Highlight | 2020.04.01

The All New BMW X6 xDrive30d M Sport

ถ้าเรามองรถยนต์ตระกูล X ของ BMW เป็นครอบครัวที่มีสมาชิกตั้งแต่น้องเล็กอย่าง BMW X1 ไปจนถึงพี่ชายคนโตอย่าง BMW X7 แล้ว BMW X6 ก็ดูเหมือนจะเป็นพี่ชายคนรองที่แต่งตัวเนี้ยบ มีสไตล์ โฉบเฉี่ยว และล้ำสมัยจนกลายเป็นปรากฏการณ์ในวงการแฟชันได้ในทุกเจนเนอเรชัน มันยังเป็นรถที่มีความสำคัญต่อวงการรถยนต์อเนกประสงค์ทั่วโลกด้วยเช่นกัน เพราะในขณะที่ BMW X5 เป็นผู้ให้กำเนิดนิยามของคำว่า Sports Activity Vehicle (SAV) BMW X6 คือรถที่สร้างนิยามของคำว่า Sports Activity Coupé (SAC) หรือรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีท้ายลาดลงในแบบคูเป้ที่ดูลื่นไหลและพลิ้วไหว การมาถึงของ BMW X6 เจนเนอเรชันแรกได้ฉีกแนวคิดของ SUV ทั่วโลกที่ยังมีรูปร่างราวกับกล่องสี่เหลี่ยมและดูบึกบึนจนไม่ค่อยจะเข้ากับสภาพแวดล้อมในเมือง ซึ่งกลายเป็นที่อยู่อาศัยหลักของรถประเภทนี้มาตั้งแต่ช่วงต้นยุค 2000s แล้ว

 

The All New BMW X6 เป็น BMW X6 เจนเนอเรชันที่สาม ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ทางด้านดีไซน์ที่ดูสะอาดตาแต่แสดงออกถึงความมั่นใจและอยู่เหนือทุกสถานการณ์ไว้เช่นเคย ในภาพรวมตัวรถมีขนาดขยายขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ BMW X6 รุ่นก่อน โดยมีความยาวเพิ่มขึ้น 26 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 15 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาวขึ้น 42 มิลลิเมตร และเตี้ยลง 6 มิลลิเมตร ทำให้รูปร่างดูเหยียดยาวและทะมัดทะแมงขึ้น ในขณะเดียวกันก็ดูบึกบึนมากกว่าทุกเจนเนอเรชันที่ผ่านมาด้วยมัดกล้ามบนตัวถัง และช่องระบายอากาศต่างๆ ที่มีดีไซน์ดุดันขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน

 

จุดเด่นของงานดีไซน์เริ่มจากด้านหน้ารถที่แตกต่างจาก BMW X5 รุ่นปัจจุบันในแทบทุกจุด เริ่มจากกระจังหน้าไตคู่ของ BMW ขนาดใหญ่ที่ติดกันเป็นชิ้นเดียวและมีปลายแหลมที่ขอบด้านนอก และมีออพชันไฟเรืองแสง Illuminated BMW Kidney Grille ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยไฟเรืองแสงจะสว่างขึ้นเมื่อมีการล็อคหรือปลดล็อครถ รวมถึงในระหว่างการขับขี่ ซึ่งคนขับสามารถเลือกเปิดหรือปิดไฟเรืองแสงนี้ได้เองด้วย สิ่งที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเช่นเดียวกันคือไฟหน้าแบบเลเซอร์ BMW Laserlight ที่มีฟีเจอร์ Selective Beam ซึ่งสามารถกระจายหรือรวมลำแสงไฟหน้าไม่ให้รบกวนสายตาของผู้อื่นบนท้องถนน และยังสามารถส่องทะลุความมืดไปได้ไกลถึง 500 เมตร และยังเพิ่มรายละเอียดให้กับการออกแบบด้านหน้าด้วยสัญลักษณ์ตัว X สีฟ้าภายในชุดโคมไฟทั้ง 4 ดวง ส่วนมุมมองจากด้านข้างมีสัดส่วนตามแบบฉบับ SAC ยุคใหม่ของ BMW ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ BMW X4 ในปี 2018 ด้วยการลากเส้นสายระดับไหล่ (Character line) ที่เด่นชัด กับแนวหลังคา (Roofline) ที่ลื่นไหลจนดูเหมือนกับกำลังเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

