Our tool for managing your permission to our use of cookies is temporarily offline. Therefore some functionality is missing.

BMW X1 LCI
รถยนต์หนึ่งรุ่นมีความสำคัญกับแบรนด์ผู้ผลิตรายนึงมากแค่ไหน? ผมเชื่อว่าคำตอบในใจคนอ่าน BMW Fascination นั้นคงจะหลากหลาย BMW 7 Series สำคัญกับแบรนด์ในฐานะเรือธงที่ตรึงคุณค่าความเป็นรถตลาดบนของบีเอ็มดับเบิลยูเอาไว้ และเป็นสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี BMW i8 สำคัญกับแบรนด์ในฐานะรถสปอร์ตพลังไฟฟ้าที่ฉีกทฤษฎีความเป็นไปได้ของคนส่วนใหญ่จนเป็นผุยผง ในขณะที่กลิ่นอายของสายพันธุ์รถสปอร์ตขนานแท้ยังตลบอบอวลไปทั่วคัน BMW X7 สำคัญกับแบรนด์ในฐานะการแสดงศักยภาพของระบบ BMW xDrive ที่สามารถพาคุณไปถึงจุดหมายลึกกลางป่าซึ่งอาจไม่มีถนนตัดถึงได้อย่างหรูหรา แต่ฝีเท้าของมันบนทางเรียบนั้นยังแสดงบุคลิกและชาติพันธุ์ของ BMW ออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยม
คำถามก็คือมันจำเป็นที่จะต้องเป็นรถระดับเรือธงเท่านั้นไหมถึงจะมีความสำคัญกับแบรนด์ แล้วรถรุ่นอื่นๆ ที่อยู่ถัดลงมาตามลำดับชั้นของวงศ์ตระกูลมีความสำคัญกับแบรนด์อย่างไร หรือแม้แต่พวกมันมีบทบาทอะไรบ้าง? แม้ว่าเวลาที่เราพูดถึงรถยนต์แบรนด์นึง คนส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงความคิดไปหารถรุ่นที่มีความเป็นที่สุดสักหนึ่งด้านของค่าย แต่รถที่จะพาคนจำนวนมากๆ เข้ามาสัมผัสกับแบรนด์อย่างแท้จริงนั้นคือรถรุ่นที่ขายดี ซึ่งก็คือรถรุ่นกลางๆ หรือรุ่นเริ่มต้น พวกมันคือหน้าตาของแบรนด์ และในหลายครั้งก็เป็นประตูบานแรกสู่แบรนด์ด้วย มันคือตัวแทนนิยามของแบรนด์ในแต่ละยุคสมัยอย่างแท้จริง และนี่จึงทำให้ BMW X1 LCI มีความสำคัญไม่น้อยกว่าญาติผู้ใหญ่ของมัน
BMW X1 รุ่นปัจจุบันเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2016 ซึ่งเป็นการพลิกโฉมจาก BMW X1 รุ่นแรกที่เผยโฉมครั้งแรกในปี 2009 และสร้างยอดขายทั้งในประเทศไทยและในตลาดโลกได้อย่างถล่มทลาย มันเป็นฝีมือของนักออกแบบตัวเล็กหัวใจใหญ่อย่าง Calvin Luk ที่มีความฝันอยากเป็นนักออกแบบรถยนต์ที่ดีมาตั้งแต่เด็ก ที่มีจุดเริ่มต้นเกิดจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของ BMW AG ที่ไปประจำบูธ BMW ในงานมอเตอร์โชว์ที่ออสเตรเลีย และตัดสินใจส่งจดหมายถึง Chris Bangle เพื่อบอกความฝันของเขา เวลาผ่านไปราว 10 ปี ผลงาน Clay model ของเด็กวัยรุ่นคนนั้นได้ถูกคัดเลือกโดยทีมผู้บริหาร และทำให้เขากลายมาเป็นนักออกแบบที่รับผิดชอบโครงการ BMW X1 ใหม่ โดย Calvin ใช้ตุ๊กตา Kidrobot และบทเพลงของ Amy Lee จากวงร็อค Evanescence มาเป็นแรงบันดาลใจเพื่อสื่อถึงสิ่งของขนาดเล็กที่มีบุคลิกขึงขังและทรงพลัง ซึ่งเปรียบเสมือนจิตวิญญาณของ BMW X1 (และอาจจะตัวเขาเอง)
เมื่อถึงเวลาของ BMW X1 LCI ทีมออกแบบจึงต้องแน่ใจว่ามันจะยังรักษาคุณค่าของงานออกแบบเอาไว้ทุกเม็ด ในขณะที่หน้าตาและอุปกรณ์ถูกอัพเกรดให้ทันสมัย ด้านหน้าของตัวรถถูกปรับดีไซน์ใหม่หมดโดยหยิบยกภาษาการออกแบบมาจาก BMW X3 และ BMW X5 ใหม่ เริ่มจากไฟหน้า LED ดีไซน์แบบบีเอ็มดับเบิลยูยุคใหม่ กระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ตามยุคสมัย และไฟตัดหมอก LED แบบแถบนอน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของ BMW ตระกูล X แทนการใช้ไฟกลม 6 ดวง ที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ BMW X5 รุ่นแรก ซึ่งทำให้ BMW X1 LCI ดูโดดเด่นและมีบุคลิกทะมัดทะแมงขึ้น ส่วนด้านท้ายเปลี่ยนไปใช้โคมไฟแบบตัว L และกันชนส่วนตรงกลางเป็นสีเดียวกับตัวรถ ด้านข้างมีล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ที่ดูเหมือนรุ่นพี่มากขึ้น และแอบลูกเล่นไว้ใต้กระจกส่องข้างฝั่งคนขับด้วยไฟสัญลักษณ์โลโก้ “X1” LED สองสี ที่จะส่องลงบนพื้นในตอนปลดล็อครถ ซึ่งทำให้การขึ้นหรือลงจากรถในตอนกลางคืนสะดวกขึ้นมาก








