Highlight | 2016.11.01

BMW X5 xDrive 40e: THE X FACTOR FOR EVERYONE IN THE FAMILY

พี่ชายคนโตแห่ง BMW ตระกูล X กลับมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ไม่ธรรมดา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ BMW นำระบบ Plug-in Hybrid มาใช้กับรถยนต์ SAV ของค่าย BMW X5 xDrive 40e คือรถที่ BMW ตั้งใจทำออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ตั้งแต่คุณพ่อบ้านที่รักความเร็ว คุณแม่บ้านที่อยากได้รถขับง่ายและทัศนวิสัยโปร่งสบาย ไปจนถึงเจ้าตัวเล็กวัยเริ่มซนที่การจะออกไปนอกบ้านแต่ละครั้ง ต้องขนของจนนึกว่ากำลังย้ายบ้านอยู่ ไม่รู้ว่าจะขออะไรมากกว่านี้อีก!

 

ถ้าจะมองย้อนกลับไป BMW X5 เป็นรถที่มีความสำคัญมากรุ่นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ BMW เพราะมันเป็นรถตรวจการณ์ขับเคลี่อนสี่ล้อรุ่นแรกของค่ายที่บัญญัติศัพท์คำว่า Sports Activity Vehicle (SAV) ขึ้นมาในวันที่โลกยังรู้จักแต่คำว่า Sports Utility Vehicle (SUV) แต่ในอดีตปัญหาหลักของรถประเภทนี้คือ พวกมันมักจะบริโภคน้ำมันอย่างดุเดือด ขับได้ไม่คล่องตัว และปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือเวลาที่คุณพ่อบ้านต้องการไปเร็วแบบด่วนจี๋ BMW เล็งเห็นข้อจำกัดดังกล่าวจึงอาศัยความเชี่ยวชาญของพวกเขาตามสโลแกน The Ultimate Driving Machine มาลงมือสร้างรถ SUV โดยไม่ลืมที่จะเติมบุคลิกการขับขี่ที่เป็นหนึ่งเดียวกับผู้ขับตามสไตล์ BMW ลงไป แล้วตั้งชื่อรถประเภทนี้ซะใหม่ว่า SAV อย่างที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้

Read more

ทุกอย่างยิ่งถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้นเมื่อเป็น BMW X5 xDrive 40e ที่ออกมาทดแทน BMW X5 xDrive 30d รุ่นเดิม ระบบขับเคลื่อนประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ TwinPower Turbo 2.0 ลิตร เชื่อมเข้ากับชุดมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ eDrive ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นรถ SAV ที่ประหยัดน้ำมันระดับ 31.3 กม./ลิตร* แต่มีพละกำลังถึง 313 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เร้าใจระดับ 6.8 วินาที ซึ่งคงไม่ต้องอธิบายให้เปลืองเนื้อที่ว่ามันสามารถแก้ปัญหาสามอย่างข้างต้นได้ไหม อย่างไรก็ตาม ตัวเลขพวกนั้นยังแปลว่าคุณพ่อบ้านจะสามารถไปส่งลูกที่โรงเรียน ส่งภรรยาไปชอปปิ้ง แล้วพาตัวเองไปซิ่งต่อได้ใน BMW X5 xDrive 40e คันเดียวจบ! (และลุยน้ำท่วมขังตามความจำเป็น...) โดยมีปุ่มเลือกโหมด Eco Pro, Comfort, Sport และ Sport+ ที่จะปรับช่วงล่าง ความไวของอัตราทดพวงมาลัย และการตอบสนองของเครื่องยนต์ไปตามต้องการ ทำให้รถตอบสนองกิจกรรมที่แตกต่างในชีวิตได้ดีขึ้น

นอกจากสมรรถนะอันยอดเยี่ยมแล้ว ส่วนอื่นก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน BMW เลือกใส่ออพชันและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายมาให้เต็มที่ ภายนอกตกแต่งแบบ M Sport ประกอบด้วยกันชนหน้าดีไซน์เฉียบขาดด้วยช่องดักลมขนาดใหญ่ ล้ออัลลอยขนาด 20” คิ้วโป่งล้อรอบคันเป็นสีเดียวกับตัวรถ และปลายท่อไอเสียออกสองฝั่งไว้ในมุมกันชนหลังอย่างสวยงาม ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ไฟหน้า LED ที่มาพร้อมเทคโนโลยี BMW Selective Beam โคมไฟจะปรับเป็นตำแหน่งไฟสูงอัตโนมัติ จึงสามารถส่องสว่างได้ไกลถึง 400 เมตร เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัยในเวลากลางคืน แต่เมื่อตรวจพบว่ามีรถวิ่งสวนมาในเลนตรงข้าม ระบบก็จะจัดการแหวกลำแสงหลบให้อัตโนมัติโดยที่คนขับยังสามารถมองทัศนวิสัยได้ไกลอยู่

ภายในเริ่มจากพวงมาลัย M ทรงสปอร์ต เครื่องเสียง Harman Kardon พร้อมจอกลางขนาด 10.25” ที่เชื่อมกับกล้องรอบคัน สามารถเลือกแสดงภาพได้ 3 รูปแบบ คือ Surround View แสดงภาพจากด้านข้างและท้ายรถต่อกันเป็นมุมมอง Bird’s-eye view, Side View แสดงภาพจากกล้องหน้ารถสองตัวให้มุมมองกว้างพิเศษ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุกับรถที่วิ่งผ่านหน้าไปบนทางแยก และ Rear View แสดงภาพท้ายรถพร้อมเส้นสมมติบนหน้าจอเพื่ออำนวยความสะดวกขณะถอยจอด ระบบควบคุม iDrive Touch Controller รุ่นใหม่สามารถใช้พื้นผิวด้านบนของปุ่มได้ในรูปแบบเดียวกับแป้นเมาส์บนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ลากนิ้วเป็นตัวอักษรเวลาป้อนคำสั่งให้กับระบบนำทางได้อย่างเท่ๆ ตัวระบบนำทางยังสามารถคำนวณหาและแนะนำเส้นทางที่ประหยัดพลังงานที่สุดได้แบบ Real-time ส่วนระบบปรับอากาศก็แยกปรับได้ถึง 4 โซน จบประเด็นในทุกตำแหน่งที่นั่งไม่ต้องปล่อยให้ใครหนาวหรือร้อนเกินไปอีกต่อไป 

 

พอเวลาพลบค่ำหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมกับเพื่อนฝูงขาซิ่ง คุณพ่อบ้านก็สามารถปรับบรรยากาศห้องโดยสารตกแต่งให้ดูผ่อนคลายด้วยไฟ LED Ambient Light ที่เลือกได้ถึง 3 โทนสี ก่อนที่จะฝ่ารถติดไปรับภรรยาและคุณลูกกลับบ้าน ขอแค่อย่าลืมปรับโหมดเป็น Comfort ตอนเจอหน้ากันก็พอ

Read more