Our tool for managing your permission to our use of cookies is temporarily offline. Therefore some functionality is missing.
Highlight | 2021.10.01
BMW 320Li Gran Sedan. Making All The Differences.
“Legroom” หรือพื้นที่วางขา คือเรื่องที่ผู้ผลิตรถยนต์มักจะนำขึ้นมาพูดถึงอยู่เสมอ นั่นก็เพราะคนจำนวนไม่น้อยให้ความสำคัญกับความโปร่งสบายในขณะที่พวกเขาต้องใช้เวลาอยู่ในรถสักคันนึง การจะนั่งอยู่ในรถนานๆ โดยไม่รู้สึกเมื่อยล้าในเวลาเดินทางไกล เราก็คงต้องการพื้นที่ว่างที่สามารถยืดขาและวางเท้าได้อย่างสบาย แล้วมันก็ยังมีส่วนอื่นๆ ประกอบกันด้วย เช่น Headroom หรือพื้นที่ว่างเหนือศีรษะ Shoulder room พื้นที่บริเวณไหล่ หรือความนุ่มของตัวเบาะกับวัสดุที่อยู่รอบๆ ที่เราต้องสัมผัสอยู่แทบจะตลอดเวลา
ในสมัยก่อนหลักการง่ายๆ เวลาเลือกซื้อรถก็คือ ถ้าต้องการรถที่มี Legroom มาก ก็เริ่มมองไปที่รถรุ่นใหญ่ได้เลย ซึ่งก็จะได้วัสดุระดับพรีเมียมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และยังมักจะมีรุ่นฐานล้อยาวมาเป็นตัวเลือกเพิ่มจากรุ่นปกติด้วย แต่วันนี้มันไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เฉพาะเรือธงสูงสุดของค่ายอีกต่อไปแล้ว เพราะบีเอ็มดับเบิลยูได้เปิดตัว BMW 320Li Gran Sedan รุ่นฐานล้อยาว โดยที่ตัว L นั้นก็มาจากคำว่า Long wheelbase เพื่อตอบโจทย์คนต้องการรถขนาดกระทัดรัด แต่มีพื้นที่ Legroom กว้างๆ ให้ทุกคนในครอบครัวเดินทางได้อย่างสะดวกสบายมาให้เป็นอีกทางเลือกนึงแล้ว
BMW 320Li Gran Sedan นับว่าเป็น 3 Series รุ่นฐานล้อยาวรุ่นที่สองที่เปิดตัวในประเทศไทย ต่อจาก BMW 330Li Gran Sedan M Sport ที่เปิดตัวไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และทำให้บีเอ็มดับเบิลยูอนุกรมเลข 3 เจาะตลาดแบ่งออกเป็นสองกลุ่มอย่างชัดเจน กลุ่มแรกคือคนที่ชื่นชอบสมรรถนะและบุคลิกแบบสปอร์ต ซึ่งตอบโจทย์ด้วย BMW 3 series รุ่นฐานล้อปกติอย่าง BMW 330e M Sport กับ BMW 320d M Sport และกลุ่มที่สองคือคนที่เน้นความสะดวกสบายแต่ยังคงสมรรถนะตามแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยูเอาไว้ ด้วย BMW 330Li Gran Sedan และ BMW 320Li Gran Sedan
ถ้าสงสัยว่ามันมีพื้นที่วางขาเพิ่มขึ้นขนาดนั้นจริงไหม ฐานล้อยาวขึ้นแล้วห้องโดยสารยาวขึ้นด้วยหรือเปล่า? ก็คงต้องบอกว่าวิศวกรบีเอ็มดับเบิลยูทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาที่สุด BMW 3 Series Gran Sedan ถูกขยายฐานล้อจาก BMW 3 Series ไปอีก 110 มิลลิเมตร มิติตัวรถทั้งคันก็ยาวขึ้น 110 มิลลิเมตร ประตูคู่หลังยาวขึ้น 110 มิลลิเมตร ถ้าสรุปให้เข้าใจแบบง่ายๆ มันก็คือ BMW 3 Series รุ่นปกติที่ครึ่งคันหน้าเหมือนเดิม แต่ครึ่งคันหลังถูกยืดออกไปเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายเข้ามา