Read more

ก่อนที่จะเข้าสู่ภายใน BMW X6 จะต้อนรับคุณด้วยไฟพรมส่องสว่างด้านข้างตัวรถ Welcome Light Carpet และเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบกับเบาะนั่งหุ้มหนัง Vernasca ที่ให้ความรู้สึกนุ่มละมุนเป็นมาตรฐาน หลังคากระจก Panorama glass roof Sky Lounge ที่มีไฟ LED แสดงผลได้หลากหลายรูปแบบ คอนโซลหน้าดีไซน์แบบ BMW ยุคใหม่ที่ดูสปอร์ตและทันสมัย ซึ่งช่วงกลางยังคงเอียงตัวเข้าหาคนขับเพื่อการควบคุมที่สะดวกในระยะเอื้อมมือถึง แสดงถึง DNA การเป็นรถยนต์สำหรับนักขับที่ไหลวนอยู่ในรถยนต์ BMW ทุกรุ่นมาตั้งแต่อดีต ระบบการแสดงผล BMW Live Cockpit Professional ประกอบไปด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้ว บนคอนโซลกลาง ซึ่งสามารถควบคุมได้จากการใช้นิ้วสัมผัส การเคลื่อนไหวมือ (Gesture control) หรือชุดควบคุม iDrive และมาตรวัดดิจิตอลเต็มรูปแบบ พร้อมกับฟีเจอร์ BMW Intelligent Personal Assistant ผู้ช่วยดิจิตอลที่สามารถเรียกใช้ผ่านการพูดคีย์เวิร์ด “สวัสดี BMW” ที่คนขับสามารถเปลี่ยนชื่อเรียก เช่น จอห์น บีเวอร์ หรือชื่ออื่นๆ เพื่อให้รู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้นได้ ซึ่งนอกจากผู้ช่วยจะสามารถทำงานได้แบบเดียวกับที่พบในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ แล้ว ก็ยังสามารถช่วยสอนคนขับใช้ฟีเจอร์หรือแสดงข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัวรถได้ด้วย ความสามารถของผู้ช่วยดิจิตอลจะพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่านการอัพเดทซอฟต์แวร์ทางสมาร์ทโฟนหรือระบบ Remote Software Upgrade อัตโนมัติที่ติดมากับตัวรถ

 

ถัดลงมาจากแผงควบคุมจะเป็นแท่นชาร์จอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ไร้สาย ซึ่งสามารถชาร์จได้ทั้งกุญแจ BMW Display Key และสมาร์ทโฟนที่ตอนนี้ใช้ปลดล็อครถผ่านฟีเจอร์ Smart Access ได้ด้วยการนำสมาร์ทโฟน Android ไปแตะที่มือจับประตูด้านนอก และที่วางแก้วสองจุด Thermoelectric cup holders ที่สามารถรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นได้แยกกันอย่างอิสระ BMW X6 ใหม่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยเหลือในการขับขี่เต็มรูปแบบ Driving Assistant Professional เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งรวมเอาไว้ตั้งแต่ฟีเจอร์มาตรฐานอย่างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟีเจอร์การเบรก ระบบการปรับความเร็วตามรถคันหน้า (Active Cruise Control) พร้อมฟีเจอร์ Stop & Go รองรับกรณีรถติดในเมือง ระบบเตือนและหยุดรถป้องกันการชนและคนข้ามถนนด้านหน้า (Collision and Pedestrian Warning with City Braking) ระบบเตือนและช่วยบังคับให้รถอยู่ในเลน ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชน (Evasion Assist) ที่เพิ่มความปลอดภัยในกรณีที่ต้องเบรกและหักหลบกระทันหันเมื่อมีอุปสรรคด้านหน้าในระยะกระชั้นชิด โดยตัวรถจะเพิ่มแรงดันในระบบเบรกไว้ล่วงหน้า และช่วยเสริมแรงให้คนขับสามารถหมุนพวงมาลัยได้สะดวกขึ้น ระบบเตือนการชนด้านหลัง ระบบเตือนเมื่อมีรถวิ่งตัดผ่านพร้อมเบรกอัตโนมัติ ระบบเตือนจุดอับทางสายตา รวมถึงระบบช่วยถอยหลังย้อนกลับเส้นทางเดิม เมื่อคุณขับไปพบกับทางตันและมีลักษณะคับแคบ และจำเป็นต้องถอยหลังกลับออกมาสถานเดียว

 

BMW X6 xDrive30d M Sport ใช้เครื่องยนต์ดีเซลหกสูบเทคโนโลยี TwinPower Turbo ขนาดความจุ 3.0 ลิตร ผลิตแรงม้าได้สูงสุด 265 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร พ่วงเข้ากับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ และระบบการขับเคลื่อน BMW xDrive ที่สามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้าและหลังได้อย่างอิสระ ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสร้างความมั่นใจในการเรียกใช้สมรรถนะเหล่านั้นด้วยช่วงล่าง Adaptive M Suspension Professional ระบบถุงลมทั้งด้านหน้าและหลัง ซึ่งสามารถปรับระดับความสูงอัตโนมัติตามสภาพการขับขี่หรือสั่งผ่านกุญแจ Display Key ได้มากถึง 80 มิลลิเมตร และมาพร้อมกับฟีเจอร์ Active roll stabilization กับ Integral Active Steering ที่สามารถปรับมุมเลี้ยวล้อหลังไปตามหรือสวนทางกับล้อหน้าตามแต่ละสถานการณ์ เพื่อให้การขับขี่คล่องตัวยิ่งขึ้น

 

คุณผู้อ่านที่สนใจสามารถแวะไปชมรายละเอียดและทดลองขับได้ที่โชว์รูม BMW อย่างเป็นทางการใกล้บ้านท่านครับ

 

ขอให้มีความสุขกับ BMW ทุกวันครับ