เครื่องมือจัดการการอนุญาตของคุณให้ใช้คุกกี้ของเรากำลังออฟไลน์ชั่วคราว การทำงานบางอย่างที่ต้องใช้คำยินยอมให้ใช้คุกกี้อาจหายไป
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ชวนสัมผัสสุนทรียะแห่งการขับขี่กับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 โฉมใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย พาสื่อมวลชนสัมผัสสุนทรียะแห่งการขับขี่ที่แท้จริงในกิจกรรมทดสอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 โฉมใหม่ ที่จัดขึ้น ณ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 15 – 19 พฤษภาคม 2560 ภายในงาน สื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบสมรรถนะการขับขี่ พร้อมสัมผัสนวัตกรรมล่าสุดจากรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 530i M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 520d Luxury ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอันสวยงามของเขาใหญ่
มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ต่อยอดความสำเร็จที่ผ่านมาด้วยสถิติยอดขายสูงสุดในเดือนมีนาคมและไตรมาสแรกของปีทั่วโลก โดยในประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยูสร้างสถิติใหม่ด้วยการส่งมอบรถยนต์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสแรกของปี 2560 ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูจำนวน 2,097 คัน ซึ่งสูงขึ้นถึง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา”
“การเติบโตของบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีต่อบีเอ็มดับเบิลยู โดยตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 โฉมใหม่ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในประเทศไทย เราจึงเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าตลอดปีนี้ เราจะสามารถรักษาแนวโน้มการเติบโตนี้ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ สู่ตลาดรถยนต์พรีเมี่ยมในประเทศไทย”
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 โฉมใหม่: บีเอ็มดับเบิลยู 530i M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 520d Luxury
ด้วยงานออกแบบภายใต้แนวคิด BMW EfficientLightweight ซึ่งเน้นการใช้วัสดุอลูมิเนียมและเหล็กกล้าที่มีความทนทานสูงแต่น้ำหนักเบา บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 รุ่นใหม่จึงมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนถึง 100 กิโลกรัม พร้อมมอบสมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มนวล ปลอดภัย ยึดเกาะถนน และเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายบนทุกเส้นทาง ตามแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5
นอกจากน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นก่อนแล้ว ตัวถังของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 โฉมใหม่ ยังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ กระจายน้ำหนักอย่างสมดุล และมีแรงเสียดทานอากาศต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน จึงผสมผสานการขับขี่เดียวกันและมีแรงเสียดทานอากาศต่ำที่สุดในรถระดับ ที่คล่องตัวเข้ากับความนุ่มสบายสำหรับผู้โดยสารได้อย่างลงตัว ทีมวิศวกรของบีเอ็มดับเบิลยูทำงานอย่างหนักเพื่อลดค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศของ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 โฉมใหม่ลง 10 % เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศอยู่ที่ 0.22 เท่านั้น ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์ซีดาน
ส่วนเพดานห้องโดยสารของ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 โฉมใหม่ มาพร้อมวัสดุเก็บเสียงในตัว จึงช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะในบริเวณที่ใกล้กับศีรษะ เพื่อความผ่อนคลายสูงสุดของผู้โดยสาร
