ข่าวประชาสัมพันธ์ | 2017.08.01

ChargeNow: นวัตกรรมการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริดเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของประเทศไทย ร่วมด้วยกลุ่มพันธมิตรผู้ร่วมริเริ่มการปฏิวัติวงการเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า

จากซ้าย
1. มร. เทอเรนซ์ เซียว ผู้จัดการระดับภูมิภาคเอเชีย Greenlots
2. คุณณรัตน์ไชย หลีระพันธ์ ประธาน บริษัท โพลีเทคโนโลยี จำกัด
3. มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
4. คุณอิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (จำกัด) มหาชน
5. คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
6. ดร. ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย

กรุงเทพ.
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ร่วมด้วยบริษัท โพลีเทคโนโลยี จำกัด Greenlots เซ็นทรัลกรุ๊ป และบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งประวัติการณ์ เพื่อสานต่อความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการพัฒนาและการรับรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในประเทศไทย ข้อตกลงดังกล่าวนำไปสู่การเปิดตัว ChargeNow เครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใดหรือรุ่นใด ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีแผนที่จะเปิดให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า 50 สถานีทั่วประเทศ ในระยะแรกของการเตรียมวางเครือข่าย

“บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ยึดมั่นต่อความยั่งยืนในทุกตลาดที่เราดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการนำเสนอบริการ ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีการชาร์จรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า การเปิดตัว ChargeNow ในประเทศไทย คืออีกก้าวอันสำคัญยิ่งของการดำเนินภารกิจตามวิสัยทัศน์เพื่ออนาคตอันยั่งยืนอย่างแท้จริง ด้วยการนำเสนอบริการที่อำนวยความสะดวกและทำให้การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องไม่ยุ่งยาก เรามุ่งหวังที่จะจุดประกายความสนใจในยานยนต์แห่งอนาคตในหมู่ผู้ใช้งานชาวไทย โดยเสริมสร้างความแข็งแกร่งใน การขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับชาติผ่านนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าไปพร้อม ๆ กัน” มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าว

ให้การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริดเป็นเรื่องง่ายๆ

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับบริษัท โพลีเทคโนโลยี จำกัด และ Greenlots ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานแบบเปิด แพลตฟอร์ม cloud-based และแอพพลิเคชั่นบนมือถือ โดย Greenlots ได้ติดตั้งสถานีชาร์จมาแล้วถึง 150 สถานีใน 70 แห่งทั่วประเทศสิงคโปร์ สำหรับในประเทศไทย Greenlots ได้ร่วมมือกับบริษัท โพลีเทคโนโลยี จำกัด วางเป้าหมายที่จะติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด จำนวน 50 สถานี ในช่วงแรกของการเตรียมวางเครือข่าย

คุณณรัตน์ไชย หลีระพันธ์ ประธาน บริษัท โพลีเทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจของ โพลีเทคโนโลยีและ Greenlots อย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ในการริเริ่มโครงการ ChargeNow สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริดในประเทศไทย เรายินดีที่ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ ที่เห็นความสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืน และร่วมกันสร้างสรรค์สังคมแห่งยนตรกรรมไฟฟ้าที่จะมาถึงในไม่กี่ปีข้างหน้านี้”

ความร่วมมือในโครงการ ChargeNow ระหว่างโพลีเทคโนโลยีและ Greenlots ช่วยให้การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริดเป็นเรื่องสะดวกและง่ายดายอย่างที่ควรจะเป็น โดยตัวชาร์จจะมีให้บริการหัวชาร์จ AC ทั้งแบบ Type I และ Type II ภายในเครื่องเดียว ลูกค้าที่เข้าในโครงการ ChargeNow สามารถชาร์จรถยนต์ของตัวเองได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์รุ่นใดหรือยี่ห้อใดก็ตาม