BMW X1 LCI ในประเทศไทยจะมาพร้อมกับการตกแต่ง 3 รูปแบบ คือ
Iconic (BMW X1 sDrive18i) ใช้ราวหลังคาสีดำด้าน ภายในได้เบาะหนัง Dakota พวงมาลัยหนังดีไซน์สปอร์ต และตกแต่งแผงหน้าปัดด้วยวัสดุดำเงาพร้อมแถบโครเมียม และฟีเจอร์การนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ Parking Assistant
xLine (BMW X1 sDrive20d xLine) เน้นบุคลิกทะมัดทะแมงด้วยชุดแต่งภายนอก xLine ราวหลังคาสีอะลูมิเนียมด้าน ล้ออัลลอย Y-spoke แบบสลับสีขนาด 18 นิ้ว ภายในสิ่งที่เพิ่มมาจาก BMW X1 sDrive18i คือ เบาะหนัง Dakota พร้อมรูระบายอากาศ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า BMW Head-up Display ระบบนำทางรุ่น Plus กล้องแสดงภาพด้านหลัง ระบบ Comfort Access และตกแต่งแผงหน้าปัดด้วยลายไม้ Oak Grain
M Sport (BMW X1 sDrive20d M Sport) เน้นบุคลิกความสปอร์ตด้วยล้ออัล M Double-spoke แบบสลับสีขนาด 19 นิ้ว ชุดแต่งภายนอก M Sport และ M Aerodynamics ราวหลังคาสีดำเงา ภายในสิ่งที่เพิ่มมาจาก BMW X1 sDrive20d xLine คือเบาะนั่งหนัง Dakota เจาะรูระบายอากาศดีไซน์สปอร์ต พวงมาลัยดีไซน์ M Sport เพดานหลังคาสี Anthracite และตกแต่งแผงหน้าปัดด้วยอะลูมิเนียมลาย Finely brushed lengthwise พร้อมแถบโครเมียม ซึ่งทำให้ห้องโดยสารดูสว่าง ทันสมัย และมีรายละเอียดที่น่าสนใจขึ้นมาก







ในด้านขุมพลัง BMW X1 LCI มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบเช่นเดิม คือ เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ TwinPower Turbo ความจุ 1.5 ลิตร พละกำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร เชื่อมต่อกับเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ Steptronic 7 จังหวะ ที่ให้ความรู้สึกขณะเปลี่ยนเกียร์แบบไร้รอยต่อ (แบบเดียวกับที่อยู่ใน BMW X2) สำหรับรุ่น BMW X1 sDrive18i และเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ TwinPower Turbo ความจุ 2.0 ลิตร พละกำลัง 190 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร เชื่อมต่อกับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 จังหวะ
คุณผู้อ่าน BMW Fascination ที่สนใจ สามารถสัมผัสและรับชม BMW X1 LCI ตัวเป็นๆ ได้ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โประหว่างวันที่ 1-13 ธันวาคม 2563 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี นี่อาจจะเป็นประตูสู่ BMW บานแรกที่ถูกเปิดออกสำหรับสมาชิกในครอบครัวก็เป็นได้
ขอให้มีความสุขกับ BMW ทุกวันครับ