หน้าตาภายนอกมีความใกล้เคียงกับ BMW 3 Series รุ่นปกติมาก จะแตกต่างกันก็เพียงการตกแต่งแบบ Luxury ที่ช่องรับลมที่มุมกันชนทั้งสองฝั่งที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่องดักลม NAAS ของอากาศยานจะมีโครเมียมอยู่รอบๆ และช่องรับลมที่ขนาบช่องรับลมกลางเป็นสีเดียวกับตัวรถ ด้านข้างเด่นด้วยล้ออัลลอย Multi-spoke สลับสี ขนาด 18 เฉพาะรุ่น BMW 320Li Gran Sedan และบานประตูหลังที่ยาวขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนด้านท้ายก็มีจุดเด่นอยู่ที่คิ้วโครเมียมที่ช่องระบายลมทรง NAAS กับปลายท่อไอเสีย 5 เหลี่ยมที่งานดีไซน์กลมกลืนเป็นส่วนเดียวไปกับกันชน เพื่อให้สอดคล้องกับบุคลิกความหรูหราสะดวกสบายของรถ และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของรถรุ่นนี้
ส่วนภายในห้องโดยสารมีบรรยากาศที่ดูผ่อนคลายขึ้นจากการตกแต่งแผงหน้าปัดและคอนโซลด้วยไม้ผิวเปิดสีด้าน Oak grain open-pored โดย BMW 320Li Gran Sedan ยังมีอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ ทั้ง BMW Live Cockpit Professional ระบบ BMW ConnectedDrive ฟังก์ชันสั่งงาน iDrive ด้วยการเคลื่อนไหวมือ (Gesture Control) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน ระบบ Parking Assistant และระบบความปลอดภัยครบถ้วนเหมือน BMW 330Li Gran Sedan ทุกประการ สิ่งที่แตกต่างไปมีเพียงเครื่องเสียงที่ BMW 320Li Gran Sedan เป็นแบบ Hifi loudspeaker ไม่มี Head-up Display และไม่มีระบบช่วยการขับขี่ Driving Assistant เพียงเท่านั้น
แต่แม้ว่าหน้าตาของห้องโดยสารจะดูคุ้นเคย บีเอ็มดับเบิลยูได้มีการปรับแต่งรูปร่างและฟองน้ำของเบาะหลังให้นั่งสบายขึ้นกว่า BMW 3 Series รุ่นปกติ รวมถึงพนักพิงศีรษะก็ถูกปรับปรุงดีไซน์และบุฟองน้ำให้นุ่มสบายพิเศษเช่นเดียวกันเพื่อให้คนนั่งหลังได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ Legroom ที่เพิ่มขึ้นมา 43 มิลลิเมตร จนยาวกว่า BMW 5 Series รุ่นปัจจุบันเสียอีก การปรับปรุงยังต่อเนื่องไปถึงพนักเท้าแขนกึ่งกลางเบาะหลัง ไฟ Ambient light ที่แผ่นพลาสติกด้านหลังของเบาะหน้า ช่องเสียบหนังสือหลังพนักพิงเบาะหน้าที่ใหญ่โตขึ้น และหลังคากระจก Panoramic glass roof เพื่อความโปร่งโล่งสบายมากที่สุด
มาถึงขุมพลัง BMW 320Li Gran Sedan ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ TwinPower Turbo 184 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.1 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 235 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถ้าสรุปกันสั้นๆ BMW 320Li Gran Sedan ก็คือ BMW 320i ที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือมีห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายมากขึ้น แต่ยังไม่ทิ้งสมรรถนะความแรงตามแบบฉบับ BMW ไป
และนั่นก็น่าจะตอบโจทย์หลายครอบครัวที่ไม่ต้องการรถขนาดใหญ่ที่ราคาสูงกว่า แต่อยากได้พื้นที่ห้องโดยสารเพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี BMW 320Li Luxury จำหน่ายที่ราคา 2.469 ล้านบาท พร้อม BSI Standard รับประกันตัวรถ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ฟรีค่าบำรุงรักษา BSI นาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร คุณผู้อ่านที่สนใจอยากสัมผัสและทดลองขับ สามารถติดต่อได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการใกล้บ้านได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมเตรียมรับโปรโมชันพิเศษที่มีเฉพาะในเดือนตุลาคม 2564 นี้อีกด้วย
ขอให้มีความสุขกับ BMW ทุกวันครับ