Highlight. | 2017.07.04

INTRODUCING THE NEW BMW 4 SERIES.

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นราวห้าปีก่อน เมื่อ BMW ตัดสินใจแยกไลน์การผลิตรถยนต์สองประตูของค่าย ไม่ว่าจะเป็นตัวถังรูปแบบ Coupe หรือ Convertible ออกมาเป็นซีรีส์เลขคู่ เพื่อกำหนดบุคลิกและแนวทางของรถยนต์ในซีรีส์ดังกล่าวให้แตกต่างและชัดเจนยิ่งขึ้น ในปี 2013 BMW 4 Series เวอร์ชันผลิตขายจริงเปิดตัวสู่สาธารณะชนทั่วโลกเป็นครั้งแรก และยังนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ BMW อีกด้วยที่มีการนำหมายเลข “4” มาใช้กับรถยนต์ของตน หลัง จากที่หมายเลขอื่นๆ ตั้งแต่ 1 ถึง 8 ถูกนำมาใช้ไปหมดแล้ว

 

ยอดขายทั่วโลกจำนวน 400,000 คัน ณ สิ้นปี 2016 คือสิ่งที่ตอกย้ำว่าแนวทางที่ BMW เลือกเดินในครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และยอมรับเถอะครับว่า BMW 4 Series เป็นรถที่สวยสะดุดตาแบบไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลมาอธิบาย มันโดดเด่นแม้แต่ตอนจอดติดอยู่ท่ามกลางจราจรอันหนาแน่นของกรุงเทพมหานครได้อย่างน่าอัศจรรย์ และในเมื่อฝาแฝดเวอร์ชันสี่ประตูของมันผ่านการปรับปรุงโฉม หรือ Life Cycle Impulse (LCI) กันไปก่อนหน้านี้แล้ว คราวนี้ก็ถึงคราวของรถยนต์สองประตูคันงานอย่าง BMW 4 Series บ้าง BMW Fascination ฉบับนี้ขอพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักกับ BMW 4 Series ใหม่ ก่อนที่จะได้พบตัวจริงกันในเร็วๆ นี้

Read more

ลุคสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยโคมไฟแบบ LED

 

เริ่มกันจากทางด้านหน้า BMW 4 Series ใหม่ทุกรุ่น จะได้รับการเปลี่ยนชุดโคมไฟหน้าจากแบบซีนอนมาเป็น Bi-LED เช่นเดียวกับไฟตัดหมอกที่เปลี่ยนมาเป็น LED เช่นกัน จานฉายทรงกลมภายในโคมถูกปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้ส่วนล่างตัดตรง และล้อมด้วยไฟ Daytime Running Light ส่วนด้านบนก็ถูกตัดตรงเพื่อให้เกิดเป็นมิติที่ดูเหมือน “คิ้ว” โดย BMW ได้เปลี่ยนตัวยึดหลอด Daytime Running Lights ให้มีสีเข้มขึ้น เพื่อทำให้โคมไฟหน้าดูใส มีมิติ และ “คูล” ขึ้น และยังดูไฮเทคมากขึ้นด้วย ทั้งหมดสอดรับกับชุดกันชนหน้าที่มีการปรับดีไซน์ช่องดักลมใหม่สำหรับทั้งรุ่นที่ตกแต่งแบบ Luxury และ Sport

 

ความโดดเด่นอีกจุดนึงของ BMW 4 Series ก็คือดีไซน์ของท้ายรถที่ลาดยาวดูสปอร์ต กับโคมไฟท้ายที่วางตามแนวนอน ซึ่งช่วยทำให้ซุ้มล้อหลังและสะโพกของรถดูอวบอิ่มและทรงพลังมากขึ้นเมื่อมองจากด้านหลัง ชุดโคมไฟท้ายถูกปรับปรุงใหม่เช่นกัน ความพิเศษอยู่ที่ไฟเบรกของ BMW 4 Series ที่จะไม่ถูกแบ่งเป็นเส้นๆ แยกตามหลอด LED แบบในรุ่นเดิมแล้ว ไฟจะสว่างขึ้นทั้งโคมต่อเนื่องกันเป็นชิ้นเดียวและกลมกลืนไปกับดีไซน์ของรถทั้งคันมากขึ้น แต่จะยังคงรักษาเอกลักษณ์ไฟท้ายรูปตัว L เอาไว้ตามแบบฉบับ BMW ยุคใหม่ ส่วนกันชนก็มีการปรับดีไซน์ให้บริเวณคิ้วและแผงดิฟฟิวเซอร์ใหม่เช่นกัน ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยลายใหม่ในทุกรุ่นย่อยทั้ง Luxury, Sport และ M Sport