ทำเลเด่นของสถานที่ตั้งโครงการ ChargeNow ทั่วประเทศ

ในฐานะพันธมิตรแรกที่ร่วมโครงการ ChargeNow เซ็นทรัลกรุ๊ป ผู้พัฒนาด้านธุรกิจค้าปลีกที่มีความเชี่ยวชาญและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้ให้ความร่วมมือทางด้านที่ตั้งของสถานีชาร์จในศูนย์การค้าสาขาต่าง ๆ ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ด้วยจำนวนศูนย์การค้าระดับพรีเมียมที่มีมากกว่า 30 สาขา เซ็นทรัลกรุ๊ปจึงเป็นผู้ให้บริการด้านที่ตั้งของสถานี ChargeNow ให้แก่ลูกค้าได้อย่างเหมาะสมไร้ข้อสงสัย สามารถเดินทางเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและให้ความเพลิดเพลินในขณะที่รอรถยนต์ชาร์จอยู่

คุณอิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (จำกัด) มหาชน กล่าวว่า “กลุ่มเซ็นทรัล ให้ความสำคัญต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง เพื่อก้าวไปสู่การเป็นองค์กรและผู้พัฒนาธุรกิจค้าปลีกระดับโลก ในขณะเดียวกัน เราก็มุ่งมั่นที่จะนำเสนอที่สุดแห่งประสบการณ์และคุณค่าในการให้บริการที่เหนือความคาดหมายของลูกค้า โครงการ ChargeNow และแนวคิดของการเป็นสังคมแห่งยนตรกรรมไฟฟ้าเป็นการก้าวไปสู่อนาคตอย่างชัดเจน ซึ่งเราเล็งเห็นการเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ที่ไม่จำกัดเฉพาะในระดับโลก แต่ยังรวมถึงในประเทศไทยด้วย ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรริเริ่มโครงการ ChargeNow ที่ตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าในเครือกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งนำร่องใน 13 แห่งแรกทั่วประเทศ ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เซ็นทรัล ชิดลม เซ็นทรัลพลาซา เซ็นทรัลเฟสติวัล และโรบินสัน”

ด้านที่อยู่อาศัยนั้น บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเมือง ที่นำเสนอโครงการที่อยู่อาศัยอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ซึ่งทุกโครงการล้วนตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง เดินทางสะดวกสบาย ใกล้ย่านธุรกิจที่สำคัญที่พร้อมจับมือเป็นพันธมิตรผู้ริเริ่มโครงการ ChargeNow ครั้งนี้

คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เป็นเวลา 25 ปีแล้วที่เป้าหมายสูงสุดของเอพี ไทยแลนด์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือ การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับคนเมือง เรามุ่งมั่นที่จะสร้างที่อยู่พักอาศัยซึ่งตอบทุกมิติของการใช้ชีวิตอันทันสมัย เราเปิดรับทุกไอเดียใหม่ๆ โซลูชั่นในการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงการใช้พื้นที่ต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ เพื่อการมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ดังนั้น โครงการ ChargeNow จึงเป็นมุมใหม่ของการใช้ชีวิตอันทันสมัยในสังคมของ ยานยนต์ไฟฟ้าที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างแท้จริง เรายินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรผู้ริเริ่มโครงการ ChargeNow เพื่อนำไปสู่การใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้นในอนาคตข้างหน้านี้”

โครงการ ChargeNow ยังคงเปิดรับพันธมิตรที่จะมาเข้าร่วมเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะสำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของประเทศไทย ด้วยเป้าหมายที่จะสรรค์สร้างสังคมแห่งยานยนต์ไฟฟ้า และนำไปสู่การไร้การปล่อยก๊าซคาร์บอนในที่สุด

ปัจจุบัน โครงการ ChargeNow ให้บริการสถานีสาธารณะในการชาร์จรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 65,000 แห่งใน 27 ประเทศทั่วโลก ด้วยวิธีการชาร์จที่ง่ายดายและรวดเร็ว สำหรับในประเทศไทย สถานีโครงการ ChargeNow จะแสดงที่ตั้งผ่านสมาร์ทโฟนหรือในเว็บไซต์ ซึ่งส่วนใหญ่จะช่วยให้ลูกค้าทราบได้ว่าสถานีไหนว่างหรือมีการใช้งานอยู่ โดยลูกค้าจะได้รับการ์ด ChargeNow เพื่อสามารถเข้ารับบริการในสถานีซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่ให้บริการโดยพันธมิตรต่าง ๆ และลูกค้าจะได้รับบิลค่าบริการในทุกสิ้นเดือน เช่นเดียวกับบิลค่าบริการโทรศัพท์มือถือนั่นเอง

