Our tool for managing your permission to our use of cookies is temporarily offline. Therefore some functionality is missing.
BMW 530e Elite นิยามแห่งความคุ้มค่าและครบครัน
เดือนนี้เราพาคุณผู้อ่านไปรู้จักกับ BMW 5 Series รุ่นย่อยใหม่ล่าสุดที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้อย่าง BMW 530e Elite ที่ชูจุดเด่นเรื่องความคุ้มค่า แต่ยังคงอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีทันสมัย และยังนับเป็นครั้งแรกที่มีการนำชื่อรุ่น “Elite” มาใช้อีกด้วย BMW 5 Series กับค่าตัว 2.999 ล้านบาท (ราคารวมแพ็คเกจ BSI Standard บำรุงรักษาฟรี 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร และรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง) จะคุ้มค่าและครบครันจริงหรือไม่ BMW Fascination ฉบับนี้มีคำตอบครับ
BMW 530e Elite คือ BMW 5 Series แบบปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์เบนซินสี่สูบ 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี TwinPower Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้าที่เมื่อรวมกันแล้วจะสามารถสร้างพละกำลังสูงสุดได้ 252 แรงม้า ถ่ายทอดสู่พื้นถนนผ่านเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ ซึ่งอันที่จริงคุณผู้อ่าน BMW Fascination ก็คงจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ด้วยความที่รุ่นย่อยอย่าง BMW 530e Highline และ BMW 530e M Sport ได้ทำตลาดในเมืองไทยมาก่อนหน้านี้สักระยะหนึ่งแล้ว ความแตกต่างของ BMW 530e Elite กับอีก BMW 5 Series อีก 2 รุ่นที่เหลืออยู่ที่การจัดสเปคอุปกรณ์และออพชันต่างๆ โดย BMW 530e Elite จะเน้นไปที่การตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ที่เน้นความสะดวกสบายและอุปกรณ์ที่ทันสมัยเป็นหลัก และมีโอกาสขับรถเองน้อยกว่าลูกค้ากลุ่มอื่นๆ จนสามารถทำราคาได้น่าสนใจ นับว่าเป็น BMW 5 Series เพียงรุ่นเดียวที่ราคาป้ายแดงไม่ถึงสามล้านบาทและคุ้มค่าที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
แต่ถึงแม้ราคาจะเป็นรุ่นเริ่มต้น BMW 530e Elite ก็มีการตกแต่งและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันกว่าที่หลายคนคิด นี่จึงไม่ใช่ BMW รุ่นย่อยราคาย่อมเยาแบบที่คุณเคยเจอกับ BMW 316i หรือ BMW 320i Base ที่เคยออกมาทำตลาดในช่วงสั้นๆ ซึ่งเน้นไปที่การขับขี่และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพียงที่จำเป็นมากกว่า ในขณะที่แนวทางของ BMW 530e Elite แทบจะตรงกันข้ามกับรถรุ่นเหล่านั้น เพราะมันได้ชุดแอโรพาร์ท Sport Line แบบเดียวกับที่เคยอยู่ใน BMW 520d Sport ที่ประกอบไปด้วยวัสดุตกแต่งกรอบไฟตัดหมอก ช่อง Air Breather และคิ้วบนกันชนหลังเป็นสีดำเงา โคมไฟหน้าแบบ Adaptive LED ปรับเลี้ยวตามองศาการหมุนพวงมาลัย ระบบเปิดไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assistant ไฟตัดหมอกแบบ LED รวมไปถึงล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว สวมยางรันแฟลตขนาด 245/45R18 ชัดเจนว่านี่ไม่ใช่ BMW 5 Series รุ่นประหยัดแต่อย่างใด แต่เป็นรุ่นที่ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าผู้บริหารระดับ Elite ที่ต้องการความสะดวกสบายอย่างแท้จริง
รายการอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารช่วยยืนยันเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะ BMW 530e Elite มีให้ตั้งแต่ระบบปิดประตูช่วยผ่อนแรงกระแทก Soft close function, เซ็นเซอร์กะระยะช่วยจอดหน้าหลังพร้อมฟีเจอร์ถอยจอดอัตโนมัติ Parking Assistant, ระบบปลดล็อคและล็อครถโดยไม่ต้องใช้กุญแจ Comfort Access, เบรกมือไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชัน Auto Hold, วิทยุและระบบนำทางรุ่น Business พร้อมหน้าจอควบคุมกลางขนาด 8.8”, ระบบ BMW ConnectedDrive, กล้องมองภาพขณะถอยจอด, กระจกมองข้างฝั่งคนขับตัดแสงอัตโนมัติ, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยก 2 โซน, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยข้าง, ม่านถุงลมนิรภัย รวมไปถึงฟีเจอร์ระบบความปลอดภัย Active Protection เช่น ระบบปรับความตึงเข็มขัดนิรภัยเพื่อวัดสรีระของคนนั่งเมื่อรถเริ่มเคลื่อนที่เป็นครั้งแรก, ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Attentiveness Assistant และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชันลดความเร็ว
ในช่วงเปิดตัว BMW 530e Elite จะมีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ ขาว Alpine White, ดำ Black Sapphire, เงิน Glacier Silver และเทา Sophisto Grey Brilliant Effect โดยสีของหนัง Dakota ภายในห้องโดยสารนั้นจะขึ้นอยู่กับสีตัวถังภายนอก รถสีขาว ดำ และเทาจะได้ภายในสีน้ำตาล Cognac ส่วนรถสีเงินจะได้ภายในสีดำ Black คุณผู้อ่าน BMW Fascination ที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อ BMW 5 Series สักคันดีหรือไม่ นี่คือโอกาสอันดีที่น่าจะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแล้วครับ
ขอให้มีความสุขกับ BMW ของคุณครับ