Our tool for managing your permission to our use of cookies is temporarily offline. Therefore some functionality is missing.
THE ALL-NEW BMW 5-SERIES. 5 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ BMW ซีรีส์ 5 โฉมใหม่
แฟน BMW ทุกท่านน่าจะได้มีโอกาสชมภาพยนตร์สั้นจาก BMW Films เรื่อง The Escape กันไปแล้ว และคงจะได้เห็นว่ารถที่พระเอกของเรื่อง “The Driver” ใช้เพื่อพาตัวประกันหลบหนีจากเงื้อมมือของเหล่าวายร้ายนั้นก็คือ BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ รหัสตัวถัง G30 The Escape เป็นภาพยนตร์สั้นภาคต่อจาก The Hire ที่ BMW Films เคยทำออกมาถึง 8 ตอน และออกฉายตอนสุดท้ายไปเมื่อ 15 ปีก่อน แต่ละตอนจะมีรถ BMW คู่ใจที่พระเอกในการปฏิบัติภารกิจลับตั้งแต่ BMW 740i E38, BMW M5 E39, BMW Z4 3.0i และรุ่นอื่นๆ อีกมากมาย แต่ถ้าคุณกำลังงงว่านี่เรากำลังพูดเรื่องอะไร ก็ลองแวะไปเยี่ยมชมเวบไซต์ bmwfilms.com ดูก่อนได้
แล้วอะไรที่ทำให้ BMW ถึงกับต้องหยิบโปรเจคท์นี้จากลิ้นชักออกมาปัดฝุ่นกันใหม่ แถมยังไปเชิญดารานักแสดงและผู้กำกับชุดเดิมตั้งแต่สมัย The Hire แทบทุกคนกลับมาทำงานอีกด้วย คุณคงพอจะเดาออกใช่ไหม? มันคือการมาถึงของ BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ สปอร์ตซีดานสำหรับผู้บริหารเจนเนอเรชันที่ 7 ของค่ายนี่ล่ะ ถ้าใครเคยรู้ประวัติของบริษัท BMW มาบ้าง ก็คงจะพอทราบว่า BMW ซีรีส์ 5 นั้นเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญของ BMW เพราะมันคือรถที่ช่วยให้บริษัทรอดพ้นจากวิกฤติทางการเงินในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มาได้จนทุกวันนี้ ดังนั้น พอถึงคราวเปิดตัวสมาชิกใหม่คนสำคัญทั้งที มันก็ต้องมีอะไรพิเศษกันบ้างสิ..จริงไหม?
ส่วนในบ้านเรา BMW (ประเทศไทย) เพิ่งจะเปิดตัว BMW ซีรีส์ 5 ใหม่กันไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยในช่วงแรกจะทำตลาดเป็นจำนวน 2 รุ่น คือ BMW 520d Luxury และ BMW 530i M Sport แต่เชื่อว่าหลายท่านอาจจะรอไปดูรถคันจริงทีเดียวในงานมอเตอร์โชว์ ดังนั้น ในระหว่างนี้ BMW Fascination จะขอพาคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักกับ 5 จุดเด่นของ BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ กันก่อนเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อย พร้อมแล้วก็ไปกันเลย...