นอกจากนี้ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่บนแชสซีได้รับการปรับให้มีน้ำหนักเบาลงมาก เช่น การรวมระบบเบรกมือไฟฟ้าเข้ากับก้ามปูเบรกล้อหลัง ซึ่งช่วยให้สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 3 กิโลกรัม โดยรวมแล้ว การลดน้ำหนักของตัวเบรก ล้อและยาง ทำให้ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 โฉมใหม่มีน้ำหนักของระบบช่วงล่างเบาลงถึง 9 กิโลกรัม ซึ่งมีผลต่อการตอบสนองและความนุ่มนวลในการขับขี่อย่างเห็นได้ชัด
ด้วยความยาวฐานล้อ 2,975 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 7 มิลลิเมตร) ประกอบกับความกว้างฐานล้อหน้า 1,605 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 5 มิลลิเมตร) และความกว้างฐานล้อหลัง 1,630 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 3 มิลลิเมตร) บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 โฉมใหม่ มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน
บีเอ็มดับเบิลยู 530i M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 520d Luxury มาพร้อมกระโปรงหลังขนาดใหญ่ขึ้น ด้วยความจุถึง 530 ลิตร โดยส่วนขอบล่างของกระโปรงได้ปรับให้มีระดับต่ำลงกว่าในรุ่นก่อน จึงทำให้สามารถจัดเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ได้ง่ายขึ้น ภายในช่องเก็บของที่ทั้งเปิดฝากระโปรงได้กว้างขึ้น และมีขนาดที่กว้างกว่าเดิม นอกจากนี้ ฝากระโปรงหลังของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 โฉมใหม่ ยังทำจากอลูมิเนียมทั้งบาน ทำให้สามารถลดน้ำหนักลงไปได้กว่า 4.2 กิโลกรัม
กุญแจ Display Key ในบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การสั่งการทำงานของระบบปรับอากาศในรถ นอกจากนี้ กุญแจดังกล่าวยังมาพร้อมหน้าจอสีแสดงผลแบบระบบสัมผัส ซึ่งแสดงสถานะต่างๆ ของรถ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถรู้สถานะปริมาณของน้ำมันและระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้ รวมถึงข้อมูลที่สำคัญอื่นๆ โดยกุญแจนี้สามารถชาร์จได้ด้วยเครื่องชาร์จไร้สายที่ติดตั้งมากับรถหรือจากพอร์ต USB ทั่วไป
บีเอ็มดับเบิลยู 530i M Sport
ราคา: 4,399,000 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
บีเอ็มดับเบิลยู 530i M Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบรุ่นใหม่ ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งมาแทนเครื่องยนต์เบนซินเดิมที่ใช้ในบีเอ็มดับเบิลยู 528i พร้อมมอบกำลังสูงสุด 185 กิโลวัตต์/252 แรงม้า พร้อมแรงบิด 350 นิวตันเมตร มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร และมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 129 กรัมต่อกิโลเมตร ลดลงจากรุ่นก่อน 11 เปอร์เซ็นต์ สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.2 วินาที และเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิลยู 530i M Sport โฉบเฉี่ยวหรูหราด้วยชุดแต่ง M aerodynamics และล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้วแบบ Double-spoke ภายในโดดเด่นด้วยพวงมาลัยหนังในแบบ M ส่วนหลังคากระจกเปิดปิดด้วยไฟฟ้า และกระโปรงหลังพร้อมระบบเปิดปิดอัตโนมัติพร้อมมอบความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นให้แก่ผู้ใช้งาน
นอกจากนี้ ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอด (Parking Assistance) จะทำให้การจอดรถง่ายดายขึ้นด้วยระบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถในรูปแบบแนวขนานหรือการจอดแบบเข้าซอง ทั้งยังมาพร้อมกับฟังก์ชันพิเศษเพิ่มเติม โดยในรุ่นนี้ ระบบสามารถทำการจอดรถได้ในพื้นที่จอดที่มีความยาวกว่าตัวรถเพียง 80 เซนติเมตร ซึ่งช่วยให้การเข้าจอดในพื้นที่จำกัดสามารถทำได้ดียิ่งขึ้น ระบบอัลตร้าโซนิคเซ็นเซอร์ (ultrasonic sensors) สามารถช่วยค้นหาพื้นที่จอดที่เหมาะสมได้ในขณะขับขี่ที่ความเร็วสูงสุด 35 กม./ชั่วโมง โดยเมื่อพบจุดจอดแล้ว ระบบจะทำการจอดรถเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเกียร์ หมุนพวงมาลัย ตลอดจนผ่อนคันเร่งหรือเบรกโดยอัตโนมัติ และในกรณีที่พื้นที่จอดรถทำมุมกับถนน ระบบจะต้องการพื้นที่ว่างด้านข้างตัวรถเพียงข้างละ 40 เซนติเมตรเท่านั้นในการทำงานแบบอัตโนมัติ
