The BMW 430i Convertible M Sport
Highlight | 2022.05.01

The BMW 430i Convertible M Sport

BMW สองประตูแบบ Convertible เป็นรถที่คู่ใจชาวบิมเมอร์ทั่วโลกมานาน พวกมันมีราคาค้างฟ้าในตลาดมือสองทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทย ต่างจากพี่น้องสี่ประตูร่วมสายเลือดที่โชคชะตาในตลาดมือสองเป็นไปตามวิถีปกติของรถที่สังขารร่วงโรยไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น เว้นแต่จะเป็นพวกรุ่นพิเศษอย่างตระกูล M ทั้งหลาย แต่การที่ BMW สองประตูได้รับความนิยมแม้ว่าจะตกรุ่นไป 20-30 ปีแล้วไม่ได้เกิดจากการมีประตูน้อยบานของพวกมันเพียงอย่างเดียว BMW 3 Series Convertible รุ่นแรกของโลกที่เปิดตัวในงาน IAA International Motor Show ณ Frankfurt เมื่อกว่า 35 ปีก่อนมีงานออกแบบที่สะกดทุกสายตาด้วยเส้นสายของตัวรถที่เรียบและสะอาด ซึ่งทำให้รถดูแนบสนิทไปกับพื้นถนนท่ามกลางรถทั่วไปในสมัยนั้นที่มักจะมีระยะใต้ท้องมากจนดูสูงโย่ง มันยังดูสปอร์ตและสง่างามอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย และแม้ว่ามันจะถูกหั่นหลังคาทิ้งไปเพื่อการสัมผัสกับสายลมธรรมชาติที่อาจต้องแลกมากับคุณภาพการขับขี่ที่ลดทอนลงไป แต่วิศวกรบีเอ็มดับเบิลยูก็ยังคงดีเอ็นเอการขับที่สนุกสนานตามแบบ BMW ขนานแท้ไว้ได้อย่างครบถ้วน เหตุผลทั้งหมดทั้งปวงที่ว่ามานี่แหละที่ทำให้ BMW สองประตูมีมนต์ขลังไม่เคยเสื่อมคลาย และนั่นก็ทำให้ BMW 430i Convertible M Sport รุ่นล่าสุดที่ บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) เปิดตัวไปในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมามีความพิเศษอยู่ไม่น้อย

Read more
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport

ใน BMW 4 Series Convertible รุ่นล่าสุด แม้ว่าจะมีดีไซน์ด้านหน้ารถพร้อมกระจังหน้าด้วยภาษาการออกแบบของ BMW ในยุคใหม่ แต่เมื่อมองตั้งแต่เสากระจกหน้าเป็นต้นไปก็จะพบกับเส้นสายเรียบสนิทอันเป็นเอกลักษณ์ที่ตราตรึงใจคนทั่วโลกไว้กับ BMW เปิดประทุนขนาดกลาง ซึ่งทำให้คุณรู้สึกอุ่นใจราวกับการได้กลับบ้านมารับประทานอาหารฝีมือคุณแม่ในวันที่พายุฤดูร้อนเข้าหลังจากติดล็อคดาวน์อยู่ต่างประเทศมานาน เส้นสายของ BMW 4 Series Convertible ยังคงลื่นไหลทั้งคัน และทำให้รถดูยาวแนบสนิทไปกับพื้นถนนโดยแฝงความสง่างามเอาไว้ โดยเฉพาะแนวตัวถังด้านบนขอบประตู (Shoulder line) ที่ต่อเนื่องเป็นเส้นตรงเส้นเดียวตั้งแต่เสากระจกบังลมหน้าไปจนถึงท้ายรถเมื่อประทุนถูกเปิดออก ตำแหน่งเบาะนั่งทั้งสี่จุดก็เป็นอีกเอกลักษณ์นึงที่รถรุ่นนี้ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารซึมซับไปกับสายลมธรรมชาติที่ไหลมาสัมผัสร่างกายเวลาเดินทางได้อย่างเต็มอิ่มมากขึ้น  นอกจากนี้ มันยังเป็นการย้อนกลับไปใช้หลังคาผ้าใบ (Soft top) เป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษหลังจากที่บีเอ็มดับเบิลยูตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้หลังคาแข็ง (Hard top) กับ BMW 3 Series Convertible มาตั้งแต่ปี 2004 อีกด้วย

 