1. งานดีไซน์ใหม่ทั้งคัน
หัวใจหลักของการออกแบบ BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ ยังคงอยู่ภายใต้แนวคิดของการเป็น “สปอร์ตซีดานสำหรับนักธุรกิจ” แต่มีคำนิยามที่แตกต่างไปจากเดิม Karim Habib หัวหน้าฝ่ายดีไซน์ของ BMW Automobiles บอกว่า “BMW ซีรีส์ 5 ใหม่จะเป็นรถยนต์ที่ดูภูมิฐาน มั่นใจอย่างมีสไตล์ และปราดเปรียวในทุกสถานการณ์” ปรัชญาการออกแบบอย่างมีระเบียบแบบแผนประกอบกับเทคโนโลยีการออกแบบที่มีความแม่นยำสูง ทำให้ดีไซน์ของ BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ ผสมผสานความโดดเด่นบนท้องถนน เสน่ห์น่าดึงดูด และความสะดวกสบายในการใช้งานเอาไว้ด้วยกันได้อย่างสมดุล มิติตัวถังของ BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่า BMW ซีรีส์ 5 โฉมปัจจุบัน (F10) เล็กน้อย ตัวรถนั้นยาวขึ้น 36 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 6 มิลลิเมตร และสูงขึ้น 2 มิลลิเมตร ส่วนความยาวฐานล้อนั้นก็เพิ่มขึ้นมาอีก 7 มิลลิเมตร เพื่อให้สอดคล้องกับสัดส่วนของตัวรถ
จุดเด่นเรื่องดีไซน์ภายนอกของ BMW ซีรีส์ 5 ใหม่คือ ไฟหน้าดวงกลมคู่ที่เป็น LED ในทุกรุ่นย่อย พร้อมไฟ DRL ทรงหกเหลี่ยม ตัวเลนส์ของโคมไฟลากยาวมาจรดกับกระจังหน้าไตคู่ ซึ่งช่วยทำให้มุมมองจากทางหน้ารถดูกว้างและสง่าผ่าเผยขึ้น ในขณะที่รูปทรงด้านข้างดูเหยียดยาวจากการที่ตำแหน่งห้องโดยสารได้ถูกขยับไปด้านหลังเล็กน้อย พร้อมแนวเส้นหลังคาที่ลากลงมาจรดกับฝากระโปรงท้ายต่อเนื่องเป็นเส้นเดียว แต่ทีเด็ดที่แท้จริงนั้นคือการที่ BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ เป็นรถยนต์คันแรกที่บรรจุงานดีไซน์เอกลักษณ์ของ BMW เอาไว้ถึงสองอย่างด้วยกัน Habib บอกว่า “อย่างแรกคือแนวเส้นบริเวณสะโพกที่ค่อยๆ ยกตัวสูงขึ้นเมื่อเข้าใกล้ท้ายรถ ทำให้แสงที่ตกกระทบกับพื้นผิวค่อยๆ เปลี่ยนจากเงามืดมาเป็นสว่าง โดยเส้นดังกล่าวจะลากไปเชื่อมต่อกับกรอบกระจกบนประตูหลัง Hofmeister Kink ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อีกชิ้นของ BMW แนวเส้นสายที่ค่อยๆ ยกตัวสูงขึ้นยังทำให้รถดูราวกับกำลังจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าตลอดเวลา เป็นมุมมองที่ดูโฉบเฉี่ยว กำยำ และทรงพลัง”
ส่วนด้านท้าย ฝากระโปรงถูกปรับให้แบนและกว้างขึ้นจากรุ่นเดิม โดยทีมออกแบบบอกว่าช่วยสะท้อนบุคลิกความคล่องตัวและการตอบสนองอันฉับไวของ BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ออกมามากขึ้น โคมไฟท้าย LED รูปตัว L โอบล้อมมาถึงด้านข้างตัวรถเพื่อเส้นสายที่ต่อเนื่องจนดูกลมกลืนและสอดล้องไปตลอดทั้งคัน
2. ระบบแอร์โรไดนามิกส์ที่เป็นมาตรฐานใหม่ของรถซีดานสำหรับผู้บริหาร
นอกจากการตัวถังที่โดดเด่นแล้ว วิศวกรของ BMW ยังตั้งใจที่จะยกระดับประสิทธิภาพทางด้านอากาศพลศาสตร์ของ BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ ให้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เทคโนโลยีจำนวนมากถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่เพื่อจัดระเบียบทิศทางการไหลของอากาศ แบบเดียวกับที่ปรากฏอยู่ใน BMW ซีรีส์ 7 ใหม่มาก่อน BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ มีทั้งระบบ Active Air Flap แผ่นปิดด้านในกระจังหน้าไตคู่เพื่อลดแรงเสียดทานอากาศในความเร็วสูง ส่วนในสถานการณ์ปกติ Flap จะปิดอยู่ตลอดเวลาเพื่อลดกระแสลมวนปะทะในห้องเครื่อง จนกว่าเครื่องยนต์จะต้องการปริมาณอากาศเพิ่ม แผ่น Flap จึงจะเปิดออกให้อากาศไหลผ่านเข้าไปได้
