Our tool for managing your permission to our use of cookies is temporarily offline. Therefore some functionality is missing.
The new BMW i7
ยากที่จะปฎิเสธว่า BMW 7 Series ถือเป็นอัครยานยนต์ที่เพียบพร้อมไปด้วยความทันสมัย แต่ยังแฝงไปด้วยความหรูหราเคียงข้างชาวบิมเมอร์ทั่วโลกมาอย่างยาวนานกว่า 45 ปี นับตั้งแต่ปี 1977 ถึงปัจจุบัน
ปฐมบทแห่ง 7 Series ถือกำเนิดขึ้นในปี 1977 กับรหัสตัวถัง E23 ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของวิธีเรียกชื่อรุ่นใหม่ โดยการนำตัวเลข 3, 5, 6 และ 7 เป็นตัวขึ้นต้น จากนั้นตามด้วยตัวเลขที่บ่งบอกถึงพละกำลังในแต่ละเครื่องยนต์ตามท้าย ออกแบบโดย Paul Bracq ในสมัยนั้น นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆที่เป็น “ ครั้งแรก “ ของ BMW ก็มักจะถูกนำมาติดตั้งใน 7 Series ก่อนใครเพื่อน ไม่ว่าจะเป็น On Board Computer ที่ระบุไฟเตือนต่างๆ Check Control หรือ แม้กระทั่งไฟเตือนการเข้ารับบริการ Service Interval Indicator ต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็น BMW รุ่นแรกที่ติดตั้งระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS รวมไปถึง ระบบถุงลมนิรภัย SRS มาให้ ตั้งแต่ปี 1985 หรือกว่า 37 ปีมาแล้ว
BMW 7 Series หมุนเวียน ผลัดเปลี่ยนมา 6 โมเดล ไม่ว่าจะเป็น E23 / E32 / E38 / E65-E66 / F01-F02 / G11-G12 จนมาถึงรุ่นปัจจุบัน ในรหัส G70 เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกเมื่อ วันที่ 20 เมษายน 2022 และ นี่ก็เป็นอีกครั้งที่ BMW ใส่ความเป็นครั้งแรกให้กับอัครยานยนต์ กับการใช้รหัส “ i7 “ เป็นครั้งแรก
BMW i7 เป็นหนึ่งในรหัสของ 7 Series รหัสตัวถัง G70 ที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้าล้วน 100% เป็นครั้งแรกของ 7 Series ที่ไม่มีการใช้เครื่องยนต์สันดาปเลย แต่กระนั้น BMW ก็ยังไม่ลืมรหัสอื่นๆบนพื้นฐานตัวถังเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 735i / 740i / 760i xDrive หรือ เครื่องยนต์ดีเซล 740d xDrive และ รวมไปถึงขุมพลัง Plug-in Hybrid ที่ผสานการใช้งานทั้งเครื่องยนต์สันดาปปกติ และ มอเตอร์ไฟฟ้า ทั้ง 750e xDrive / M760e xDrive ถือว่ามาครบทุกรูปแบบสำหรับตอบโจทย์ทุกความต้องการของชาวบิมเมอร์
ในวันนี้เราจะมาแนะนำ BMW i7 กันก่อน เพราะนี่จะเป็นรหัสแรกของ 7 Series ที่ BMW ประเทศไทย หมายมั่นปั้นมือจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นรุ่นแรก รวมถึงจะใช้เป็นรถที่ใช้ในการรองรับเหล่าบรรดาผู้นำประเทศจากทั่วโลก ที่จะเข้ามาร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค APEC ที่มีกำหนดการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 19 พฤศจิกายน 2022 นี้อีกด้วย
BMW i7 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฟฟ้า100% ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 552 แรงม้า ที่ 5,000 – 12,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 745 นิวตันเมตร ที่ 0-5,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกันขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 101.7 kWh โดยแบ่งเป็น มอเตอร์ตัวหน้า 262 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 365 นิวตันเมตร และ มอเตอร์ตัวหลัง 317 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร รองรับการชาร์จ หัวแบบ Type 2 / CCS Combo กระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW / กระแสตรง DC Fast Charging 195 kW หรือ จาก 10-80% ใช้เวลาเพียง 34 นาที หรือ ชาร์จ 10 นาที วิ่งได้ไกล 170 km. (มาตรฐาน WLTP)
ทำอัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุด Top Speed ที่ 240 km/h
Highlights สำคัญของ BMW i7 ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ นำมาใช้ และ เปิดตัวครั้งแรกในโมเดลนี้ เช่น Theatre Screen หน้าจอเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ขนาด 31.3 นิ้ว อัตราส่วน ratio 32:9 Cinema Lounge รองรับความละเอียดระดับ 8K และ ระบบเสียงพรีเมียม Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound 1,965 watts ลำโพง 36 ตัว