กระนั้นวิศวกรของบีเอ็มดับเบิลยูก็รับรู้ถึงข้อดีและข้อเสียของหลังคาผ้าใบในอดีตเป็นอย่างดี พวกเขาจึงพัฒนาหลังคาผ้าใบของ BMW 4 Series Convertible รุ่นล่าสุดกันแบบเริ่มต้นใหม่หมดจากศูนย์ ตัวเนื้อหลังคาเป็นการนำแผ่นผ้าใบมาซ้อนกันหลายชั้น และมีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันทั้งความร้อน ความเย็น และเสียงรบกวนจากภายนอก ตัวโครงหลังคาใช้เป็น Panel Bow ซึ่งเป็นวัสดุสานแบบรังผึ้งเชื่อมต่อกัน จึงทำให้เวลาที่ปิดหลังคาจะไม่มีรอยพับหรือโครงหลังคาปูดออกมาจากเนื้อผ้าใบให้เสียอารมณ์ เส้นสายของตัวรถในตอนปิดหลังคาจึงสะอาดตาและลื่นไหลเสมือนรถคูเป้ หลังคาผ้าใบรุ่นล่าสุดยังลดน้ำหนักไปได้ถึง 40 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับหลังคาแข็งในรุ่นก่อน ใช้พื้นที่ในห้องสัมภาระท้ายรถน้อยลงเมื่อเปิดหลังคาออก และสามารถกางหรือพับได้ในเวลาแค่ 18 วินาที ตอนที่รถหยุดนิ่งหรือวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ด้วย

 

แต่การที่เป็นรถเปิดประทุนก็มีอีกเรื่องนึงที่ต้องจัดการ นั่นก็คือความแข็งแรงของตัวถังซึ่งส่งผลโดยตรงกับคุณภาพการขับนั่นเอง ลองนึกดูว่ารถยนต์ทั่วไปจะมีหลังคาและพื้นรถซึ่งเป็นโลหะทำหน้าที่เชื่อมส่วนหน้าและส่วนท้ายรถไว้ด้วยกัน การถอดหลังคาทิ้งไปแล้วเปลี่ยนเป็นผ้าใบมาแทนที่จึงเหมือนกับการตัดชิ้นส่วนที่เชื่อมออกไปหนึ่งชิ้น ทำให้ตัวถังของรถบิดตัวได้มากขึ้นในเวลาเข้าโค้ง เลี้ยว หรือเจอผิวถนนที่ไม่เรียบ ซึ่งมันลดทอนคุณภาพการขับขี่ลงโดยตรง BMW 4 Series Convertible จึงมีการเสริมความแข็งแรงชดเชยเข้าไปเพื่อให้กลับมาใกล้เคียงกับรุ่นซีดานหรือคูเป้ ตั้งแต่ค้ำเบ้าโช้คกับแผงไฟร์วอลล์ในห้องเครื่อง ค้ำเบ้าโช้คกับคานหน้ารถ แผ่นอะลูมิเนียมแนวขวางที่ใต้ท้องบริเวณหน้ารถ เหล็กค้ำบริเวณล้อหลัง เหล็กค้ำอีกชุดเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของท้ายรถ เหล็กดามใต้สเกิร์ตข้างด้านซ้ายและขวาของตัวรถที่มีต้านการบิดตัวได้ดีเป็นพิเศษ แผ่นพื้นรถใต้เบาะนั่งหลังแบบสองชั้น อุโมงค์เพลาเสริมความแข็งแรง และแผ่นพื้นรถด้านหลังที่เสริมความแข็งแรงเป็นพิเศษ ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้ทำให้ BMW 4 Series Convertible รุ่นใหม่มีความแข็งแกร่งต่อการบิดตัวได้ดีกว่ารุ่นก่อนถึง 4% ซึ่งคงพอเห็นแล้วว่า BMW 4 Series Convertible ไม่ใช่การนำเอา BMW 3 Series Sedan มาหั่นประตูทิ้งไปสองบานและหลังคาอีกหนึ่ง แต่มันมีการเปลี่ยนแปลงมหาศาลจนแทบจะเป็นรถคนละคัน