Air Curtains ช่องดักลมที่มุมด้านนอกของกันชนหน้าออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับ Air Breathers ช่องระบายลมที่อยู่หลังซุ้มล้อแบบเดียวกับใน BMW ซีรีส์ 7 ใหม่ ทั้งคู่จะจัดระเบียบลมที่ไหลผ่านเข้าไประบายความร้อนเบรคคู่หน้า แต่เพื่อไม่ให้ลมเหล่านั้นเกิดกระแสลมวนตีปะทะอยู่ในซุ้มล้อ อากาศส่วนนึงจะถูก Air Curtains บังคับให้เบี่ยงออกไปด้านนอกของล้อ อากาศส่วนที่เหลือจะระบายออกมาทางช่อง Air Breathers ทั้งหมดนี้จึงทำให้ BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Co-efficient drag: Cd) ที่ระดับต่ำมากเพียง 0.22 เท่านั้น
วิศวกรของ BMW ยังลงมือปรับปรุงเส้นสายตามจุดต่างๆ บนตัวถังที่มีผลต่อทิศทางการไหลของอากาศเพิ่มอีกหลายจุด ซึ่งรวมถึงการใส่แผ่นปิดเรียบใต้ท้องรถที่นอกจากจะช่วยดึงค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานให้ต่ำลงแล้ว ยังช่วยลดแรงยก (Lift) เพิ่มเสถียรภาพและความคล่องตัวให้ BMW ซีรีส์ 5 ใหม่อีกด้วย
3. BMW Efficient Lightweight แทรกซึมอยู่ทุกอณูแม้ในจุดที่มองไม่เห็น
BMW Efficient Lightweight ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่แนวคิดดังกล่าวได้ถูก BMW ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นในระหว่างการพัฒนา วัสดุน้ำหนักเบาหลากหลายชนิดถูกคัดเลือกมาใช้อย่างผสมผสาน จนพวกเขาสามารถลดน้ำหนักตัวรถลงได้ถึงเกือบ 100 กิโลกรัม จาก BMW ซีรีส์ 5 F10 ชิ้นส่วนโครงสร้างตั้งแต่โครงหลังคา โครงตัวถังด้านข้าง และโครงตัวถังด้านท้าย ทำมาจากเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง เพื่อความแข็งแกร่ง ส่วนฝากระโปรงหน้า ฝากระโปรงหลัง คานรับเครื่องยนต์ แก้มหลัง แผ่นหลังคา และประตูเป็นอลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนัก แผ่นตัวถังประตูอลูมิเนียมยังต้องตัดขึ้นรูปด้วยเลเซอร์ เพราะมันจะทำให้ดึงประโยชน์จากความเบาของอลูมิเนียมออกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ผลที่ได้คือบานประตูที่รวมบานพับและตัวกันเลยแล้ว ยังมีน้ำหนักรวมกันเพียงแค่ 6 กิโลกรัม เท่านั้น เผลอๆ จะเบากว่ากระเป๋าถือกับกระเป๋าแต่งหน้าของคุณผู้หญิงรวมกันซะอีก
โครงสร้างห้องโดยสารมีการเลือกใช้วัสดุผสมผสานกันหลายชนิดตามเกมส์กลยุทธ์ เหล็กพิมพ์ขึ้นรูปร้อน อลูมิเนียมอัลลอย และเหล็ก Multi-phase ถูกนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์สูงสุดเพียงหนึ่งเดียวคือ การเสริมความแข็งแกร่งให้ห้องโดยสารโดยไม่เพิ่มน้ำหนัก (ลดได้ยิ่งดี) และไม่ประนีประนอมเรื่องความปลอดภัย แม้แต่คานยึดแผงหน้าปัดภายในรถก็ยังเป็นวัสดุแมกนีเซียม ลดน้ำหนักลงไปได้อีก 2 กิโลกรัม
แต่ส่วนที่ลดน้ำหนักได้มากที่สุดก็คือชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ติดอยู่บนแชสซีส์ เช่น การเปลี่ยนมาใช้เบรคมือไฟฟ้าที่คาลิปเปอร์หลัง ซึ่งช่วยลดน้ำหนักลงไปได้ 3 กิโลกรัม และเมื่อคำนวณในภาพรวมแล้วจะพบว่า BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ มีน้ำหนักใต้ฐานสปริง (Unsprung weight) ที่ลดลงไปถึง 9 กิโลกรัม ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่มีผลต่อการตอบสนองและความนุ่มนวลของรถมากเป็นอันดับต้นๆ นอกจากนี้ BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ยังเป็นรถซีดานรุ่นแรกของ BMW ที่ใช้ฝากระโปรงท้ายทำจากอลูมิเนียมทั้งบานอีกด้วย ซึ่งช่วยลดน้ำหนักลงไปได้ 4.2 กิโลกรัม แม้แต่แผ่นบุใต้ฝากระโปรงท้ายก็ยังเป็นวัสดุจากเส้นใยธรรมชาติ ลดน้ำหนักได้อีก 0.5 กิโลกรัม