ระบบ Gesture Control ซึ่งเป็นฟีเจอร์ควบคุมฟังก์ชันหลักด้วยท่าทางการเคลื่อนไหวของมือ ได้เปิดตัวออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 เมื่อปีที่ผ่านมา และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 โฉมใหม่ ก็มาพร้อมกับรุ่นล่าสุดของระบบดังกล่าว ซึ่งมาพร้อมกับหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ที่แสดงผลได้ทั้งข้อมูลระบบนำทาง โทรศัพท์ เพลง หรือเมนูฟังก์ชันต่างๆ ของตัวรถ นอกจากจะสั่งการได้ผ่านทางปุ่ม iDrive Controller แล้ว
ระบบควบคุมนี้ยังรองรับการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ เสียง หรือการสัมผัสปุ่มบนหน้าจอ สำหรับระบบ Gesture Control นั้น นำเสนอการใช้งานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและสะดวกสบายในทุกฟังก์ชัน ทั้งระบบ infotainment และโทรศัพท์ ผ่านการขยับมือหรือนิ้วมือ ซึ่งจะถูกตรวจจับโดยระบบเซ็นเซอร์ 3D บริเวณคอนโซลและแปลเป็นคำสั่งต่างๆ ตามการเคลื่อนไหว เช่น สามารถรับโทรศัพท์ได้ด้วยการชี้นิ้วชี้ไปที่หน้าจอ หรือสามารถปัดมือเพื่อปฏิเสธสายเรียกเข้า
บีเอ็มดับเบิลยู 520d Luxury
ราคา: 3,899,000 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
บีเอ็มดับเบิลยู 520d Luxury สะท้อนให้เห็นความสง่างามที่เป็นตัวตนของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 โดยมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วแบบ W-spoke ทั้งยังเปี่ยมสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร ส่งกำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า พร้อมแรงบิด 400 นิวตันเมตร มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตร และมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 132 กรัมต่อกิโลเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 7.5 วินาที เร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิลยู 530i M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 520d Luxury มาพร้อมกับปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นพร้อมระบบสัมผัส iDrive พร้อมแสดงระบบนำทาง ระบบโทรศัพท์ ระบบความบันเทิง และระบบการทำงานของรถผ่านจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว โดยรองรับการควบคุมผ่านทาง iDrive Controller สั่งงานด้วยเสียงหรือท่าทาง หรือสัมผัสที่หน้าจอโดยตรง
นอกจากนี้ ดีไซน์ภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ ทั้งสองรุ่น ยังโดดเด่นด้วยไฟหน้า LED ที่ปรับทิศทางตามการหมุนของพวงมาลัย อันถือเป็นเอกลักษณ์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ โดยเฉพาะ โดยมีระบบปรับการกระจายแสงให้เหมาะสมกับเส้นทางที่ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มแสงสว่างในมุมอับในขณะเข้าโค้ง หรือระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติในระยะไกลสุด 500 เมตร
ภายในห้องโดยสาร นอกเหนือจากพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้น เทคโนโลยี SYNTAK (Special Synergy Thermoacoustic Capsule) ยังช่วยเสริมการเก็บเสียงเพื่อความผ่อนคลายสูงสุดในห้องโดยสาร
เปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู 520d Luxury (Limited)
ราคา: 3,599,000 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
นอกเหนือจาก บีเอ็มดับเบิลยู 530i M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 520d Luxury แล้ว บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยยังเปิดตัวรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู 520d Luxury (Limited) ใหม่ ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนบีเอ็มดับเบิลยู 520d Luxury พร้อมด้วยห้องโดยสารที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่อย่างเต็มประสิทธิภาพ และการตกแต่งด้วยวัสดุลายไม้ในดีไซน์ที่หรูหรา ลงตัว เป็นเอกลักษณ์ ส่วนหน้าปัดแสดงผลอย่างง่ายบนแผงคอนโซล มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 8.8 นิ้ว ที่ทำงานควบคู่กับระบบ iDrive Controller