Our tool for managing your permission to our use of cookies is temporarily offline. Therefore some functionality is missing.
Highlight | 2018.01.12
The all-new BMW M5 with M xDrive. STARTING AT INCREDIBLE.
“เริ่มต้นที่ความน่าเหลือเชื่อ” อาจจะดูเป็นเพียงสโลแกนที่ชาวบาวาเรียนตั้งให้กับรถยนต์รุ่นใหม่ของพวกเขาในสายตาของคนทั่วไป แต่สำหรับแฟน BMW โดยเฉพาะชาว M แล้ว พวกเราย่อมรู้ดีว่าต่อให้ BMW M และ M Performance ทุกรุ่นจะยอดเยี่ยมอย่างน่าเหลือเชื่อขนาดไหน การจะนำคำว่า “เริ่มต้น” ไปใช้กับรถจากแผนก M รุ่นอื่นๆ ที่ไม่ใช่ BMW M5 นั้น ควรนับเป็นความผิดทางวินัยขั้นร้ายแรงที่ไม่สามารถประกันตัว ภาคทัณฑ์ หรือผ่อนผันโทษใดๆ ได้ทั้งนั้น ยินดีต้อนรับคุณผู้อ่านทุกท่านสู่รถที่ทำให้มนุษย์รู้จักกับความรู้สึกของการที่สารอะดรีนาลีนสูบฉีดจนท่วมร่างกาย (..นี่อาจจะโอเวอร์เกินไป แต่เอาน่า) และแน่นอน..ฝูง BMW M เวอร์ชันถนนทั้งปวงบนโลกใบนี้นับตั้งแต่ปี คศ.1985 รถที่ทำให้ M เป็นตัวอักษรที่ทรงพลังมากที่สุดในโลก และพจนานุกรมทุกเล่มควรจะเริ่มต้นที่ M แทน A ไปได้ตั้งนานแล้ว (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง A จากสตุตการ์ท...)
ในยุคที่สัญญาณ 4G บนโทรศัพท์มือถือรับส่งข้อมูลได้เร็วกว่า Wi-Fi ในบ้าน และรถยนต์รุ่นเริ่มต้นบางรุ่นก็มีพละกำลังเฉียด 200 แรงม้า จนซูเปอร์คาร์จากยุคก่อนยังต้องใช้ชีวิตบนท้องถนนอย่างระแวดระวัง BMW M5 ใหม่ คือมาตรการตอบโต้ขั้นเด็ดขาดจากแผนก M เพื่อที่จะบอกว่าในเขตแดนของรถซาลูนผู้บริหารสมรรถนะเผ็ดร้อนนั้นใครกันแน่ที่เป็นนายใหญ่ BMW M5 ใหม่ มาพร้อมกับขุมพลังเบนซิน V8 ขนาด 4.4 ลิตร ไบ-เทอร์โบ M TwinPower ที่พัฒนาจาก BMW M5 รุ่นก่อนไปอีกระดับ มันมีพละกำลังสูงสุด 441 กิโลวัตต์ (600 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุดขนาด 750 นิวตันเมตร ที่ส่งออกมาให้ใช้งานทั้ง 100% กันตั้งแต่ 1,800 รอบต่อนาทีเป็นต้นไป เมื่อรวมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ และระบบส่งกำลังอัจฉริยะ BMW M xDrive ก็ได้เป็นอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.4 วินาที และ 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 11.1 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เว้นแต่ว่าคุณจะเลือกซื้อ M Driver’s Package เพิ่ม ซึ่งจะปลดล็อคความเร็วสูงสุดไปอยู่ที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และถ้าคุณคิดว่าทั้งหมดนี่มันยังช้าเกินไป BMW M ก็ได้เตรียมพัฒนา BMW M5 เวอร์ชันแรงกว่านี้เอาไว้แล้ว
มันยังเป็น BMW M5 รุ่นแรกที่มีรูปลักษณ์หน้าตาที่ดุดันออกมาจากโรงงาน และน่าจะลบล้างคำว่า “หมาป่าในคราบแกะ” ที่อยู่คู่ BMW M5 มาตั้งแต่รุ่นแรกเมื่อ 33 ปี ก่อนไปได้บ้าง แต่กระนั้นสำหรับคนทั่วไปแล้วเราเชื่อว่ามันก็ยังคงเป็น BMW ซีรีส์ 5 ที่แค่ดูโดดเด่นขึ้น ซึ่งนับเป็นเรื่องดี ภายนอกประกอบไปด้วยกระจังหน้าไตคู่พร้อมซี่แนวตั้งแบบคู่สีดำเงา ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับรถยนต์ตระกูล M ไฟหน้า LED ฝากระโปรงหน้าโป่งนูนพิเศษ ครีบระบายอากาศ Air Breather พร้อมสัญลักษณ์ M บนซุ้มล้อคู่หน้า กระจกมองข้าง M แบบมีครีบ ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 19 นิ้ว รัดไว้ด้วยยางขนาด 275/40 R19 ที่ด้านหน้า และ 285/40 R19 ที่ด้านหลัง เบรก M compound พร้อมคาลิปเปอร์ 6 ลูกสูบที่ด้านหน้า และ 1 ลูกสูบที่ด้านหลัง ช่วงล่างผ่านการเซ็ทอัพโดยผู้เชี่ยวชาญและนักแข่งรถชั้นนำจากสนาม Nürburgring Nordschleife ท่อไอเสีย M-specific สี่ท่อ พร้อมดิฟฟิวเซอร์ M ที่กันชนท้าย และไฮไลท์สำคัญคือแผ่นหลังคาที่เป็นวัสดุ CFRP ทั้งชิ้นซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ BMW M5 ใหม่ มีน้ำหนักเบากว่า BMW M5 รุ่นที่แล้ว แม้ว่าจะใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive
ภายในเป็นอีกจุดที่ทำให้ BMW M5 ดูแตกต่างจาก BMW ซีรีส์ 5 รุ่นปกติอย่างชัดเจน ตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวขึ้นไปนั่งคุณจะถูกต้อนรับด้วยเบาะหนัง M ที่โอบกระชับคนนั่งเป็นอย่างดี เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็จะพบกับพวงมาลัย M leather steering wheel ที่มาพร้อมปุ่ม M1 และ M2 สีแดงสด ซึ่งใช้สำหรับการเรียกใช้ค่าเซ็ทติ้งต่างๆ ของรถที่ตั้งไว้ล่วงหน้า ตั้งแต่ระดับการทำงานของ DSC เครื่องยนต์ พวงมาลัย และช่วงล่าง ไปจนถึงระบบ M xDrive ขึ้นมาใช้งานอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเอื้อมมือลงไปปุ่มบริเวณฐานคันเกียร์เพื่อไล่ปรับไปทีละฟังก์ชัน ด้านหลังพวงมาลัยเป็นที่อยู่ของเรือนไมล์ดิจิตอล 100% ที่เรียกว่า M-specific Display โดยมันสามารถแสดงการตั้งค่าโหมดเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และพวงมาลัยให้เห็นได้อยู่ตลอดเวลา พร้อมชิฟท์ไลท์เมื่ออยู่คันเกียร์อยู่ที่โหมด Manual หัวเกียร์ M แบบใหม่ที่ BMW เพิ่งจะนำมาใช้กับ BMW M5 เป็นครั้งแรก ก็มีปุ่มให้ปรับระดับความฉับไวในการเปลี่ยนเกียร์ได้จากบนหัวเกียร์ และเพื่อความชัดเจนเราขอบอกกันตรงนี้อีกครั้งว่ามันเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบปกติ ไม่ใช่เกียร์ M-DCT แบบที่คุณเคยเจอใน BMW M2, BMW M3 หรือ BMW M รุ่นอื่นๆ
ในส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีในห้องโดยสาร BMW M5 ก็พกพามาให้อย่างครบครัน ทั้งกุญแจ BMW Display Key พร้อมภาพพื้นหลังเป็นโลโก้ M ซึ่งสามารถแสดงข้อมูลสถานะต่างๆ ของรถและชาร์จแบบไร้สายได้ หน้าจอ Head-up Display แบบ M-specific จอแสดงข้อมูลบนคอนโซลกลางระบบทัชสกรีน ซึ่งสามารถควบคุมได้ด้วยการใช้ท่าทางมือ (Gesture Control) และอุปกรณ์อื่นๆ อย่างที่คุณสามารถพบได้ใน BMW ซีรีส์ 5 รุ่นปกติ
BMW M5 ใหม่ ถือเป็น BMW M5 ที่มีแรงม้ามากที่สุดนับตั้งแต่ที่แผนก M เคยผลิตออกมา และถ้าไม่นับ BMW M760Li แล้ว มันก็เป็นรถตระกูล M เวอร์ชันถนนที่มีแรงม้าสูงสุดที่ BMW เคยจำหน่าย และยังเป็น BMW M ซาลูนคันแรกที่ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออีกด้วย ฉะนั้นหากคำถามคือ BMW M5 ใหม่ สามารถทำหน้าที่สืบสานขนบธรรมเนียมประจำตระกูลได้ดีเพียงใด คำตอบก็คือเปี่ยมล้น เพราะนี่คือการ “เริ่มต้น” สิ่งใหม่ๆ อัน “น่าเหลือเชื่อ” กับรถยนต์ตระกูล M จาก BMW อย่างแท้จริง และเราขอแนะนำให้ชาว M ทั้งหลายเตรียมหยอดกระปุกไว้ให้พร้อม...
ขอให้มีความสุขกับ BMW ของคุณทุกวันครับ