Our tool for managing your permission to our use of cookies is temporarily offline. Therefore some functionality is missing.
The First-Ever BMW X3M and BMW X4M
นี่คือกบฏเวอร์ชันล่าสุดแห่งหมู่มวลรถยนต์ครอบครัวตั้งแต่ SUV ไปจนถึง MPV ทั่วโลก ซึ่งหน้าที่หลักของพวกมันคือการขนสมาชิกครอบครัวไปทุกหัวระแหงแบบไม่มีใครตกหล่นอยู่ข้างหลัง และอัตราเร่ง การยึดเกาะ และแฮนด์ลิงอันสนุกสนานก็ถูกจัดเรียงลำดับความสำคัญเอาไว้ท้ายตาราง มันเป็นรถที่ทำให้พ่อบ้านที่บ้ารถส่วนใหญ่อยากจะเมินหน้าหนี...แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นคำถามก็คือ รถครอบครัวจะขับสนุกด้วยได้ไหม? และนี่คือคำตอบจาก BMW ซึ่งไม่ได้มีแค่คันเดียวแต่มาถึงสอง พวกมันคือ BMW X3M และ BMW X4M
BMW X3M และ BMW X4M เป็น SAV และ SAC ขนาดกลางรุ่นแรกของ BMW M ต่อจากที่ BMW X5M และ BMW X6M รุ่นพี่ที่เคยปล่อยออกมาแล้วก่อนหน้านี้ เราจึงเรียกพวกมันว่า The First Ever BMW X3M และ BMW X4M มันทั้งคู่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียงที่ร้ายกาจที่สุดตั้งแต่ BMW เคยทำมาในรหัส S58 ความจุ 3.0 ลิตร ที่ BMW ทุ่มทุนพัฒนาลงไปมหาศาลเพื่อต่อยอดขึ้นมาจากเครื่องยนต์ S55 ที่ประจำการอยู่ใน BMW M3 และ BMW M4 รุ่นปัจจุบัน S58 ใช้เพลาข้อเหวี่ยงแบบฟอร์จ (Forged) ที่น้ำหนักเบาแต่ทนต่อแรงบิดสูงๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม และทำให้มันสามารถหมุนได้สูงสุดถึง 7,200 รอบ/นาที ตัวเสื้อสูบถูกออกแบบให้เป็นแบบไส้ตัน (Closed Deck) เพื่อความแข็งแรงทนทาน และยังเปิดโอกาสให้วิศวกรขยับกำลังอัดเพิ่มขึ้นเป็น 9.3:1 เพื่อพละกำลังที่สูงขึ้น ส่วนฝาสูบผลิตด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติ (3D printing) ซึ่งทำให้ลดเนื้อโลหะส่วนเกินเมื่อเทียบกับกรรมวิธีหล่อขึ้นรูป (Cast) ไปได้มาก และยังทำให้สามารถวางท่อน้ำระบายความร้อนได้ซับซ้อนขึ้น ซึ่งจะช่วยให้จัดการกับอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้ดีขึ้นด้วย
เครื่องยนต์ S58 ถูกประกบเข้ากับเทอร์โบเทคโนโลยี M TwinPower Turbo แบบ Mono-scroll จำนวนสองตัว โดยแต่ละลูกจะรับหน้าที่ดูแลลูกสูบลูกที่ 1-3 และ 4-6 ตามลำดับ สามารถสร้างพละกำลังรุนแรงได้สูงถึง 473 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 442 ปอนด์ฟุต ตั้งแต่ 2,600 ไปจนถึง 5,900 รอบ/นาที นั่นทำให้ BMW X3M และ BMW X4M ทะยานถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลา 4.1 วินาที ผ่านความช่วยเหลือของเกียร์อัตโนมัติ M Steptronic 8 จังหวะ พร้อมระบบ Drive Logic ที่คนขับสามารถปรับโหมดการเปลี่ยนเกียร์ได้ 3 แบบ ก่อนจะไปสงบนิ่งที่ความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ล็อค) แต่ถ้าหากซื้อออพชัน M Driver’s Package เพิ่มเติม ความเร็วสูงสุดก็จะขยับขึ้นไปอยู่ที่ 277 กิโลเมตร/ชั่วโมง รับรองว่าสามารถพาภรรยาและลูกๆ ของคุณกลับจากทริปพักผ่อนแถบเขาใหญ่ในตอนพลบค่ำมาถึงบ้านได้แบบด่วนจี๋ แถมยังมีเวลาเตรียมตัวเช็คเอาท์สินค้าที่คัดสรรใส่ตะกร้า 11.11 เอาไว้เป็นอย่างพิถีพิถันด้วยสัญญาณ 4G กลางเมืองหลวง และ Wi-Fi เสถียรภาพสูงที่บ้านคุณตอนเที่ยงคืนได้สบาย