The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport

นอกเหนือจากนั้นแล้ว งานดีไซน์ของ BMW 430i Convertible M Sport ก็คือ BMW 4 Series รุ่นปัจจุบันที่เรารู้จักกันดี กระจังหน้าไตคู่ที่โดดเด่นที่สุดใน BMW ยุคปัจจุบันถ้าไม่นับ BMW iX, BMW X7 LCI, The New BMW 7 Series และ i7 ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอดีต ฝากระโปรงหน้าดีไซน์คล้ายลูกศรที่กำลังชี้ไปด้านหน้าพร้อมมีโลโก้ BMW ปักอยู่ตรงกลางหัวลูกศร ไฟหน้าดีไซน์เรียวเล็กกว่ารุ่นก่อนๆ แบบ Adaptive LED พร้อมไฟส่องสว่างขณะขับในเวลากลางวันแบบตัว U ช่องรับอากาศ Air Curtains ขนาดใหญ่ในแนวตั้งที่มุมกันชนซ้ายและขวา ซึ่งสอดรับกับแก้มท้ายขนาดเขื่องและครีบระบายอากาศสี Dark Shadow พร้อมกับดิฟฟิวเซอร์กันชนสีดำเงา High-gloss Black ส่วนไฟท้ายแบบเรียวบางรมดำรูปตัว L ที่ยื่นยาวเข้ามาในตัวถังรถเพื่อเพิ่มความโฉบเฉี่ยวอย่างมีสไตล์

 

ภายในใช้ดีไซน์ร่วมกับ BMW 3 Series ตกแต่งด้วยเบาะนั่งแบบสปอร์ต พวงมาลัยหนัง M Sport แผงคอนโซลตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมลาย Tetragon เครื่องปรับอากาศ 3 โซน เครื่องเสียง Harman Kardon จอควบคุมกลางและมาตรวัดแบบ BMW Live Cockpit Professional ดิจิตอลเต็มรูปแบบ และมีระบบช่วยเหลือการขับ เช่น  Driving Assistant, Parking Assistant และ Adaptive cruise control with Stop & Go ที่ทำงานจนถึงจุดหยุดนิ่ง สีภายในขึ้นอยู่กับสีตัวถังภายนอกโดยรถสีดำ Black Sapphire กับสีขาว Mineral White จะได้ภายในสีแดง Tacora Red, รถสีเทา M Brooklyn Grey จะได้ภายในสีน้ำตาลส้ม Mocha และสีฟ้า Tanzanite Blue จะได้ภายในสีดำ Black 

The BMW 430i Convertible M Sport
The BMW 430i Convertible M Sport

สิ่งที่จะแตกต่างไปจาก BMW 3 Series และ BMW 4 Series รุ่นอื่นๆ ก็คือระบบความปลอดภัยในกรณีพลิกคว่ำที่มีมาให้เฉพาะ BMW 4 Series Convertible ซึ่งจะปล่อยโครงโลหะที่ทำจากอะลูมิเนียมความแข็งแรงสูง ซึ่งในเวลาปกติจะซ่อนไม่ให้ใครเห็นอยู่ด้านหลังของพนักพิงศีรษะเบาะหลัง มันจะทำงานด้วยการจุดระเบิดให้ยื่นโครงดังกล่าวออกมาภายในเสี้ยววินาที โดยทำงานร่วมกับเสากระจรกบังลมหน้าเพื่อสร้างให้เกิดโซนปลอดภัยบริเวณเหนือศีรษะของคนขับและผู้โดยสารนั่นเอง

 

สุดท้ายก็คือในด้านขุมพลัง BMW 430i Convertible M Sport ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบ Multistage พละกำลัง 258 แรงม้า กับแรงบิด 400 นิวมันเมตร ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Sport Steptronic ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ใน 6.2 วินาที กับความเร็วสูงสุดที่ล็อคไว้ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาพร้อมฟังก์ชัน Sprint ให้คนขับสามารถดึงแพดเดิลชิฟท์ฝั่งลบค้างไว้ แล้วรถจะเปลี่ยนไปเกียร์ต่ำสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ให้ทันที ม้าทั้งฝูงจะถูกปรามด้วยคาลิปเปอร์เบรกดีไซน์ M Sport สีแดงเงาที่ซ่อนอยู่ด้านหลังล้อขนาด 8 x 19” และ 8.5 x 19” ที่ด้านหน้าและด้านหลังตามลำดับ

 

คุณผู้อ่านที่สนใจ สามารถติดตามการเปิดจองผ่านช่องทางออนไลน์ได้เร็วๆ นี้ ที่ Facebook: BMW Thailand หรือ ลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสารได้แล้ววันนี้ที่ลิงก์ด้านล่าง

 

ขอให้มีความสุขกับ BMW ทุกวันครับ