4. Gesture Control ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ด้วยท่าทางมือแทนการสัมผัสหน้าจอ
Gesture control หรือฟีเจอร์ควบคุมฟังก์ชันหลักด้วยท่าทางการเคลื่อนไหวของมือที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกของโลกใน BMW ซีรีส์ 7 ใหม่ ก็ถูกหยิบยกมาใส่ไว้ใน BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ ด้วย ข้อมูลระบบนำทาง โทรศัพท์ เพลง หรือเมนูฟังก์ชันต่างๆ ของตัวรถจะแสดงผลยู่บนจอความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ตรงกึ่งกลางหน้าปัด แต่คราวนี้นอกจากคุณจะควบคุมมันผ่าน iDrive ที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วได้ คุณยังสามารถเลือกที่จะควบคุมมันด้วย Gesture control, สั่งการด้วยเสียง, หรือใช้นิ้วสัมผัสบนหน้าจอก็ได้ตามที่คุณรู้สึกสะดวก
ระบบ Gesture control ทำงานผ่านเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบสามมิติที่ฝังอยู่บนเพดานตรงบริเวณไฟอ่านแผนที่ ตัวเซ็นเซอร์จะสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ตั้งแต่ช่วงใกล้ๆ กับหน้าจอ iDrive ถอยหลังมาจนถึงช่วงเหนือคอนโซลเกียร์ ปัจจุบัน Gesture control มีฟังก์ชันหลักที่กำหนดจากโรงงานมาให้ทั้งหมด 4 คำสั่ง ได้แก่ รับสายเรียกเข้า (นิ้วชี้จิ้มเข้าหาและถอยห่างจากหน้าจอ iDrive) ปฏิเสธสายเรียกเข้า (ปัดมือตามแนวนอนไปทางฝั่งผู้โดยสาร) เพิ่มเสียงลำโพง (นิ้วชี้หมุนตามเข็มนาฬิกาเป็นวงกลม) และลดเสียงลำโพง (นิ้วชี้หมุนทวนเข็มนาฬิกาเป็นวงกลม) นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันที่คนขับสามารถตั้งค่าได้เองอีก 1 คำสั่ง (นิ้วชี้และนิ้วกลางจิ้มเข้าหาจอ iDrive พร้อมกัน) เช่น เรียกแอพลิเคชันระบบนำทางขึ้น เป็นต้น
5. BMW Display Key กุญแจอัจฉริยะพร้อมหน้าจอแสดงผล
BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ทุกรุ่นจะได้กุญแจแบบใหม่ที่ BMW เรียกว่า BMW Display Key ตัวกุญแจจะมีหน้าจอสีแสดงผลระบบสัมผัสอยู่ พร้อมฟังก์ชันที่อัดแน่นอยู่เต็มเปี่ยม คุณสามารถหยิบกุญแจขึ้นมาตรวจเช็คสถานะต่างๆ ของรถได้ เช่น ประตูถูกล็อคหรือยัง กระจกหน้าต่างและซันรูฟถูกเปิดทิ้งไว้หรือเปล่า หรือมีใครลืมเปิดไฟทิ้งหรือไม่ นอกจากนี้ BMW Display Key ยังสามารถแสดงระยะทางที่รถวิ่งได้จากปริมาณน้ำมันที่เหลือในถัง ข้อมูลแจ้งเตือนเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ และสั่งให้รถติดเครื่องยนต์และเปิดแอร์เพื่อปรับอุณหภูมิห้องโดยสารให้เย็นก่อนที่คุณจะกลับมาขึ้นรถได้ด้วย
นี่เป็นความโดดเด่นเพียง 5 ข้อแรกของ BMW ซีรีส์ 5 โฉมใหม่เท่านั้น ตัวรถคันจริงยังมีเทคโนโลยีล้ำสมัยและน่าสนใจบรรจุเอาไว้อีกมาก ถ้าคุณผู้อ่านสนใจอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปค้นหาที่เวบไซต์อย่างเป็นทางการที่ www.bmw.co.th หรือตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านครับ