เครื่องมือจัดการการอนุญาตของคุณให้ใช้คุกกี้ของเรากำลังออฟไลน์ชั่วคราว การทำงานบางอย่างที่ต้องใช้คำยินยอมให้ใช้คุกกี้อาจหายไป
MACBOOK PRO: A TOUCH OF GENIUS
ปล่อยให้รอกันมานานถึง 4 ปีครึ่ง ก็ถึงเวลาปรับโฉมครั้งใหญ่ของ MacBook Pro เครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปยอดนิยมของคนทุกเพศทุกวัย โดยครั้งนี้ นอกจาก Apple จะปรับโฉมให้มีความบางกว่าเดิมน้ำหนักเบากว่าเดิมแล้วยังมีฟีเจอร์เด่นอย่างแถบหน้าจอ Touch Bar ที่มาเปลี่ยนแปลงการควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เหนือขึ้นไปอีกหนึงมิติ แถมด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หรือ Touch ID บนเครื่อง Mac เป็นครั้งแรกด้วย
MacBook Pro รุ่นใหม่ มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว โดยในรุ่น 13 นิ้วถูกปรับให้มีความบางลงกว่ารุ่นเดิมถึง 18% มีน้ำหนักเพียง 1.37 กิโลกรัม เทียบเท่ากับ MacBook Air แต่มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก ส่วนในรุ่น 15 นิ้ว ถูกปรับให้มีความบางลง 14% และมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.83 กิโลกรัม โดยทั้งสองรุ่น มีมาให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือสีเงินสุดคลาสสิคกับสีเทา Space Grey
ไฮไลต์เด่นของ MacBook Pro รุ่นใหม่ อยู่ที่แถบหน้าจอ Touch Bar ที่มาทดแทนปุ่มแถวบนสุดของคีย์บอร์ด โดยเป็นหน้าจอทัชสกรีนยาวๆ ที่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามแอพที่เปิดใช้งานอยู่ ณ เวลานั้นๆ เช่นหากกำลังพิมพ์ข้อความอะไรอยู่ บนแถบ Touch Bar นี้ก็จะแสดงการเดาคำ สะกดคำ รวมถึงปุ่ม Copy/Paste มาให้แตะใช้ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ถ้าเปิดอีเมล มันก็จะเปลี่ยนเป็นปุ่ม Reply, Forward หรือปุ่มย้ายโฟลเดอร์อีเมล หรือถ้าเปิดดูรูป มันก็จะกลายร่างเป็นปุ่มตกแต่งรูป หมุนรูป รวมถึงแสดงอัลบั้มทั้งหมดให้เราค้นหารูปต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งแถบ Touch Bar นี้ จะรองรับได้กับทุกโปรแกรมที่รักพัฒนาจะออกอัปเดตมาในอนาคตแถม MacBook Pro รุ่นใหม่นี้ ยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หรือ Touch ID ที่ให้เราใช้ลายนิ้วมือในการปลดล็อกเครื่อง Mac และใช้แทนพาสเวิร์ดต่างๆ ของตัวเครื่องได้ด้วย
หน้าจอของ MacBook Pro รุ่นใหม่ ถูกปรับปรุงขึ้นอย่างมาก โดยมีความสว่างมากขึ้น 67% และคอนทราสต์จัดจ้านขึ้น 67% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ส่วนใครที่ใช้ทำงานกราฟฟิกก็จะได้ประโยชน์จากการแสดงช่วงสีที่กว้างขึ้นอีก 25% (wide color gamut) ของหน้าจอ Retina Display แบบใหม่นี้ด้วย
ประสิทธิภาพในการทำงาน ยังคงเป็นจุดเด่นของ MacBook Pro ทุกรุ่นอยู่เช่นเดิม โดยในรุ่น 13 นิ้ว จะใช้ซีพียูเริ่มต้นจาก Intel Core i5 และสามารถปรับแต่งขึ้นไปใช้ Intel Core i7 ได้ ส่วนในรุ่น 15 นิ้ว จะเริ่มจากซีพียู Core i7 เลยรวมถึงการประมวลผลกราฟฟิก, เล่มเกม หรือตัดต่อวิดีโอ ก็ทำได้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมอย่างมีนัยสำคัญ
พอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มากับ MacBook Pro รุ่นใหม่นี้ถูกเปลี่ยนเป็นพอร์ต Thunderbolt 3 ทั้งหมด (หัวเดียวกับ USB-C) จำนวน 4 พอร์ต ซึ่งเป็นพอร์ตที่สามารถส่งข้อมูลได้รวดเร็วกว่า USB แบบเดิมถึงหลายเท่าตัว แต่อาจจะต้องแลกมาด้วยการใช้อะแดปเตอร์แปลงให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ USB ในปัจจุบันได้ในระยะเริ่มแรก โดยอะแดปเตอร์ทั้งหมดไม่ได้มีมาให้กับตัวเครื่อง ต้องซื้อแยกต่างหากเท่านั้น
MacBook Pro รุ่นใหม่ เริ่มวางจำหน่ายแล้ว เปิดราคาเริ่มต้นของรุ่น 13 นิ้ว แบบไม่มี Touch Bar อยู่ที่ 56,900 บาท และรุ่นที่มี Touch Bar เริ่มที่ 67,900 บาท ส่วนรุ่น 15 นิ้ว จะเปิดราคาเริ่มต้นที่ 89,900 บาท และสามารถปรับแต่งสเปกต่างๆให้สูงขึ้นได้ตามความต้องการ