BMW i8 Protonic Red Edition: The icon of the icons
Highlight | 2560.01.01

BMW i8 Protonic Red Edition: The icon of the icons

5 ความพิเศษของ BMW i8 Protonic Red Edition
สวัสดีปีใหม่ 2560 คุณผู้อ่านทุกท่านครับ ในช่วงเวลาของการขึ้นปีใหม่นี้ ผมขอเป็นตัวแทนทีมงานคณะผู้จัดทำวารสาร BMW Fascination ในการส่งคำอวยพรไปถึงคุณผู้อ่านทุกท่าน ขอให้ทุกท่านได้พบแต่ความสุขสมหวัง ดำเนินชีวิตด้วยความตื่นเต้นและท้าทายแต่ราบรื่น และที่สำคัญคือมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงจะได้ขับ BMW คันโปรดออกไปเที่ยวกันได้บ่อยๆ นะครับ

ปีนี้ก็เป็นอีกปีหนึ่งที่วันตรุษจีนเวียนมาบรรจบลงในเดือนมกราคม ดังนั้น รถที่ BMW Fascination นำมาฝากคุณผู้อ่านทุกท่านในฉบับนี้ คงไม่มีคันไหนจะเหมาะสมไปกว่ารถสีแดงสดที่เพิ่งเปิดตัวในงานแสดงรถยนต์ Motor Expo ไปเมื่อเร็วๆ นี้ อย่าง BMW i8 Protonic Red Edition อีกแล้ว BMW ตั้งเป้าที่จะผลิต BMW i8 Protonic Red Edition เพียงจำนวนจำกัด จึงทำให้รถยนต์รุ่นนี้มีความพิเศษขึ้นกว่า BMW i8 รุ่นปกติที่นำมาจำหน่ายก่อนหน้านี้ แต่นอกจากสีตัวถังภายนอกสีแดงสดที่เห็นกันได้ชัดๆ ไปแล้ว BMW i8 Protonic Red Edition จะยังมีความพิเศษอื่นๆ อะไรอีกบ้าง BMW Fascination ได้นำมาสรุปไว้เป็น 5 ความพิเศษของ BMW i8 Protonic Red Edition ให้ทุกท่านอ่านกันแล้วที่นี่ครับ

 

สีแดง Protonic Red เป็นสีที่ผสมขึ้นใหม่เพื่อรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ โดยจะจับคู่กับสีเทา Frozen Grey Metallic ที่ประดับตามจุดต่างๆ บนตัวถังภายนอกเพื่อสร้างมิติและเพิ่มความโดดเด่นให้กับ BMW i8 Protonic Red Edition นอกจากนี้ โทนสียังทำมาให้เข้าชุดกันกับสีเทา Orbit Gray Metallic ของล้ออัลลอยน้ำหนักเบาลายตัวดับเบิลยู BMW W-spoke 470 อีกด้วย ล้อชุดนี้เป็นล้อขนาดพิเศษที่สวมยางต่างขนาดกัน โดยด้านหน้าใช้ยางขนาด 215/45R20 และด้านหลังใช้ขนาด 245/45R20 (BMW i8 รุ่นปกติจะใช้ล้อขนาดมาตรฐานพร้อมยางขนาด 195/50R20 ในด้านหน้า และ 215/45R20 ในด้านหลัง) โทนสีพิเศษนี้ทำให้ BMW i8 Protonic Red Edition โดดเด่นสะดุดสายตา และยังสื่อได้ถึงพลังและความคล่องตัวในขณะเคลื่อนไหวได้แม้แต่ตอนที่จอดสงบนิ่ง

 



อ่านเพิ่มเติม

เบาะนั่งเดินด้ายสีแดง พร้อมประทับสัญลักษณ์ i8 บนหมอนรองศีรษะ เมื่อเปิดประตูห้องโดยสารจะพบกับภายในตกแต่งแบบ NESO ที่มีความพิเศษอยู่ตรงตะเข็บของเบาะนั่งสีเข้มที่เย็บด้วยด้ายสีแดง เช่นเดียวกับพื้นผิวบางส่วนของพนักพิงและเบาะรองนั่งที่จะใช้การทอด้ายสีแดงลงไปเพื่อให้เข้ากับสีตัวถังภายนอกของรถ ส่วนบนพนักพิงศีรษะก็มีการประทับโลโก้ BMW i8 เอาไว้ และทั้งหมดจะถูกทำให้โดดเด่นยิ่งขึ้นเมื่อมาตัดกับเข็มขัดนิรภัยสีเทา ซึ่งยิ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกพิเศษ

