สีดำนั้นแท้จริงแล้วคือการแสดงสัญลักษณ์ และถ้าจะพูดให้ครบถ้วนก็ต้องเรียกชื่อเต็มของมันว่า Sapphire Black Metallic ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อปรับภาพลักษณ์ของ BMW M2 Coupé Black Shadow Edition ให้โดดเด่น ก้าวร้าว ราวกับในอดีตที่ผ่านมามันประคองตนด้วยความลำพองมาอย่างโชกโชน แต่ BMW ก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น พวกเขายังลงมือปรับปรุงรายละเอียดการแตกต่างบนตัวรถอีกหลากหลายจุดให้หันมาใช้โทนสีมืดเพื่อให้ดูกลมกลืนตลอดทั้งคัน และเพื่อเติมเพดดีกรีของรถแข่งลงไปให้เจ้ากบฏตัวเล็กนี่ด้วย

รายละเอียดที่โดดเด่นเริ่มจากกระจังหน้า M kidney grille ลายซี่คู่และครีบประจำตระกูล M บนแก้มหน้าที่มาในสีดำที่มีความเงาสูง High-gloss black, กระจกมองข้างคาร์บอนไฟเบอร์ และล้อฟอร์จอัลลอยลาย Y-spoke ขนาด 19 นิ้ว สีดำด้านที่สวมรัดไว้ด้วยยางหน้า-หลังต่างขนาด ส่วนด้านท้ายจะพบกับแผงดิฟฟิวเซอร์คาร์บอนไฟเบอร์ที่ชายล่างของกันชนท้าย ซึ่งดีไซน์ให้โอบล้อมปลายท่อไอเสีย M double tailpipe ในสีดำ Black chrome ที่ยื่นออกมาจากแนวกันชนอีกข้างละหนึ่งคู่

พลังขับเคลื่อน BMW M2 Coupé Black Shadow Edition มาในสูตรคลาสสิคตาม Textbook บทที่หนึ่งของรถขับสนุก นั่นคือเครื่องยนต์หกสูบเรียงวางหน้าและส่งพละกำลังไปหมุนล้อหลัง โดยมันขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินหกสูบแถวเรียง 3.0 ลิตร M TwinPower Turbo ที่สร้างพละกำลังออกมาได้ 272 กิโลวัตต์ หรือ 370 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ M DCT with Drivelogic 7 จังหวะ ลงสู่ล้อคู่หลัง ทำให้การกระโดดออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปแตะ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาแค่ 4.3 วินาที กับความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งถึงแม้ตัวเลขสมรรถนะจะไม่แตกต่างไปจาก BMW M2 Coupé อันเป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วโลก แต่ BMW M2 Coupé Black Shadow Edition นั้นจะทำให้การไปถึงที่หมายมีสไตล์และบ่งบอกเอกลักษณ์ตัวตนของคุณได้มากขึ้น

คุณผู้อ่านท่านไหนที่เป็นแฟน BMW M2 Coupé ก็ขอให้รอติดตามรายละเอียดของเจ้ารถรุ่นพิเศษรุ่นนี้เอาไว้ให้ดี ขอให้มีความสุขกับ BMW ของคุณครับ