BMW Z4 ใหม่ในปี 2019 ก็เช่นเดียวกัน มันคือรถยนต์รุ่นที่สามในชื่อ Z4 แต่ถ้าจะนับลำดับญาติกันอย่างแท้จริงแล้วก็จะต้องรวม BMW Z1 และ BMW Z3 เข้าไปด้วย ดังนั้นจึงถือได้ว่านี่คือรถอนุกรม Z ลำดับที่ 5 ของ BMW ในช่วงเวลา 30 ปีเศษ ครั้งนี้ BMW นำเสนอโรดสเตอร์ในนิยามที่ถูกกลั่นกรองผ่านจินตนาการใหม่จากมุมมองในยุค 2020 สัดส่วนตัวรถถูกปรับใหม่โดยวางห้องโดยสารไว้ตำแหน่งกึ่งกลางรถมากขึ้น ทำให้การกระจายน้ำหนักหน้าและหลังเป็น 50:50 อย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ความยาวฐานล้อถูกหดให้สั้นลงกว่า BMW Z4 รุ่นก่อน เพื่อสร้างบุคลิกกระปรี้กระเปร่าและขี้เล่นให้กับตัวรถ ในภาพรวมตัวรถถูกขยายความยาว ความกว้าง และความสูงอย่างละเล็กน้อย เว้นแต่ล้อแต่ละฝั่งจะอยู่ห่างกันมากขึ้น 98 มิลลิเมตร ในด้านหน้า และ 57 มิลลิเมตร ในด้านหลัง ซึ่งทำให้ BMW Z4 เป็นรถที่สะดวกสบายขึ้น แต่ก็ขับสนุกขึ้นกว่าที่เคย

สิ่งนึงที่ BMW Z4 ใหม่ แตกต่างจาก BMW Z4 รุ่นก่อนอย่างชัดเจนก็คือการกลับไปมีหลังคาผ้าใบให้เลือกเพียงแบบเดียวอีกครั้ง แต่ใช่ว่าวิศวกรของ BMW จะเดินเข้าไปค้นหลังคาผ้าใบของ BMW Z4 สองรุ่นก่อนจากในคลัง แล้วนำมาดัดแปลงครอบลงไปบนรถรุ่นใหม่แบบนั้น ตรงกันข้ามพวกเขาจัดการพัฒนาจนทำให้เสียงรบกวนในห้องโดยสารน้อยลงกว่าหลังคาแข็งใน BMW Z4 รุ่นที่แล้วอีกด้วยซ้ำ นั่นจึงหมายความว่ามัน win-win รอบด้าน เพราะหลังคาผ้าใบใหม่มีน้ำหนักน้อยกว่าหลังคาแข็งในรถรุ่นเดิมอยู่ราว 50 กิโลกรัม ซึ่งก็แปลว่าน้ำหนักรถรวมทั้งคันก็ลดลงไป 50 กิโลกรัมด้วย และเมื่อน้ำหนักที่หายไปนั้นเป็นน้ำหนักที่เคยอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของตัวรถ จุดศูนย์ถ่วงของรถทั้งคันจึงขยับต่ำลง ซึ่งเป็นผลดีต่อการทรงตัว การเกาะถนน และแฮนด์ลิง หลังคาผ้าใบยังใช้พื้นที่น้อยกว่าเวลาพับเก็บ ทำให้ความจุห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายมีพื้นที่เพิ่มขึ้นจากรถรุ่นเดิมถึง 50% หรือ 281 ลิตร ตลอดเวลาไม่ว่าจะพับหรือกางหลังคาอยู่ ตัวหลังคาสามารถเปิดปิดได้โดยใช้เวลา 10 วินาที และทำงานได้เมื่อรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่กลไกนั้นแข็งแรงขนาดที่ตอนทดสอบวิศวกรสามารถกางมันออกที่ความเร็ว 176 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยที่มันไม่หลุดเป็นชิ้นๆ หรือปลิวกระเด็นหายไปอยู่บนกระจกหน้าของรถคันหลัง