนอกจาก BMW จะติดตั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกสามโซนกับให้กุญแจ Display Key มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานแล้ว ก็ยังใส่ระบบควบคุมหน้าจอ LCD ขนาด 10.25” ด้วยท่าทางมือ (Gesture Control) และปุ่ม iDrive แบบเขียนตัวอักษรได้มาให้อีกด้วย!

ทางด้านขุมพลังในช่วงเปิดตัวจะเป็นเครื่องยนต์ BMW TwinPower Turbo Diesel ขนาดความจุ 1,995 ซีซี ในรุ่น BMW X3 20d ที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะมันเพิ่งถูกปรับปรุงโดยวิศวกรของ BMW กันไปเมื่อไม่นานมานี้ เครื่องยนต์ดีเซลบล็อกนี้สามารถผลิตพละกำลังได้สูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ใน 8.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รายละเอียดอื่นๆ ของ BMW X3 ใหม่ ยังมีอีกมากและต้องรอติดตามชม แต่หากคุณผู้อ่านท่านใดสนใจก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเวบไซต์ WWW.BMW.CO.TH พร้อมราคาได้เร็วๆ นี้