โครงการ ChargeNow จะเริ่มเปิดรับลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับเจ้าของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าที่มีหัวชาร์จ AC ทั้งแบบ Type 1 (SAE J1772) และ Type 2 (IEC 62196) ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดหรือยี่ห้อใด โดยจะมีการชี้แจงถึงรายละเอียดในการลงทะเบียนล่วงหน้า ในช่วงประมาณไตรมาสที่สามของปี 2560 นี้

Read more

จากซ้าย
1. มร. เทอเรนซ์ เซียว ผู้จัดการระดับภูมิภาคเอเชีย Greenlots
2. คุณณรัตน์ไชย หลีระพันธ์ ประธาน บริษัท โพลีเทคโนโลยี จำกัด
3. มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
4. คุณอิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (จำกัด) มหาชน
5. คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
6. ดร. ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย

Read more


จากซ้าย
1. คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
2. คุณเศรษฐิพงศ์ อนุตรโสตถิ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
3. คุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด
4. มร. เทอเรนซ์ เซียว ผู้จัดการระดับภูมิภาคเอเชีย Greenlots
5. คุณณรัตน์ไชย หลีระพันธ์ ประธาน บริษัท โพลีเทคโนโลยี จำกัด

6. มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
7. คุณอิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (จำกัด) มหาชน
8. คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
9. ดร. ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย
10. คุณชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สื่อสากล จำกัด

Read more

ChargeNow เครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใดหรือรุ่นใด ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 14 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก

ในปีพ.ศ. 2559 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์ 2.367 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 145,000 คันทั่วโลก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 122,244 คนทั่วโลก

ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยการคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 โดยประกอบไปด้วยสามบริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล

ในปี 2559 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องด้วยยอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ จำนวน 7,923 คัน และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดได้สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขาย 1,819 คัน

ในปี 2560 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยยอดขายในเดือนมกราคมซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ด้วยยอดรวมจากบีเอ็มดับเบิลยู และมินิ 745 คัน ซึ่งเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 22% ในขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย มียอดขายเติบโตขึ้น 22% ในเดือนมกราคม 2560 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างสถิติประสบความสำเร็จในฐานะตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดเป็นอันดับที่สามของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทั่วโลก

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียน ที่ผ่านมา มีการลงทุนทั้งสิ้นกว่า 4.6 พันล้านบาท เพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 14 ประเทศทั่วโลก

ณ ปี พ.ศ. 2559 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 19 รุ่น ได้แก่

บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 1, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 Gran Turismo, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7, บีเอ็มดับเบิลยู X1, บีเอ็มดับเบิลยู X3, บีเอ็มดับเบิลยู X4, บีเอ็มดับเบิลยู X5 และ มินิ คันทรีแมน สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 800 R, บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS, บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS, บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS, บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure, บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GT, บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR และ บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 XR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 2 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e และบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e M Sport

ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2559 เป็นต้นมา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังพัฒนาศักยภาพในการประกอบรถยนต์เพื่อรองรับการส่งออกรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X5 และ บีเอ็มดับเบิลยู X3 สู่ตลาดในประเทศจีนอีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
1-800-269-269
www.bmw.co.th
www.mini.co.th
www.bmw-motorrad.co.th

สื่อมวลชนติดต่อ
บริษัท คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
สุธาทิพย์ บุญแสง (08-7685-1695 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 102)
ธรธวัช ทองแนบ (08-3225-4567 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 206)
ปวริศา ธนวจีรัณ (08-6564-4726 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 155)
sboonsaeng@carlbyoir.com, tthongnab@carlbyoir.com, pthanawajeran@carlbyoir.com

Read more