หน้าที่หลักในการส่งม้าทั้ง 473 ตัว ลงสู่พื้นถนนแบบไม่พยศเป็นของ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ที่ในสถานการณ์ปกติจะถูกจูนมาให้เน้นส่งกำลังไปที่ล้อหลังมากกว่าเล็กน้อยเพื่อบุคลิกการขับขี่ที่สปอร์ตและเป็นเอกลักษณ์ของ BMW ส่วนในสถานการณ์อื่นๆ มันจะทำงานร่วมกับระบบ DSC เพื่อเลือกส่งกำลังไปยังล้อหน้าหรือหลังเพื่อการยึดเกาะสูงสุด จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของเฟืองท้าย Active M Differential ที่จะเลือกส่งกำลังไปที่ล้อหลังด้านซ้ายหรือขวาได้ตั้งแต่ 0-100% นอกจากนี้ BMW X3M และ BMW X4M ยังมี M Dynamic Mode ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ใน BMW M ทุกรุ่น ซึ่งจะลดระดับการทำงานของ DSC ลงไปอีกหนึ่งขั้น และทำให้ล้อหมุนฟรีได้มากขึ้น มันยังทำให้คนขับสามารถเข้าถึงออพชันระบบขับเคลื่อน 4WD Sport ที่เซ็ทมาให้ส่งกำลังไปล้อหลังมากยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย คนขับจึงสามารถทำ Drift ได้ราวกับฝึกปรือมาแล้วจนเทิร์นโปร แต่ไม่ห่อต้นไม้หรือจบที่ราวกั้นขอบทางด้วยความช่วยเหลือของระบบต่างๆ ของตัวรถ
ความดุดันทั้งหมดที่ว่ามาถูกห่อหุ้มเอาไว้ในแพ็คเกจของรถยนต์ SAV และ SAC ที่หน้าตาสปอร์ตขึ้นจากเวอร์ชันปกติเล็กน้อย ราวกับว่าพวกมันคือขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่อำพรางตัวเองไว้ในปืนฉีดน้ำ ด้านหน้าของตัวรถยังคงดีไซน์มีมัดกล้ามเหมือนกับ BMW อนุกรม X ทุกรุ่น โดยจุดแตกต่างจาก BMW X3 และ BMW X4 รุ่นปกติเริ่มตั้งแต่กระจังหน้าลายเอกลักษณ์ของ M สีดำซี่คู่ กันชนหน้าดีไซน์ใหม่เฉพาะรุ่น ถัดมาด้านข้างจะพบกับช่องระบายอากาศหลังซุ้มล้อหน้า Air Breathers ที่ผสมผสานดีไซน์ครีบบนแก้มข้างของ BMW M เข้าไปอย่างลงตัว อันที่จริงมันน่าจะเป็น Air Breathers ที่สวยที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้ และกระจกมองข้างดีไซน์เอกลักษณ์เฉพาะ BMW M ช่วยลดแรงเสียดทานอากาศ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ลายพิเศษสี Orbit Grey พร้อมยางขนาด 255/45ZR20 ที่ด้านหน้า และ 265/45ZR20 ที่ด้านหลัง ซึ่งซ่อนเบรก M compound แบบสี่ลูกสูบที่ด้านหน้าและหนึ่งลูกสูบที่ด้านหลังเอาไว้ ในขณะที่ด้านท้ายนั้นมีทั้งดิฟฟิวเซอร์บนกันชนท้ายดีไซน์เฉพาะรุ่น ขนาบด้วยปลายท่อไอเสียคู่ที่มุมทั้งสองด้าน และสปอยเลอร์ M-specific บนหลังคา ปิดท้ายความพิเศษกันด้วยคิ้วต่างๆ บนกันชนหน้า ซุ้มล้อ และขอบสเกิร์ตด้านข้างที่พ่นเป็นสีเดียวกับตัวรถแทนของรุ่นธรรมดาที่ตัดขอบด้วยสีดำด้าน
บรรยากาศภายในห้องโดยสารก็ให้ความรู้สึกพิเศษแบบรถตระกูล M ไม่แพ้กัน เบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง Vernasca ที่ประทับตรา BMW M เอาไว้ที่ส่วนบนของพนักพิง มีให้เลือกสองสีคือดำ Black และส้ม Oyster แผงคอนโซลและแผงประตูตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมคาร์บอน มาตรวัด M-specific เข็มสีแดงบนตัวอักษรสีขาวฟอนต์พิเศษ ตัวเลขความเร็วจะแสดงอยู่ที่กึ่งกลางหน้าปัด ส่วนมาตรวัดรอบก็จะมีแถบสีเตือนว่าไม่ควรเร่งเครื่องเข้าไปเลยโซนนั้น ซึ่งแถบสีที่ว่านี้จะเปลี่ยนไปตามอุณหภูมิของหม้อน้ำจนกว่าเครื่องยนต์จะร้อนได้ที่ รวมถึงไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์ Optimum Shift Indicator อยู่ด้วย ถัดลงมาเป็นพวงมาลัย M Sport พร้อมปุ่ม M1 และ M2 สีแดงสด และคันเกียร์ดีไซน์ใหม่สำหรับรถยนต์ตระกูล M โดยเฉพาะ แต่ถึงจะสปอร์ตขนาดไหนก็ยังคงความอเนกประสงค์ไว้ตามคอนเซปต์ของตัวรถ เบาะหลังยังสามารถแยกพับได้สามส่วน 40:20:40 เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการขนสัมภาระที่มีขนาดใหญ่เช่นเคย
BMW X3M และ BMW X4M เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ถึงตรงนี้คำถามที่ว่า “รถครอบครัวจะขับสนุกด้วยได้ไหม” คงมีคำตอบที่ชัดเจนแล้ว และมันจะชัดเจนยิ่งกว่านั้น ถ้าหากคุณมีเงินสด 7.699 ล้านบาท กันไว้สำหรับรถยนต์คันต่อไปของครอบครัว (ราคารวมแพ็คเกจ BSI Standard ฟรีค่าบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร และการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
ขอให้มีความสุขกับ BMW ทุกวันครับ