 

ภายในตกแต่งพิเศษ แผงหน้าปัดมีการขลิบสีแดงบริเวณเหนือช่องแอร์ฝั่งคนขับตั้งแต่ด้านใกล้ประตูไปจนถึงช่องแอร์ตรงกลางหน้าปัด คอนโซลกลางบริเวณสวิทช์ควบคุมระบบปรับอากาศและปุ่มควบคุม iDrive มีการนำแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์แท้ๆ มาตกแต่งเพื่อเพิ่มลุคความสปอร์ตให้กับตัวรถ ส่วนหัวเกียร์ก็เปลี่ยนมาใช้วัสดุที่มีความมันวาวคล้ายเซรามิค ช่วยยกระดับความหรูหราและประณีตจากเดิมที่ดีอยู่แล้วให้ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

 

กาบบันไดพร้อมสัญลักษณ์ Protonic Red Edition แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างวัสดุกันรอยบริเวณกาบบันได ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่คุณจะได้เห็นเมื่อเปิดประตูรถยนต์ทุกคันนั้น ก็ยังมีการใส่ความพิเศษเอาไว้ด้วย กาบบันไดของ BMW i8 Protonic Red Edition จะเป็นสีเทาพร้อมพิมพ์ลวดลายกราฟฟิคโลโก้ Protonic Red Edition เอาไว้ แตกต่างจาก BMW i8 รุ่นปกติที่เป็นสีดำสนิท

ผลิต “เวลา” จำกัด มาถึงตรงนี้คุณผู้อ่านคงทราบกันแล้วว่า BMW i8 Protonic Red Edition เป็นรถยนต์รุ่นพิเศษที่ BMW ตั้งใจจะผลิตขึ้นเพียงจำนวนจำกัด ทว่าคราวนี้ BMW ไม่ได้แจ้งจำนวนการผลิตเอาไว้เป็นเหมือนในครั้งก่อนๆ อย่างเช่น BMW M4 GTS ก็มีการแจ้งล่วงหน้าไว้ว่าจะจำกัดจำนวนผลิตเอาไว้เพียง 700 คัน แต่สำหรับ BMW i8 Protonic Red Edition นั้น BMW ใช้วิธีจำกัดช่วงเวลาที่ลูกค้าจะสามารถสั่งซื้อได้แทน โดย BMW เปิดรับคำสั่งซื้อเฉพาะในช่วงเดือนกันยายน – ธันวาคม 2559 เท่านั้น รถยนต์ทุกคันจะผลิตและส่งตรงมาจากโรงงาน Leipzig ในประเทศเยอรมันเช่นเคย

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า BMW i8 คือรถที่จะเป็นตำนานค้างฟ้าอีกคันของ BMW อย่างแน่นอน เพราะมันคือรถที่ปฏิวัติแนวคิดการสร้างรถยนต์ให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น และยังเปรียบเหมือนการเปิดประตูบานใหม่เพื่อก้าวสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงอย่างจริงจัง เฉกเช่นเดียวกับที่บรรพบุรุษของมันอย่างที่ 2002 เป็นจุดเริ่มต้นของกระแสรถยนต์ขนาดคอมแพกต์สมรรถนะสูง และ BMW M3 E30 ต้นกำเนิดตระกูล M ที่นำเทคโนโลยีจากรถแข่งมาใส่ในรถถนนชนิดที่ไม่มีการประนีประนอมสมรรถนะ การได้เป็นเจ้าของรถยนต์ระดับตำนาน และยังเป็นรุ่นพิเศษที่ผลิตจำนวนจำกัดอย่าง BMW i8 Protonic Red Edition ด้วยนั้น ย่อมเป็นประสบการณ์สุดพิเศษที่ยากจะหาตัวเปรียบเทียบ