ช่วงล่างปรับปรุงใหม่เพิ่มไดนามิกส์ในการขับขี่ (เฉพาะ BMW 4 Series Coupe)

 

ถึงแม้จะแชร์โครงสร้างตัวถังร่วมกับ BMW 3 Series แต่ BMW ตั้งใจปรับแต่งบุคลิกของ BMW 4 Series ให้มีจุดเด่นเรื่องความสปอร์ตมาตั้งแต่ต้น จุดศูนย์ถ่วงของ BMW 4 Series ถูกทำให้อยู่ต่ำกว่าฝาแฝดเวอร์ชันสี่ประตูอยู่ 40 มิลลิเมตร สำหรับรุ่น Coupe และ 20 มิลลิเมตร สำหรับรุ่น Convertible ความกว้างฐานล้อทั้งหน้าและหลังปรับเพิ่มขึ้นจากรุ่นซีดานอีก 14 และ 22 มิลลิเมตร ตามลำดับ เมื่อผนวกกับช่วงล่างที่ทำมาโดยยึดหลักการขับขี่ที่สนุกสนานเป็นพิเศษ ก็จะได้ออกมาเป็นสูตรสำเร็จแห่งการบังคับควบคุมที่คล่องตัวและกระฉับกระเฉง

 

มาคราวนี้ ช่วงล่างของ BMW 4 Series ถูกปรับให้มีความหนืดมากขึ้น และมีการปรับตั้งค่าพวงมาลัยมาใหม่ ซึ่งจะช่วยลดอาการโคลงตัวทั้งตามแนวยาวและแนวขวางของรถลงอย่างชัดเจน แม้ว่าภายในรถแต่ละครั้งจะมีจำนวนคนนั่งและน้ำหนักบรรทุกแตกต่างกัน คนขับจะสัมผัสได้ถึงเสถียรภาพและการตอบสนองที่เป็นกลางมากขึ้นโดยเฉพาะตอนที่ขับเข้าใกล้ขีดจำกัดของรถ และจะรู้สึกได้กับช่วงล่างทุกแบบทั้งมาตรฐานและ M Sport

 

ภายในยกระดับสัมผัสแห่งความหรูหรา

 

มีรถถนนเพียงไม่กี่คันที่ให้ความรู้สึกว่าคนขับคือศูนย์กลางของทุกอย่างในห้องโดยสาร และทีมออกแบบตั้งใจให้ BMW 4 Series คือหนึ่งในนั้น เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Dakota คุณภาพสูง พวงมาลัยสปอร์ตปรับปรุงให้สัมผัสดียิ่งขึ้น แผงหน้าปัดเดินด้ายตะเข็บคู่ คอนโซลกลางเอียงเข้าหาคนขับและประดับด้วยวัสดุสีดำเงา High-gloss black กรอบช่องแอร์เปลี่ยนมาเป็นผิวโลหะ และในรุ่น Convertible สวิทช์ควบคุมหลังคาไฟฟ้าและตัวช่วยส่งเข็มขัดนิรภัยบนเบาะคู่หน้าก็จะเป็นโลหะเช่นกัน ส่วนกรอบสวิทช์ควบคุมระบบปรับอากาศและเครื่องเสียงจะเป็นโครเมียม

 

แต่ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่หน้าจอของระบบ iDrive แบบใหม่ที่เปลี่ยนตัวเลือกเมนูเป็นแบบแผ่นสี่เหลี่ยม (Tile) โดยคนขับสามารถจัดเรียงเมนูและปรับแต่งหน้าตาเองได้ตามสะดวก ทำให้ใช้งานง่ายขึ้นมาก

 

BMW 4-Series ใหม่ เปิดตัวในตลาดโลกอย่างเป็นทางการกันไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคม 2017 ที่ผ่านมา สำหรับแฟน BMW ชาวไทยที่มีความสนใจในรถยนต์รุ่นนี้ ขอให้จับตารอข่าวคราวเคลื่อนไหวจาก บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) ทุกช่องทางครับ
 

Read more