Our tool for managing your permission to our use of cookies is temporarily offline. Therefore some functionality is missing.
THE NEW BMW 3 SERIES
44 ปี...มันอาจจะยาวนานกว่าที่คุณคิด ในกลางทศวรรษที่ 70s โลกยังไม่มี Concorde เครื่องบินพาณิชย์ที่บินได้ด้วยความเร็วเหนือเสียง Apple ยังเป็นเพียงชื่อเรียกผลไม้ทรงกลมสีแดง โทรศัพท์มือถือเป็นนวัตกรรมสุดล้ำสมัย และนั่นมันก็ตั้ง 18 ปี ก่อนที่สหภาพยูโรจะก่อตั้งกับ 24 ปีก่อนที่โลกจะรู้กับเงินยูโรด้วยซ้ำ แน่นอนว่าเหตุการณ์สำคัญอีกอย่างในปี 1975 ก็คือ BMW 3 Series ซึ่งถ้าคุณลอง Google ดูก็จะพบว่ามีรถยนต์แค่ไม่ถึง 20 รุ่น เท่านั้นที่มีประวัติย้อนหลังไปได้ไกลเกินสี่ทศวรรษ ในปี 2018 BMW 3 Series ได้เดินทางมาถึงเจนเนอเรชันที่ 7 และมันก็เปลี่ยนโฉมจากคุณปู่ทวดต้นตระกูลไปอย่างสิ้นเชิง ทว่าสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปกับกาลเวลาก็คือ DNA ความเป็นสปอร์ตซีดานที่ยังคุกรุ่นอย่างเต็มเปี่ยมตั้งแต่แรกเห็น
BMW 3 Series ใหม่ เปิดตัวในตลาดโลกอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม 2018 ซึ่งเป็นการพลิกโฉมการออกแบบของ BMW 3 Series ไปอีกครั้ง ตัวถังถูกขยายขนาดให้มีความยาวเพิ่มขึ้น 76 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 16 มิลลิเมตร และสูงกว่าเดิมเพียง 1 มิลลิเมตร เพื่อให้ได้รูปทรงของรถยนต์สปอร์ตซีดานที่กว้างและแบนขึ้น พร้อมกับเพิ่มความสะดวกสบายในการโดยสารให้มากยิ่งกว่าเดิม ด้านหน้าคือจุดที่แตกต่างจาก BMW 3 Series รุ่นปัจจุบันอย่างชัดเจน ด้วยการใช้ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ที่เพิ่มรอยบากไว้ตรงด้านล่างกึ่งกลางระหว่างดวงไฟคู่ และใช้ไฟหน้าแบบ LED Twin Headlights เป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย กระจังหน้า Kidney Grille ถูกปรับปรุงดีไซน์ใหม่ให้ส่วนกลางเข้ามาชิดกัน ในขณะที่ส่วนกรอบด้านข้างปรับให้มีเหลี่ยมสันมากขึ้นเพื่อรองรับกับเส้นสายที่คมขึ้นของฝากระโปรงหน้า ช่องดักลมบนกันชนหน้าถูกปรับดีไซน์ครั้งใหญ่ให้เป็นรูปแบบ T-Shape ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากช่องรับอากาศของเครื่องบินเจ็ท ส่วนด้านข้างมีการเติมสันลากยาวจากบริเวณด้านล่างของซุ้มล้อหน้า ซึ่งจะค่อยๆ โค้งตัวสูงขึ้นบนบานประตูหลัง กรอบหน้าต่างประตูบานหลังยังคงเอกลักษณ์ดีไซน์ Hofmeister Kink ที่อยู่คู่ BMW มาแทบทุกยุคสมัย แต่ถูกตีความใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ในขณะที่ท้ายรถมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ดีไซน์ไฟท้าย L-Shape รูปทรงเพรียวบางแบบใหม่ ที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของ BMW ในยุค 2020
BMW 3 Series ใหม่ เปิดตัวในตลาดโลกอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม 2018 ซึ่งเป็นการพลิกโฉมการออกแบบของ BMW 3 Series ไปอีกครั้ง ตัวถังถูกขยายขนาดให้มีความยาวเพิ่มขึ้น 76 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 16 มิลลิเมตร และสูงกว่าเดิมเพียง 1 มิลลิเมตร เพื่อให้ได้รูปทรงของรถยนต์สปอร์ตซีดานที่กว้างและแบนขึ้น พร้อมกับเพิ่มความสะดวกสบายในการโดยสารให้มากยิ่งกว่าเดิม ด้านหน้าคือจุดที่แตกต่างจาก BMW 3 Series รุ่นปัจจุบันอย่างชัดเจน ด้วยการใช้ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ที่เพิ่มรอยบากไว้ตรงด้านล่างกึ่งกลางระหว่างดวงไฟคู่ และใช้ไฟหน้าแบบ LED Twin Headlights เป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย กระจังหน้า Kidney Grille ถูกปรับปรุงดีไซน์ใหม่ให้ส่วนกลางเข้ามาชิดกัน ในขณะที่ส่วนกรอบด้านข้างปรับให้มีเหลี่ยมสันมากขึ้นเพื่อรองรับกับเส้นสายที่คมขึ้นของฝากระโปรงหน้า ช่องดักลมบนกันชนหน้าถูกปรับดีไซน์ครั้งใหญ่ให้เป็นรูปแบบ T-Shape ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากช่องรับอากาศของเครื่องบินเจ็ท ส่วนด้านข้างมีการเติมสันลากยาวจากบริเวณด้านล่างของซุ้มล้อหน้า ซึ่งจะค่อยๆ โค้งตัวสูงขึ้นบนบานประตูหลัง กรอบหน้าต่างประตูบานหลังยังคงเอกลักษณ์ดีไซน์ Hofmeister Kink ที่อยู่คู่ BMW มาแทบทุกยุคสมัย แต่ถูกตีความใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ในขณะที่ท้ายรถมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ดีไซน์ไฟท้าย L-Shape รูปทรงเพรียวบางแบบใหม่ ที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของ BMW ในยุค 2020
ห้องโดยสารของ BMW 3 Series ใหม่ ได้รับฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ของ BMW มาอย่างเต็มที่ มาตรวัดเป็นหน้าจอดิจิตอลขนาดใหญ่เต็มรูปแบบ จอแสดงผลบนกึ่งกลางคอนโซลขนาด 8.8 นิ้ว โดยในบางรุ่นย่อยจะได้ใช้มาตรวัดแบบ BMW Live Cockpit Professional พร้อมระบบปฏิบัติการ BMW OS 7.0 แสดงผลบนหน้าจอ 12.3 นิ้ว คู่กับจอกลางที่จะขยายขนาดเป็น 10.25 นิ้ว ควบคุมได้ทั้งจากปุ่มโรตารี iDrive การสัมผัสหน้าจอทัชสกรีน ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย หรือการใช้ท่าทางมือ Gesture Control ระบบ BMW ConnectedDrive ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ และเพิ่มความสามารถในการอัพเดทซอฟต์แวร์ได้ด้วยตนเอง ห้องโดยสารมีไฟ LED สร้างบรรยากาศมาเป็นมาตรฐาน เบาะหนังคู่หน้าถูกปรับให้มีพื้นที่ช่วงไหล่และข้อศอกเพิ่มขึ้น ส่วนเบาะหลังก็ปรับปรุงให้สามารถเข้าออกได้ง่ายขึ้นและมีพื้นที่วางขาที่ใหญ่กว่า BMW 3 Series รุ่นปัจจุบัน พวงมาลัยหนังแบบสปอร์ตดีไซน์ใหม่ เช่นเดียวกับแผงคอนโซลเกียร์ที่ปรับปรุงรูปแบบใหม่ทั้งหมดพร้อมกับปุ่ม Start ที่ถูกย้ายมาติดไว้ข้างคันเกียร์
แต่จุดเด่นที่แท้จริงของ BMW 3 Series ใหม่ อยู่ที่การพัฒนาแชสซีส์มาจนล้ำสมัยไปไกลกว่ารถยนต์รุ่นเดิมมาก น้ำหนักรถโดยรวมเบาลงได้มากถึง 55 กิโลกรัม แต่มีความแข็งแรงมากขึ้นตั้งแต่ 25-50% ในขณะที่การกระจายน้ำหนักยังคงไว้ที่ 50:50 นอกจากนี้ มันยังเป็นรถรุ่นแรกของ BMW ที่นำเทคโนโลยี Lift-related Dampers มาใช้ ด้วยการติดตั้งโช้คไฮดรอลิกด้านหน้าเพิ่มขึ้นอีกคู่นึงจากโช้คอัพปกติของรถ และติดตั้งอุปกรณ์จำกัดระยะการยุบตัวของช่วงล่างในด้านหลัง ซึ่งควบคุมการทำงานจากกล่องสมองกลที่จะช่วยให้ซึมซับแรงสะเทือนที่ส่งให้ตัวถังรถเคลื่อนไหวจากผิวถนนไม่เรียบได้มากขึ้น เทคโนโลยีนี้ทำให้วิศวกรสามารถใส่ช่วงล่างที่มีความหนืดมากขึ้นได้ ซึ่งจะช่วยส่งผลให้ตัวรถมีเสถียรภาพที่ความเร็วสูงหรือในขณะเข้าโค้งมากขึ้น โดยไม่ต้องแลกมากับความกระด้างที่เพิ่มขึ้นจนทำให้การเดินไกลเหนื่อยล้า
เทคโนโลยีล้ำสมัยของ BMW มากมายอัดแน่นเต็มคันชนิดที่ไม่น้อยหน้ารุ่นพี่แบบนี้ แฟนๆ ใบพัดฟ้าขาวและคุณผู้อ่าน BMW Fascination ที่กำลังคิดจะเปลี่ยนรถขอให้อดใจรออีกเพียงไม่นาน ส่วนในระหว่างนี้ขอให้มีความสุขกับ BMW ของคุณทุกวันครับ