Our tool for managing your permission to our use of cookies is temporarily offline. Therefore some functionality is missing.
The new BMW X3 xDrive30e M Sport
BMW Fascination เดือนนี้ เรายังคงอยู่กับรถยนต์ตระกูล X ที่เป็นแฝดต่างฝากับ BMW X4 xDrive20d M Sport X ในฉบับที่แล้ว มันคือ BMW X3 รถยนต์ SAV ขนาดกลางของ BMW ซึ่งในวันนี้กำลังจะมีรุ่นย่อยใหม่ BMW X3 xDrive30e M Sport เข้ามาเสริมทัพ รายละเอียดและความแตกต่างจาก BMW X3 xDrive20d จะเป็นอย่างไร ติดตามกันได้ในฉบับนี้ครับ
BMW X3 xDrive30e M Sport คือ BMW X3 รุ่นปัจจุบันที่วางขายในประเทศไทยด้วยรุ่นย่อย BMW X3 xDrive20d xLine และ M Sport แต่มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์จากดีเซลสี่สูบ 2.0 ลิตร TwinPower Turbo 190 แรงม้า มาเป็นเบนซินสี่สูบ 2.0 ลิตร TwinPower Turbo ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าตามแบบฉบับ BMW ที่รหัสรุ่นมีตัวอักษร ‘e’ ต่อท้าย ทำให้มีแรงม้าเพิ่มขึ้นจากรุ่นดีเซลอีก 102 ตัวในคราวเดียว รวมเป็น 292 แรงม้า ทั้งหมดอยู่ภายใต้ตัวรถที่มองอย่างผิวเผินแล้วก็แทบจะไม่ทราบว่ามันไม่ใช่ BMW X3 xDrive20d ที่คุ้นเคยกันดี ถ้าไม่ใช่เพราะรหัสรุ่นบนฝาท้ายและ Flap บนบังโคลนหน้าซ้ายสำหรับชาร์จไฟที่บ่งบอกว่านี่คือรถยนต์ประเภทปลั๊กอินไฮบริดหรือ PHEV
แต่ถ้าจะบอกว่ารูปลักษณ์ภายนอกไม่มีความแตกต่างกันเลยก็คงจะไม่ถูกสักเท่าไร เพราะ BMW X3 xDrive30e M Sport จะมาทำตลาดในฐานะรุ่นท้อปใหม่สำหรับ BMW X3 ในประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จึงสั่งออพชันเพิ่มเติมมาให้เพื่อสร้างความแตกต่าง ทั้งไฟหน้า Adaptive LED พร้อมระบบ High-beam assistant ล้ออัลลอยเส้นผ่าศูนย์กลาง 20” ความกว้างล้อหน้าและล้อหลังต่างขนาดกัน รวมไปถึงชุดคาลิปเปอร์เบรก M Sport เพื่อการปรามม้าหน้าใหม่อีกหนึ่งกองร้อยให้สงบนิ่ง
เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในจะพบกับกลิ่นอายห้องโดยสารที่คุ้นเคย ทริมบนคอนโซลและแผงประตูจะถูกตกแต่งด้วยอลูมิเนียมลาย Rhombicle พร้อมกรอบโครเมียมสี Pearl chrome เช่นเดียวกับ BMW X3 xDrive20d M Sport แต่ความแตกต่างที่ชัดเจนนั้นอยู่ในส่วนของมาตรวัดที่อยู่ตรงหน้าคนขับ ซึ่งได้รับการอัพเดทให้เป็น BMW Live Cockpit Professional อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมระบบ BMW Head-Up Display เรียบร้อยแล้ว มาตรวัดแบบนี้อาจจะต้องปรับตัวกันในตอนใหม่ๆ แต่พอเริ่มคุ้นเคยก็จะพบว่ามันสามารถแสดงข้อมูลต่างๆ ได้ดี โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในรถยนต์ PHEV ที่มีหลายโหมดการขับขี่ ส่วนเครื่องเสียงก็ได้รับอัพเกรดเป็น Harman/Kardon ที่ขับกล่อมโสตประสาทได้เสนาะหูขึ้นกว่าเก่า
ทั้งหมดที่ว่ามานั้นเป็นเพียงการเกริ่นนำ เพราะความโดดเด่นที่แท้จริงของ BMW X3 xDrive30e M Sport นั้นอยู่ที่ระบบไฮบริดของมัน และถ้าจะพูดให้เจาะจงลงไปอีกก็คือแบตเตอรี่ขนาดความจุ 12.0 kWh ซึ่งใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดของ BMW จนทำให้มีขนาดเล็กจนวางซ่อนอยู่ใต้เบาะหลังได้ และยังทำให้รถวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ถึง 55 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP แบบใหม่) ตัวแบตเตอรี่สามารถชาร์จผ่านไฟบ้านจนเต็มในเวลาประมาณ 6 ชั่วโมง หรือผ่าน BMW iWallbox ในเวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมง ถังน้ำมันถูกย้ายตำแหน่งไปอยู่เหนือชุดเพลาขับด้านหลังและมีขนาดเล็กลงเล็กน้อย ทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถยังมีขนาดใกล้เคียงกับ BMW X3 xDrive20d ทั้งตอนนั่งแบบปกติและพับเบาะ 40:20:40 ที่ระหว่าง 450 – 1,500 ลิตร
ความโดดเด่นอีกเรื่องก็คือการที่เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าถูกวางตำแหน่งไว้หน้าเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport Transmission แบบ 8 จังหวะ (BMW X3 xDrive20d จะเป็นเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ธรรมดา) และระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ xDrive ทำให้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อยังใช้ได้ในทุกโหมดไม่เว้นแม้แต่ไฟฟ้าล้วน BMW X3 xDrive30e M Sport สามารถใช้ไฟฟ้าอย่างเดียวขับด้วยความเร็วสูงสุด 135 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในโหมด Electric หรือ 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในโหมด Auto e-Drive มันสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 6.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพิ่มความเผ็ดร้อนให้กับ BMW X3 ที่แฟน BMW หลายท่านอาจจะโหยหามานาน และครั้นจะขยับขึ้นไปเป็น BMW X5 ก็อาจจะใหญ่โตจนเกินความต้องการไป
ในรถยนต์ตระกูล X ของ BMW นั้น BMW X5 คือต้นตระกูลของ SAV ส่วน BMW X6 คือต้นแบบของรถยนต์อเนกประสงค์คูเป้ SAC ทั้งมวลบนโลกนี้ ทว่าในยุคแห่งทศวรรษ 2020 นั้น BMW X3 จะรับหน้าที่ชายกลางผู้นำร่อง SAV ที่มีขุมพลังครบทุกรูปแบบให้เลือก ทั้งดีเซล (xDrive20d และ xDrive30d) เบนซิน (M40i และ X3 M) ปลั๊กอินไฮบริด (xDrive30e) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในอนาคตอีกไม่ไกลนี้ (BMW iX3) เพียงเท่านี้ก็ทำให้การได้นั่งอยู่หลังพวงมาลัยของเจ้า BMW X3 เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นขึ้นอีกมากทีเดียว
ขอให้มีความสุขกับ BMW ทุกวันครับ